คุณจะทำอย่างไร หากเพื่อนสนิทดันแอบหลงรักว่าที่ภรรยาของคุณ
คุณจะทำอย่างไร หากเพื่อนสนิทเดินทางมาหาคุณในวันฮันนีมูน
คุณจะทำอย่างไร หากเพื่อนสนิทมาบอกว่าเขาหลับนอนกับว่าที่ภรรยาของคุณ
‘เลิกคบกับเพื่อนคนนี้’ น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ใครหลายคนคิดถึง แต่ไม่ใช่สำหรับ ไคล์ หนึ่งในตัวละครหลักจากภาพยนตร์เรื่อง The Climb ที่แม้ว่า ไมค์ เพื่อนรักของเขาจะทำทุกหัวข้อที่เรากล่าวมา แต่ไคล์ก็ไม่อาจละทิ้งเพื่อนของตัวเองลงได้
ซึ่งเรื่องราวมิตรภาพแปลกๆ งงๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานเหล่านี้ ก็ส่งให้ The Climb ได้รับรางวัลชนะใจกรรมการจากเทศกาล Cannes Film Festival 2019 ในสาย Un Certain Regard และได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes อย่างล้นหลามด้วยคะแนนมะเขือเทศสดถึง 90 เปอร์เซ็นต์
ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวมิตรภาพสุดป่วนของ ไมค์ (ไมเคิล โควิโน) และ ไคล์ (ไคล์ มาร์วิน) สองเพื่อนสนิทที่มีนิสัยแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว แต่ก็คบหากันมาอย่างยาวนาน ซึ่งแม้ว่าจะมีเหตุให้ทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็กลับมาคืนดีกันได้เสมอ
นี่คือพล็อตเรื่องสั้นๆ ที่ดูเหมือนจะธรรมดา แค่ผู้กำกับอย่าง ไมเคิล คอวิโน และมือเขียนบทคู่ซี้อย่าง ไคล์ มาร์วิน สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างตลกขบขันและชวนให้เราร่วมขบคิดถึงความหมายของคำว่า ‘มิตรภาพ’ ของทั้งคู่ ซึ่งไมเคิลและไคล์ยังตัดสินใจลงสนามมารับบทเป็นสองเพื่อนสนิทด้วยตัวเอง แถมยังใช้ชื่อของตัวเองมาตั้งเป็นชื่อตัวละครอีกด้วย
ความโดดเด่นอย่างแรกที่เราชื่นชอบมากๆ คือการเล่าเรื่องด้วยเทคนิค Long Take (การถ่ายโดยไม่มีการตัดต่อตลอดทั้งฉาก) ที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี และมีจังหวะการเคลื่อนกล้องที่ลื่นไหล เริ่มตั้งแต่การถ่ายภาพมุมกว้างเพื่อให้เราเห็นบรรยากาศโดยรอบของฉาก ก่อนที่จะค่อยๆ เลื่อนเข้าใกล้นักแสดงในช่วงบทสนทนา
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้การถ่าย Long Take ออกมาสมบูรณ์แบบ คือการแสดงของไมเคิลและไคล์ที่ถ่ายทอดสองคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วออกมาได้อย่างโดดเด่น
เริ่มตั้งแต่ ไคล์ ชายหนุ่มผู้มีจิตใจอ่อนโยน ชอบช่วยเหลือผู้คนและคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ ในขณะที่เพื่อนซี้อย่าง ไมค์ กลับเป็นคนที่ใช้คำพูดขวานผ่าซากโดยไม่สนใจความรู้สึกของผู้อื่น และยังไม่เคยฟังความคิดเห็นของผู้อื่นอีกด้วย ซึ่งไมเคิลและไคล์ก็สามารถทำให้เราเชื่ออย่างสนิทใจว่าทั้งคู่ต่างเป็นเพื่อนที่ทั้งรักและเกลียดในเวลาเดียวกันได้อย่างสนิทใจ
ในด้านของการสร้างสรรค์มุกตลกสถานการณ์ที่ไมเคิลและไคล์ร่วมกันคิดขึ้นมา ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเรื่องที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมเป็นอย่างดี และยังทำให้คาแรกเตอร์ของสองเพื่อนซี้อย่างไมค์และไคล์โดดเด่นมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
หนึ่งคำถามสำคัญที่ The Climb จั่วหัวให้เราเห็นชัดๆ ตั้งแต่ตัวอย่างคือ ‘ทำไม’ ไคล์ถึงยังสามารถคบหากับไมค์ ทั้งๆ ที่เพื่อนจอมเอาแต่ใจคนนี้มักจะสร้างปัญหาให้กับตัวเองอยู่เสมอ
“ไม่มีใครชอบแกไมค์ มีแค่ฉันนี่แหละที่ชอบแก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แกทั้งเสียงดัง อุบาทว์ แล้วก็ชาติชั่ว”
จนกระทั่งเรื่องราวสุดป่วนของสองเพื่อนซี้จบลง เราสัมผัสได้ถึงข้อความบางอย่างที่ไมเคิลและไคล์กำลังบอกกับเราคือ ‘ไม่มีใครในโลกที่สมบูรณ์แบบไปเสียทั้งหมด’
แม้ว่าไคล์จะเป็นคนที่จิตใจอ่อนโยนและคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ แต่ความอ่อนโยนของเขาก็ทำให้ตัวเขาเองกลายเป็นคนที่ไม่เด็ดขาด ไม่มั่นใจในตัวเองและเชื่อใจคนอื่นมากเกินไป ในขณะที่ไมค์ผู้มีนิสัยเอาแต่ใจ ไม่คิดถึงจิตใจของคนรอบข้างแต่อย่างใด แต่อีกด้านหนึ่งเขาก็ตระหนักถึงขอเสียของตัวเองเป็นอย่างดีและพยายามจะแก้ไขมันอยู่ตลอดเวลา (แม้จะทำได้ไม่ดีเท่าไรก็ตาม) อีกทั้งยังเป็นคนที่รู้ใจไคล์มากกว่าใครอีกด้วย
ทั้งหมดนี้แสดงให้เราเห็นว่าทั้งคู่ต่างไม่ใช่ ‘เพื่อนที่สมบูรณ์แบบ’ ของกันและกันแม้แต่น้อย ดังนั้นนิยามของ ‘มิตรภาพ’ ที่ The Climb กำลังถ่ายทอดให้เรารับชมอาจหมายถึงการยอมรับใน ‘ข้อเสีย’ ของกันและกันก็เป็นได้
นี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่เราหยิบยกมาให้ทุกคนได้เห็นภาพคร่าวๆ เท่านั้น เพราะยังมีข้อความสำคัญอีกหลายข้อ ที่เราอยากให้ทุกคนได้ลองไปร่วมค้นหาความหมายของคำว่า ‘มิตรภาพ’ ผ่านเรื่องราวแปลกๆ งงๆ ของสองเพื่อนซี้ใน The Climb ด้วยตัวเอง
และถ้าให้ดีกว่านั้น เราอยากให้คุณลองชวน ‘เพื่อนสนิท’ ของคุณไปนั่งหาความหมายของคำว่า ‘มิตรภาพ’ ร่วมกัน
The Climb มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ที่โรงภาพยนตร์ House สามย่าน เท่านั้น
สามารถรับชมตัวอย่างได้ที่นี่
ภาพประกอบโดย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
