The Cave นางนอน ภาพยนตร์เรื่องแรกที่จะบอกเล่าเรื่องราวภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าออกจาก ‘ถ้ำหลวง’ ใกล้จะลงโปรแกรมฉายแล้วในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้
คลิกชมตัวอย่างได้ที่
ความน่าสนใจของ The Cave นางนอน คือการบอกเล่าถึงสถานการณ์กู้ชีวิตที่ต้องเผชิญกับข้อจำกัดมากมาย โดยเล่าผ่านมุมมองที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและเรื่องราวเชิงลึกของทีมอาสาสมัครตัวจริงเสียงจริง ‘ทั้งคนไทย’ และ ‘ระดับนานาชาติ’ ที่ใช้ใจล้วนๆ ลงพื้นที่ในภารกิจอันยากลำบาก และต้องใช้ความร่วมไม้ร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพและองค์กรหลายภาคส่วนเพื่อช่วยเหลือชีวิต 13 หมูป่าให้กลับออกมาจากถ้ำนางนอนให้ได้
ที่สำคัญภาพยนตร์ต้องการเชิดชูคนตัวเล็กๆ คนธรรมดาอย่างเราๆ ว่าทุกคนสามารถจะเป็น ‘ฮีโร่’ สำหรับคนอื่นได้เสมอ บอกตามตรงว่าเนื้อหาของภาพยนตร์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไรคงไม่ต้องรอลุ้น แต่การที่โปรดิวเซอร์และผู้กำกับอย่าง ทอม วอลเลอร์ (เจ้าของผลงาน เพชฌฆาต และ ศพไม่เงียบ) เลือกจะพาผู้ชมตามติดภารกิจที่หลายคนร่วมรู้เห็นผ่านกระแสที่โด่งดังไปทั่วโลกผ่านตัวละครหลักที่เป็นอาสาสมัครตัวจริง นั่นถือว่าเป็นทั้งเรื่องท้าทายการกำกับภาพยนตร์และท้าทายผู้ชมในแง่ของความรู้สึกร่วม ขณะเดียวกัน ถ้าทำออกมาได้ดีมันก็จะกลายเป็นจุดแข็งสำคัญในแง่ของการบอกเล่าสถานการณ์ได้อย่างสมจริงและทรงพลัง
หนึ่งตัวละครหลักของเรื่องที่ THE STANDARD POP คิดว่าน่าสนใจเป็นพิเศษก็คือการตัดสินใจเข้าร่วมในโปรเจกต์ The Cave นางนอน ตั้งแต่การให้ข้อมูลจริง ปฏิบัติการจริงเกี่ยวกับภารกิจถ้ำหลวง ไปจนถึงเซอร์ไพรส์เล็กๆ ที่ทราบว่าเขาจะลงมาร่วมแสดงเป็นตัวเองของ จิม วาร์นีย์ นักดำน้ำถ้ำที่เชี่ยวชาญและสั่งสมประสบการณ์ดำน้ำในถ้ำมานานกว่า 20 ปี หนึ่งในผู้มีส่วนร่วมภารกิจลำเลียงทุกคนออกมาจากถ้ำ และเป็นผู้รับผิดชอบนำตัว โค้ชเอก-เอกพล จันทะวงษ์ ออกมาจากถ้ำในวันสุดท้ายของปฏิบัติการ
.
โดย จิม วาร์นีย์ นักดำน้ำที่เป็นเหมือน ‘ฮีโร่ตัวจริง’ ที่เป็นมนุษย์ธรรมดานอกจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่ในภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่องใดๆ ได้เล่าแง่มุมของมนุษย์ที่เคยใช้ชีวิตแบบปกติธรรมดา แต่วันหนึ่งกลับต้องมาเข้าร่วมในภารกิจช่วยชีวิตครั้งสำคัญอย่างไม่คาดคิดไว้อย่างน่าสนใจว่า
“ย้อนกลับไปในตอนนั้น ผมก็ฟังข่าวเหมือนกับทุกคนทั่วโลกอยู่ที่บ้านในไอซ์แลนด์ ขณะเดียวกันผมก็เป็นสมาชิกของชมรมดำน้ำ Irish Cave Rescue Organization อยู่แล้ว ซึ่งระหว่างปฏิบัติการช่วยชีวิต 13 หมูป่ากำลังเป็นข่าวดัง จะมีสื่อโทรมาถามความคิดเห็นของผมตลอด แต่ตอนนั้นผมก็ไม่เคยเอะใจว่าวันหนึ่งผมจะต้องไป
“ผมจำได้ว่าวันนั้นเป็นเย็นวันศุกร์ ผมกลับมาจากที่ทำงาน ผมก็เห็นเพื่อนๆ ผมที่อยู่เมืองไทยในปฏิบัติการถ้ำหลวงเขาออนไลน์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งสถานการณ์ในตอนนั้นมีข่าวออกมาว่าเจอเด็กในถ้ำแล้ว แต่กำลังคิดหาวิธีการพาออกมา
“พอเห็นเพื่อนออนไลน์ ผมก็เลยพิมพ์ข้อความไปบอกว่าดูแลตัวเองด้วยนะ แล้วถ้าต้องการอะไร ผมจะอยู่ตรงนี้คอยซัพพอร์ต แล้วพอพิมพ์ไป เพื่อนก็ตอบกลับมาเลยว่าถ้าคุณต้องเดินทาง คุณต้องใช้เวลาเตรียมตัวเท่าไร
“ผมบอกกลับไปว่า 2 ชั่วโมง จากนั้นเพื่อนก็ส่งข้อความกลับมาว่าให้สแตนด์บาย แล้วรุ่งเช้าวันต่อมาผมก็บินไปอังกฤษเพื่อที่จะต่อเครื่องบินมาเมืองไทยที่จังหวัดเชียงราย แล้วไม่ถึง 2 ชั่วโมงหลังจากนั้นผมก็ต้องใส่ชุดดำน้ำเพื่อที่จะเข้าไปดำน้ำเป็นทีมซัพพอร์ตด้านในถ้ำ”
และช่วงเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงนั้นเองที่โชคชะตานำพาชีวิตของมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งให้กลายเป็นฮีโร่ของชาวไทยอีกหลายชีวิต จิม วาร์นีย์ ถูกเลือกในนาทีเกือบจะสุดท้ายให้เป็นหนึ่งในนักดำน้ำที่รับหน้าที่พา 13 หมูป่าออกมาจุดเกิดเหตุภายในถ้ำ และสำคัญที่สุด คนที่เขาต้องนำพาออกมาคือ โค้ชเอก-เอกพล จันทะวงษ์ ในวันสุดท้าย คนสุดท้ายของปฏิบัติการ!
“วันนั้นเองที่ผมคิดว่าจากคนที่อยู่บ้านเฉยๆ ไมได้คิดว่าจะต้องมาเมืองไทย ผมกลายเป็นคนที่ต้องรับหน้าที่นำพาน้องคนหนึ่งออกมา
“โมเมนต์ตอนนั้นเองที่ทำให้เขารู้สึกกลัวมาก เครียดมาก เพราะผมมีลูกเล็กๆ เด็กบางคนในนั้นอายุเท่าลูกผมเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเวลาที่ผมพาเขาออกมา ผมรู้สึกว่ามันคือความรับผิดชอบ แล้วที่สำคัญคนที่ผมต้องพาออกมาคือโค้ชเอกที่ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ แถมเขายังตื่นมาตลอดทางอีกด้วย”
The Cave นางนอน มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ขณะเดียวกันนอกจากภาพยนตร์จะใช้อาสาสมัครที่ร่วมอยู่ในเหตุการณ์จริงมารับบทนำเป็นตัวเองทั้ง เอริก บราวน์ ครูสอนดำน้ำชาวแคนาดา, ถันเซี่ยวหลง ครูสอนดำน้ำในถ้ำชาวจีน, มิกโก พาซี นักดำน้ำชาวฟินแลนด์ และนภดล นิยมค้า ผู้ผลิตเครื่องสูบน้ำเทอร์โบเจ็ต ภาพยนตร์ยังได้นักแสดงชั้นดีของไทยมาร่วมงานอีกคับคั่ง เช่น นิรุตติ์ ศิริจรรยา, ธนาวุฒิ เกสโร, อาภา ภาวิไล, จำปา แสนพรม มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ในภาพยนตร์เรื่องแรกที่เล่าถึงปฏิบัติการช่วย 13 ชีวิตหมูป่าอีกด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: