×

เพลิงบุญ-หลงไฟ ทางเลือกเมื่อเบื่อ ‘นางเอก’ โลกสวย

โดย สะเลเต
21.08.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 mins read
  • ‘ใจเริง’ และ ‘ก้านแก้ว’ คือตัวละครที่สะท้อนชีวิตมนุษย์ปุถุชนทั่วไปที่เห็นได้ตามท้องถนน ซึ่งผลการกระทำของพวกเธอก็ทำให้ชีวิตไม่ได้ลงเอยแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งเช่นนางเอกคนอื่นๆ ดังนั้นทุกครั้งที่เสพความร้ายของพวกเธอ ก็จงใช้สติควบคู่ไปด้วย

     ตามขนบละครไทย ไม่ว่าจะเรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ แก่นเซี้ยวเปรี้ยวซ่า หรือสู้คนเพียงใด ‘นางเอก’ ก็ต้องแสนดี ไม่มีนิสัยอันไม่พึงประสงค์ ดังนั้น เราจึงไม่ค่อยเห็นตัวละครหลักอย่าง ‘ลำยอง’ ใน ทองเนื้อเก้า ที่มั่วผู้ชาย เมาหัวราน้ำ หรือชอบไปยุ่งกับสามีชาวบ้านอย่าง ‘เรยา’ ใน ดอกส้มสีทอง บ่อยนัก

     ทว่าเมื่อใดที่มีตัวละครเช่นนี้ออกมาปรากฏในหน้าจอก็เรียกเสียงฮือฮาได้ทุกครั้ง

     เช่นเดียวกับล่าสุด ‘ใจเริง’ แห่ง เพลิงบุญ และ ‘ก้านแก้ว’ จาก หลงไฟ กำลังถูกพูดถึงมากในขณะนี้จน #เพลิงบุญ #หลงไฟ #ใจเริง #ทีมก้านแก้ว กลายเป็นเทรนด์ฮิตในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์รัวๆ

บางฉากไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่จริตในการชม้ายชายตาก็ทำให้เชื่อแล้วว่านี่คือ ‘ใจเริง’ ไม่ใช่ ‘เจนี่’

 

ทางเลือกเมื่อเบื่อ ‘นางเอก’ โลกสวย

     เพลิงบุญ นั้น เป็นละครทางช่อง 3 ที่ผู้จัดละคร จ๋า-ยศสินี ณ นคร แห่งค่ายเมคเกอร์ วาย หยิบมาปัดฝุ่นทำใหม่อีกครั้ง หลังคุณแม่จิ๋ม-มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช เคยทำไว้จนขึ้นหิ้งเป็นละครในตำนานเมื่อปี 2539

 

 

     ครั้งนี้ได้ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ มาเป็น ‘ใจเริง’ หญิงสาวเอาแต่ใจ นิสัยชอบเอาชนะที่เข้าไปป่วนชีวิตคู่ข้าวใหม่ปลามันของ ‘ฤกษ์’ (ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) และ ‘พิมาลา’ (เบลล่า-ราณี แคมเปน) ซึ่งฝ่ายชายเป็นแฟนเก่าที่เธอเคยทิ้งเพื่อไปแต่งงานกับหนุ่มเศรษฐี ส่วนฝ่ายหญิงเป็นเพื่อนรักที่เธอเคยมีบุญคุณช่วยเหลือไว้  

     แม้เรื่องนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่า ‘ใจเริง’ เป็นนางร้ายที่เข้าไปทำให้ครอบครัวของพระเอกนางเอกสั่นคลอน แต่การดำเนินเรื่องกลับให้น้ำหนักมากจนบทบาทของเธอโดดเด่นพอๆ กับนางเอก หรือเผลอๆ อาจมากกว่าด้วยซ้ำ ฉะนั้นคงไม่มากไปถ้าจะยกให้เป็น ‘นางเอก’ (ร้ายๆ) อีกคน

 

 

     ส่วน หลงไฟ เป็นละครหนึ่งในโปรเจกต์ ‘The Writer’ โดยผู้จัด ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ทางช่อง GMM25 ที่ได้ ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ มารับบท ‘ก้านแก้ว’ นักศึกษาสาวจากบ้านนอกฐานะยากจนที่ดิ้นรนอยากมีชีวิตดีๆ เพื่อหนีจากป้าจอมงกและลุงที่หวัง ‘เคลม’ เธอเลยทำงานพิเศษเป็นสาวเอสคอร์ต คอยเป็นเพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน และเพื่อนนอน โดยระหว่างนั้นก็บริหารเสน่ห์ให้ความหวังผู้ชายทุกคนที่เข้ามา และมองหาผู้ชายรวยๆ เพื่อเป็นหลักยึดในชีวิต  

     แม้จะต่างช่องต่างผู้จัด แต่ละครทั้งสองก็มาจากปลายปากกาของนักประพันธ์ชั้นครู กฤษณา อโศกสิน เหมือนๆ กัน ฉะนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ หากใจเริงและก้านแก้วจะสะท้อนชีวิตมนุษย์ปุถุชนทั่วไปได้อย่างถึงพริกถึงขิง จนสามารถพบเห็นมนุษย์นิสัยแบบ 2 คนนี้ได้ตามท้องถนนทั่วไป เพราะผลงานของกฤษณา อโศกสิน ขึ้นชื่อว่ากะเทาะเปลือกสังคมได้อย่างสะใจและถึงแก่น แถมตอนจบก็ไม่ใช่จะแฮปปี้เอ็นดิ้งเสมอไป

     นี่เลยอาจเป็นเหตุให้คอละครที่เบื่อแนวทางเดิมๆ เบื่อเรื่องราวของนางเอกโลกสวยที่ลงเอยด้วยความสุขให้หันมาเอาใจช่วยผู้หญิงร้ายๆ แรงๆ ที่ชีวิตไม่รู้จะจบลงอย่างไรดูบ้าง  

ถ้าชายใดชมละครเรื่องนี้แล้วไม่หลงเสน่ห์ใบเฟิร์นคงต้องกลับไปทบทวนความเป็นชายในตัวคุณ

 

ถึง ‘ร้าย’ ก็ ‘ดัง’ นะ  

     นอกจากตัวละครสีเทาๆ (ค่อนไปทางดำ) ที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชม การเลือกนักแสดงมารับบทก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ละคร ‘ปัง’ หรือ ‘พัง’ ได้เท่าๆ กัน เพราะบทแรงๆ ถ้าได้คนมือไม่ถึง จากความตั้งใจให้เป็น ‘จุดขาย’ อาจได้กลายเป็น ‘จุดอาย’ แทน

     ละครประเภทนี้จึงมักเลือกนางเอกแถวหน้ามาทำหน้าที่จนหลายครั้งกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ดาราหลายคนดังเปรี้ยงกว่าเดิม

     อย่างนางเอกสวยหวาน นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี ที่คว้ารางวัลหลายเวทีจากการแสดงเป็น ‘ลำยอง’

     ส่วน ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต ก็แจ้งเกิดอีกครั้งกับช่อง 3 ในบทบาท ‘เรยา’

     หรืออย่าง ‘ใจเริง’ เวอร์ชันเก่าที่ได้ หน่อย-บุษกร วงศ์พัวพันธ์ มารับบทแทน เก๋-บุญพิทักษ์ จิตต์กระจ่าง ซึ่งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต หลังจากถ่ายทำไปแล้ว 2 ตอน แม้ตอนนั้นวัยของหน่อยจะดูขัดแย้งกับ แอน ทองประสม ที่ต้องเล่นเป็นเพื่อนรักกัน แต่เธอก็ทำได้ดีมากจนกลายเป็นการแจ้งเกิดในวงการบันเทิงหลังแสดงละครมาแล้วหลายเรื่อง แถมยังได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 11 ประจำปี 2539 สาขานักแสดงสนับสนุนหญิงดีเด่นอีกด้วย

     ขณะที่ครั้งนี้นับเป็นการพลิกเล่นร้ายครั้งแรกของเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ ในรอบ 20 ปีตั้งแต่เข้าวงการมา แม้ก่อนหน้าจะรับบทแรงๆ อย่าง ‘มุนินทร์’ ใน แรงเงา ที่มาตามทวงแค้นให้ฝาแฝด แต่นั่นยังถือสถานะนางเอกอยู่

     ถึงอย่างนั้นใน เพลิงบุญ เจนี่ก็ยังเป็นเจนี่ที่ไม่เคยทำให้ผู้ชมผิดหวังกับทุกบทบาท แม้แต่บทร้ายที่เล่นตั้งแต่เป็นเด็กมัธยมเอาแต่ใจ กระทั่งโตเป็นแม่หม้ายสาวพราวเสน่ห์ ซึ่งบางฉากไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่จริตในการชม้ายชายตาก็ทำให้เชื่อแล้วว่านี่คือ ‘ใจเริง’ ไม่ใช่ ‘เจนี่’ ดูแล้วจึงมีโอกาสมากที่เธอจะคว้ารางวัลซ้ำรอยใจเริงในเวอร์ชันก่อน

     แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดๆ ก็คือ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก กับการทิ้งลุคนางเอกวัยรุ่นสวยใสที่หลายคนติดตามาเป็นสาวเอสคอร์ต คอยปรนนิบัติปรนเปรอชาย หว่านเสน่ห์ใส่หนุ่มๆ ไปทั่ว โดยทั้งรูปร่างหน้าตา มารยาในการอ่อยเอาไปเลย 10 คะแนนเต็ม เพราะถ้าชายใดชมละครเรื่องนี้แล้วไม่หลงเสน่ห์ใบเฟิร์นคงต้องกลับไปทบทวนความเป็นชายในตัวคุณ ส่วนฉากดราม่าน้อยเนื้อต่ำใจกับโชคชะตาหรือต้องบู๊กับลุงจอมหื่นที่หวังเคลม เธอก็ทำได้อย่างไม่มีที่ติ ซึ่งในอนาคตน่าจะขึ้นแท่นเป็นตัวแม่ทางการแสดงได้ไม่ยาก

บ้านเราดูละครเพื่อความบันเทิงกันเสียจนเคยชิน จนอาจลืมไปว่าหน้าที่ของละครมีมากกว่าแค่ให้ความสนุก

 

ริจะร้าย ต้องใช้ ‘สติ’ ด้วย (นะจ๊ะ)

     อย่างไรก็ตามแม้ละครที่มีนางเอกร้ายๆ แรงๆ จะเป็นอีกรสชาติให้ผู้ชมได้ลิ้มลอง รวมถึงเป็นจุดแจ้งเกิดของดาราดังหลายคน แต่อีกทางหนึ่งก็อาจเป็นดาบสองคมได้เหมือนกัน หากผู้ชมอย่างเราๆ จดจ่อกับ ‘ความแรง’ ของตัวละครจนมองข้าม ‘แก่นเรื่อง’ ไป

     เราอาจจะก่นด่า ‘ใจเริง’ ผู้หญิงเอาแต่ใจ ชอบเอาชนะ กล้าแย่งสามีเพื่อนแบบหน้าด้านๆ โดยลืมมองไปว่าที่เธอเป็นเช่นนั้นก็เพราะถูกพ่อแม่ตามใจมาตั้งแต่เล็ก แถมไม่เคยมีใครขัดใจจนโตมาเป็นผู้ใหญ่นิสัยเสีย เอาแต่ตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลก  

     หรือเราอาจจะทึ่งกับมารยาการอ่อยผู้ชายของ ‘ก้านแก้ว’ จนได้นาฬิกาเรือนละ 5.7 แสนมาครอง โดยลืมคิดไปว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย

 

 

     ทั้งที่จริงๆ แล้ว เพลิงบุญ และ หลงไฟ ให้ข้อคิดดีๆ หลายอย่าง เพียงแต่บ้านเราดูละครเพื่อความบันเทิงกันเสียจนเคยชิน จนอาจลืมไปว่าหน้าที่ของละครมีมากกว่าแค่ให้ความสนุก เพราะอุทาหรณ์สอนใจเหล่านั้นสามารถนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในทางที่ดีขึ้น

     จะดีกว่าไหม ถ้าเราก่นด่า ‘ใจเริง’ พร้อมๆ กับเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางให้น้อยลง ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นให้มากขึ้น  

     หรือจะดีกว่าไหม ถ้าเราทึ่งกับมารยาการอ่อยผู้ชายของ ‘ก้านแก้ว’ แล้วลดความอยากได้อยากมี ใช้ชีวิตให้พอดีกับระดับฐานะของตัวเองจะได้ไม่ต้องดิ้นรนจนหลงไปในหนทางที่ผิด

     เพราะอย่างที่บอกว่า ‘ใจเริง’ และ ‘ก้านแก้ว’ คือตัวละครที่สะท้อนชีวิตมนุษย์ปุถุชนทั่วไปที่เห็นได้ตามท้องถนน ซึ่งผลการกระทำของพวกเธอก็ทำให้ชีวิตไม่ได้ลงเอยแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งเช่นนางเอกคนอื่นๆ

     ดังนั้น ทุกครั้งที่เสพความร้ายของพวกเธอ ก็จงใช้สติควบคู่ไปด้วย

     ไม่เช่นนั้นอาจจะมีใจเริงคนที่ 2 คนที่ 3 หรือก้านแก้วคนที่ 4 คนที่ 5 ออกมาโลดแล่นอยู่ในโลกแห่งความจริงก็ได้

     ใครจะรู้!

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X