เมื่อวานนี้ (8 กรกฎาคม) เอ็ดการ์ส รินเควิกส์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลัตเวีย สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีลัตเวียคนใหม่ นับเป็นประมุขแห่งรัฐ (Head of State) และประธานาธิบดีที่เปิดเผยรสนิยมทางเพศของตนว่าเป็น LGBTQIA+ คนแรกในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU)
แม้โดยทั่วไปตำแหน่งดังกล่าวมักจะเป็นตำแหน่งในเชิงพิธีการ แต่ประธานาธิบดีลัตเวียเองก็มีสิทธิยับยั้งกฎหมายและจัดให้มีการลงประชามติระดับชาติได้
ที่ผ่านมา EU เคยมีนายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้ารัฐบาล (Head of Government) ที่เปิดเผยรสนิยมทางเพศของตนว่าเป็น LGBTQIA+ มาแล้ว 5 คน ไม่ว่าจะเป็น โจฮันนา ซิกูร์ดาร์ดอททีร์ อดีตนายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์ (ปี 2009-2013), เอลิโอ ดิ รูโป อดีตนายกรัฐมนตรีเบลเยียม (ปี 2011-2014), ซาวีเยร์ เบตแตล นายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก, ลีโอ วารัดคาร์ นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ และ อนา บีร์นาบิก นายกรัฐมนตรีเซอร์เบีย แต่ EU ไม่เคยมีประมุขแห่งรัฐที่เปิดเผยรสนิยมทางเพศของตนว่าเป็น LGBTQIA+ มาก่อน
รินเควิกส์เปิดเผยรสนิยมทางเพศของตนเองครั้งแรกในปี 2014 และเป็นกระบอกเสียงสำคัญในการขับเคลื่อนสิทธิของกลุ่ม LGBTQIA+ นับตั้งแต่นั้นมา แม้ว่าการสมรสของเพศเดียวกันจะยังไม่มีกฎหมายรับรองอย่างถูกต้องในลัตเวีย แต่เมื่อปี 2022 ศาลรัฐธรรมนูญลัตเวียได้รับรองสถานะคู่ชีวิตของคู่รัก LGBTQIA+ แล้ว
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รินเควิกส์ได้รับเลือกจากรัฐสภาลัตเวียให้เขาเตรียมขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปของลัตเวีย ในการโหวตลงคะแนนเสียงรอบที่ 3 เพื่อหาผู้นำลัตเวียคนใหม่
ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ รินเควิกส์ประกาศว่าเขาจะสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับกองทัพรัสเซีย พร้อมทั้งกล่าวสนับสนุนให้ชาวลัตเวียรุ่นใหม่ทำลายเพดานแก้วในสังคมลัตเวีย เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน และให้คำมั่นว่าเขาจะยืนหยัดเพื่อสร้างลัตเวียที่ทันสมัยและแข็งแกร่ง ถูกต้องและยุติธรรม เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน เพื่อสังคมที่ครอบคลุมและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ลัตเวียเป็น 1 ใน 3 ประเทศแถบทะเลบอลติกที่ตัดสินใจเข้าร่วม EU ในปี 2004 ภายหลังจากที่แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียตที่ล่มสลายลงในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 โดยรินเควิกส์จะเป็นตัวแทนของลัตเวียเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ NATO ที่จะจัดขึ้นที่กรุงวิลนีอุส เมืองหลวงของประเทศเพื่อนบ้านอย่างลิทัวเนีย ในวันที่ 11-12 กรกฎาคมนี้
แฟ้มภาพ: Gints Ivuskans / AFP
อ้างอิง: