*หมายเหตุ: บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์ The Last of Us ตอนแรก
เรียกว่าเป็นซีรีส์ที่ใครหลายคนรอชม สำหรับ The Last of Us ซีรีส์ระทึกขวัญเอาชีวิตรอดจาก HBO ที่ดัดแปลงมาจากเกมยอดฮิตในชื่อเดียวกันของค่ายผู้พัฒนา Naughty Dog โดยซีรีส์ได้ Neil Druckmann หนึ่งในผู้กำกับเกม The Last of Us Part I-II และ Craig Mazin ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของซีรีส์ยอดฮิตอย่าง Chernobyl (2019) มารับหน้าที่เขียนบทและดูแลงานสร้าง พร้อมด้วยนักแสดงมากฝีมืออย่าง Pedro Pascal และ Bella Ramsey มาร่วมรับบทนำ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อโลกต้องเผชิญกับเชื้อรามรณะที่แพร่กระจายสู่มนุษย์ จนทำให้ผู้ที่ติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้คลั่ง จนเวลาล่วงเลยมานานกว่า 20 ปี Joel (Pedro Pascal) ชายหนุ่มที่รอดชีวิตมาจากเหตุการณ์ระบาดครั้งใหญ่และอาศัยอยู่ในเขตกักกันของกลุ่ม Fedra เขาได้รับภารกิจสำคัญจากกลุ่มกบฏ Fireflies ให้นำตัว Ellie (Bella Ramsey) เด็กสาววัย 14 ปี ผู้กุมความลับสำคัญบางอย่างเอาไว้ไปส่งในสถานที่แห่งหนึ่ง Joel และ Ellie จึงต้องออกเดินทางท่ามกลางโลกที่ล่มสลาย
ส่วนตัวผู้เขียนไม่เคยมีโอกาสได้เล่นเกม The Last of Us ต้นฉบับมาก่อน แต่เราก็พอจะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเกมนี้มาพอสมควร โดยเฉพาะคุณภาพของเนื้อเรื่องที่นำเสนอเรื่องราวของตัวละครออกมาได้อย่างลึกซึ้ง จนได้รับเสียงชื่นชมจากผู้เล่นอย่างล้นหลาม และส่งให้ตัวเกม The Last of Us กวาดรางวัลจากเวทีเกมมาได้มากมาย โดยเฉพาะ The Last of Us Part II ที่คว้ารางวัลจาก The Game Awards 2020 มาได้ถึง 6 สาขา รวมถึงสาขาใหญ่ของงานอย่าง Game of the Year
จึงไม่แปลกนักที่คอเกมหลายคนต่างตั้งตารอชม The Last of Us ฉบับซีรีส์ไลฟ์แอ็กชันเรื่องนี้กันอย่างเนืองแน่น โดยเฉพาะเมื่อตัวซีรีส์ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์อย่างเป็นเอกฉันท์ กับคะแนนรีวิวบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ที่สูงถึง 99% และคะแนนจากฝั่งผู้ชมทั่วไปที่สูงถึง 96%
โดยความรู้สึกของผู้เขียนหลังจากได้ชม The Last of Us ตอนแรกจบ ก็เรียกได้ว่าทีมสร้างสามารถเอาชนะใจเราได้อย่างอยู่หมัดตั้งแต่ตอนแรกจริงๆ
จุดเด่นข้อแรกที่เราอยากหยิบยกมากล่าวถึงคือ การดำเนินเรื่องของซีรีส์ที่ลำดับเรื่องราวและอารมณ์ของเรื่องได้น่าสนใจมากๆ ตั้งแต่การปูพื้นฐานให้เราได้รู้จักกับโลกของ The Last of Us อย่างครบถ้วนตั้งแต่ 30 นาทีแรกของเรื่อง ทั้งการอธิบายเกี่ยวกับเชื้อรามรณะว่ามันคืออะไร และความอันตรายของมันเป็นอย่างไร ก่อนที่ซีรีส์จะฉายภาพให้เราเห็นถึงวันแรกของการระบาดครั้งใหญ่ที่ชุลมุนวุ่นวาย ผ่านสายตาของตัวละครหลักอย่าง Joel และครอบครัว ที่จู่ๆ ก็ต้องเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ที่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นจึงตัดสลับมาที่เรื่องราวในปัจจุบัน เพื่อฉายภาพให้เราเห็นว่าการระบาดครั้งนั้นส่งผลกระทบมาถึงผู้คนในปัจจุบันอย่างไร
แม้การลำดับเรื่องดังกล่าวจะไม่ได้มีความซับซ้อนหรือมีจังหวะจะโคนที่หวือหวามากนัก แต่มันก็มีส่วนช่วยให้เราทำความเข้าใจองค์ประกอบสำคัญต่างๆ ทั้งเซ็ตติ้งของเรื่องและภูมิหลังของตัวละครได้อย่างครบถ้วน จนสามารถพาเราเข้าสู่โลกที่ทีมสร้างอยากนำเสนอได้ในทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องเคยมีประสบการณ์ร่วมกับตัวเกมต้นฉบับมาก่อน
อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ทีมสร้างนำเสนอได้ดีไม่แพ้กันคือ บรรยากาศของเรื่องที่อบอวลไปด้วยความตึงเครียดจริงจัง ไม่ได้มีฉากที่ดูยิ่งใหญ่หวือหวา หรือฉากไล่ล่าระทึกขวัญบีบหัวใจ จึงทำให้เราสัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังและป่าเถื่อนของโลกที่ล่มสลายได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังช่วยให้เราสามารถโฟกัสไปที่เรื่องราวและอารมณ์ของตัวละครได้เต็มที่ ทั้งความสัมพันธ์ระหว่าง Joel และ Sarah (Nico Parker) ผู้เป็นลูกสาว หรือแง่มุมเทาๆ ของเขาที่เห็นแก่ตัวเช่นกัน รวมถึงความเจ็บปวดที่เขาต้องแบกรับมาตลอด 20 ปี
ซึ่งเราต้องขอปรบมือให้กับ Pedro Pascal กับการถ่ายทอดมวลความรู้สึกของ Joel ที่น้อยแต่มาก ออกหมัดไม่เยอะแต่หนักแน่นทุกครั้ง จนทำให้เราตกหลุมรักและไม่อาจละสายตาไปจากตัวละครตัวนี้ได้จริงๆ
ทั้งหมดนี้คือความรู้สึกของผู้เขียนที่มีต่อ The Last of Us ตอนแรกเท่านั้น แต่ด้วยการนำเสนอที่ชวนให้เราก้าวเข้าสู่โลกของซีรีส์ได้ในทันที และตีบวกด้วยการแสดงอันยอดเยี่ยมของ Pedro Pascal ก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้เราอยากติดตามต่อไปว่าการเดินทางของ Joel และ Ellie บนโลกที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังใบนี้จะเป็นอย่างไร
และสำหรับใครที่ไม่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อน ส่วนตัวเราคิดว่า The Last of Us เป็นซีรีส์แนวระทึกขวัญเอาชีวิตรอดอีกหนึ่งเรื่องที่เราอยากแนะนำ เนื่องด้วยกลวิธีนำเสนอที่เรากล่าวไปข้างต้น จึงทำให้เราสามารถอินไปกับเรื่องราวของตัวละครได้ไม่ยาก แม้ว่าเราจะไม่เคยรู้จักตัวละครหรือไม่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อนก็ตาม
สามารถรับชม The Last of Us ตอนแรกได้แล้วทาง HBO GO และรับชมตอนใหม่ได้ทุกวันจันทร์
รับชมตัวอย่างได้ที่:
อ้างอิง:
