ถึงวันนี้ร้านกาแฟยังแข่งขันกันที่รสชาติ Specialty และต้องมีหลายสาขาให้เข้าถึงง่าย THE COFFEE CLUB เดินหน้าตามเป้าหมายเร่งเพิ่มสัดส่วนลูกค้าคนไทย พร้อมขนทัพเมนูสุขภาพเปิด 24 ชั่วโมงที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ย้ำ เมนูอเมริกาโนขายเพียงแก้วละ 60 บาท
“หัวใจสำคัญที่ทำให้เราเข้ามาเปิดสาขาในย่านมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาล นับเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานเพิ่มสัดส่วนลูกค้าคนไทย เพราะปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าของร้านยังเป็นนักท่องเที่ยวอยู่ 60% การที่เรานำร้านเข้าไปเสิร์ฟในย่านที่คนไทยอาศัยอยู่จำนวนมาก จะช่วยให้บริหารความเสี่ยงในช่วงโลว์ซีซันได้” นงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป THE COFFEE CLUB ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เอ็มเอฟ คาเฟ่ แอนด์ เรสเตอรองต์ จำกัด กล่าว
สำหรับ THE COFFEE CLUB สาขาคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะเป็นร้านโมเดล Grab & Go และเป็นคอนเซปต์ใหม่ที่ออกแบบผ่านแนวคิดความยั่งยืน เช่น โต๊ะและที่นั่งจากพลาสติกรีไซเคิล และให้บริการแค่เมนูเครื่องดื่มและเบเกอรี ซึ่งจะแตกต่างจากสาขาทั่วไปที่จะให้บริการอาหารด้วย โดยใช้งบลงทุนไม่สูงมากเพราะไม่มีครัวใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เรียกว่าเป็นสาขา 2 ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง หลังจากทดลองที่สาขาย่านทองหล่อไปแล้วพบว่าได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี เราเชื่อว่าสาขาดังกล่าวจะมีนิสิตเข้ามาใช้บริการ และผู้ที่เข้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาลด้วย ดังนั้นจึงนำเมนูเครื่องดื่มและเบเกอรีเข้ามาตอบโจทย์ด้วย
สิ่งที่น่าสนใจของสาขานี้คือ กาแฟเริ่มต้น 60 บาท ซึ่งมีราคาถูกกว่าสาขาอื่นประมาณ 40% เพราะร้านอยากสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนเมนูเบเกอรี ขนมปัง แซนด์วิชก็จะมีตัวเลขแคลอรีบอกถึงพลังงานที่จะได้รับด้วย ซึ่งประเมินว่าสาขาดังกล่าวจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการ 400-500 คนต่อวัน
ขณะเดียวกันร้านนำเสนอเมล็ดกาแฟซิกเนเจอร์ใหม่ ที่ผสมผสานเอกลักษณ์จาก 3 แหล่งปลูกกาแฟชั้นนำระดับโลก ได้แก่ บราซิล โคลอมเบีย และอินเดีย เหมาะสำหรับการชงทั้งกาแฟดำและกาแฟนม เชื่อว่าจะตอบโจทย์คอกาแฟอย่างมาก
นงชนกกล่าวต่อถึงทิศทางการขยายสาขาต่อจากนี้ ในปี 2568 เตรียมเปิดร้านเพิ่ม 4-5 สาขา ทั้งกรุงเทพฯ และในจังหวัดท่องเที่ยว จากปัจจุบันมีทั้งหมด 43 สาขา เรามองว่าช่องว่างและโอกาสในตลาดยังมีอีกมาก เพราะนักท่องเที่ยวยังเข้ามาเที่ยวในไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนร้านที่จะเปิด 24 ชั่วโมงนั้นจะพิจารณาตามพื้นที่ที่มีทราฟฟิกหนาแน่นเท่านั้น
พร้อมเน้นจัดกิจกรรมในบริเวณพื้นที่สาขา ควบคู่กับการจัดโปรโมชันให้สมาชิก โดยปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ที่ 240,000 คน
สุดท้ายแล้วกลยุทธ์ทั้งหมดจะช่วยผลักดันรายได้และกำไรให้โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นปี 2567 THE COFFEE CLUB จะมีรายได้เติบโต 9% ในช่วงไตรมาส 4 จะขายดีสุด และปีนี้สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เพราะที่ผ่านมาปิดร้านที่ไม่ทำกำไร ทำให้ตอนนี้ไม่มีสาขาที่ขาดทุนแล้ว