×

The Botanist Lab จินบาร์ที่นำพืชตั้งแต่ผลยันรากไม้มาเสกเป็นค็อกเทล

13.12.2019
  • LOADING...

ใครจะไปรู้ว่าในบาร์ #FindTheLockerRoom ยังมีอีกบาร์ (ที่ลับกว่า) ซ่อนตัวอยู่หลังล็อกเกอร์ และไม่ได้เปิดให้ดื่มกันได้ทุกวัน ซึ่งเบื้องหลังประตูเลื่อนคือแล็บขนาดเล็กอันเป็นที่มาของส่วนผสมหลายๆ อย่าง รวมถึงการทดลองสไตล์เมรัยวิทยาที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและรสชาติแปลกใหม่ ความพิเศษท่ีหายากจากที่อื่น และกลิ่นอายความเป็นไทยซึ่งผนวกเป็นส่วนหนึ่งของค็อกเทลได้อย่างลงตัว

 

พีท บาร์เทนเดอร์ประจำแล็บ พร้อมชวนชิมเครื่องดื่มที่ผ่านการทดลองแล้ว

 

The Vibe

เรากำลังพูดถึงห้องแล็บที่เป็นจินบาร์ หากเป็นคอจินคงรู้จัก The Botanist กันดี เพราะนี่คือหนึ่งในสุดยอดพรีเมียมจินจากเกาะไอส์ลาย์ (Islay) แห่งสกอตแลนด์ ถิ่นกำเนิดเดียวกับ Islay Whisky ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ โดยทีมของ #FindTheLockerRoom ได้จับมือกับแบรนด์ The Botanist ในการแปรสภาพพื้นที่เล็กๆ ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของตัวร้าน ให้กลายเป็น The Botanist Lab (เดอะ โบทานิสต์ แล็บ) เพื่อให้เป็นแหล่งสิงสู่ของสมาชิกสมาคมคนรักจิน และผู้คนที่อยากเปิดรับประสบการณ์ใหม่ในการจิบค็อกเทล

 

บรรยากาศภายในร้าน ว่าแต่…คุณหาทางเข้าเจอไหม?

 

ภายใน ‘แล็บ’ มีโซฟาและโต๊ะหันหน้าเข้ากำแพง มีเก้าอี้หน้าบาร์ให้ใกล้ชิดหน้าบาร์ และ Rotovap หลังเคาน์เตอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สร้างความพิเศษและประสบการณ์ใหม่ให้กับดริงก์ในร้าน นับว่าบรรยากาศค่อนข้างเงียบขรึมเมื่อเทียบกับความเจี๊ยวจ๊าวของ #FindTheLockerRoom และจุคนได้ราวๆ 15 คนพออบอุ่น 

 

เครื่อง Rotovap หนึ่งในอุปกรณ์ที่ใช้ทำเครื่องดื่มล้ำๆ

 

จุดเด่นของห้องทดลองแห่งนี้เห็นจะเป็นตู้โลหะสีเงินเงาวับและชั้นวางเหล้าที่เรียงรายด้วย The Botanist Gin หลายขวด พร้อมเครื่องแก้วจาก Lucaris ที่จินแล็บแห่งนี้เลือกใช้เป็นภาชนะในการรินเหล้า เพื่ออรรถรสและสัมผัสที่เขาว่าดีที่สุด

 

ค็อกเทลเมนูของ The Botanist Lab มาในรูปแบบของไฟลต์ อันประกอบด้วย 4 เมนู 4 สไตล์ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทางสู่ภาคเหนือของไทย ประสบการณ์ระหว่างทางจากการเดินตลาดเช้า เข้าป่า ความบังเอิญบนสองฝั่งฟากถนน ไปจนถึงรถเข็นผลไม้ริมทาง สิ่งเหล่านี้ถูกสังเคราะห์และกลั่นกรองจนกลายเป็นคอนเซปต์ค็อกเทลที่ตัดสินใจใช้พืชผักผลไม้และสมุนไพรไทยเป็นส่วนผสม เป็นชื่อเครื่องดื่ม และเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องกันตลอด 4 แก้ว 

 

นั่งจิบหน้าแล็บ

 

เราอาจจะพูดได้ว่าการมาที่จินบาร์นี้ก็คลับคล้ายคลับคลาไปนั่งกินโอมากาเสะหน้าซูชิบาร์ เพราะได้ชมฝีไม้ลายมือของบาร์เทนเดอร์ในการสร้างสรรค์ค็อกเทล เฟ้นหาวัตถุดิบ เติมแต่งความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งเครื่องดื่มแต่ละแก้วก็มาในฐานะที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ Starter ไปจนถึง Dessert

 

พีท บาร์เทนเดอร์คนเก่งที่สลับร่างระหว่าง #FindTheLockerRoom และแล็บลับ

 

ต้นไม้มีองค์ประกอบหลัก 4 อย่างคือ ราก ไม้ ใบ และผล และองค์ประกอบทั้งสี่นี้ก็ถูกตีความใหม่ให้กลายเป็นส่วนผสมและหนึ่งในเรื่องราวบนแก้วเหล้าที่ยากจะลืมเลือน ตั้งแต่ความหวานกลมของฝรั่ง รสจัดจ้านของเครื่องเทศที่มาจากเปลือกไม้ และอโรมาความเขียวที่ระเหยจากใบไม้ ซึ่งล้วนแต่เข้ากันได้ดีกับ The Botanist Gin

 

Root ค็อกเทลจากรากไพล และ Wood กับหน่อไม้ลอยบนแก้ว

 

Root (480 บาท) เริ่มต้นด้วยรากไม้ ส่วนล่างสุดของพืชที่มักจะถูกมองข้าม แต่บาร์เทนเดอร์กลับเลือกรากไพลมาใช้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายขิง เนื้อในสีเหลือง จับคู่กับขมิ้นดำที่เพิ่มความเอิร์ธตี้ให้แก่ค็อกเทล จากนั้นเติมน้ำผึ้งและสปาร์กลิงไวน์ปิดท้ายเพื่อลดความเฝื่อน และดูจิบได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม 

 

ต่อด้วย Wood (480 บาท) เกิดขึ้นจากเศษไม้โอ๊กไทย ให้กลิ่นหอมฉุน ทำให้บาร์เทนเดอร์คัดเฉพาะกลิ่นมาใช้เป็นส่วนผสมต่อยอดวัตถุดิบอื่นๆ แล้วเพิ่ม Jakarn ไม้สมุนไพรที่ชาวบ้านนิยมใส่ลงในแกงเพื่อเพิ่มรสเผ็ด ส่วนตัวเหล้าที่ใช้นั้นมีเพียงจินกับดรายเวอร์มุธ เรียกง่ายๆ ว่านี่คือจินมาร์ตินีทวิสต์ โดยมีหน่อไม้หวานชิ้นเล็กลอยจมอยู่ก้นแก้ว แถมความสไปซ์นิดๆ ที่ดื่มแล้วไม่รู้สึกน่าเบื่อ แม้จะจิบยาวตลอดคืนก็ตาม

 

Leaf แก้วที่ไม่รักก็ตีจาก

 

Leaf (480 บาท) นี่คือค็อกเทลที่มีโปรไฟล์รสชาติเฉพาะตัวที่สุด และอาจเรียกได้ว่าเป็นเมนูที่รสชาติแปลกใหม่ หากคุณจิบแล้วถ้าไม่ได้ชอบก็อาจแขยงมันไปเสียเลย… นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะความดิน หญ้า และกลิ่นเขียวของใบไม้ค่อยๆ เผยตัวทีละน้อยหลังจากที่หยิบแก้วมาใกล้จมูก ทั้งแก้วนี้ยังมีส่วนผสมของผักแขยงและใบมะขามที่ผ่านการปั่นผสมเหล้าแล้วแยกเอากากออก จากนั้นผสมน้ำมะนาว เหล้าผลไม้รสหวานขม และเหล้าส้มอีกนิดหน่อยให้มีรสผลไม้บาลานซ์กับความเขียว ชวนดื่มง่ายขึ้นมาอีกนิด เอาเป็นว่าเราท้าให้คุณลองแก้วนี้ แล้วมาบอกด้วยล่ะว่าคุณหลงรักหรือเบือนหน้าหนี

 

ออกดอกออกผลเป็นน้ำฝรั่งเคลือบพริกเกลือบ๊วยนี่เอง

 

หลังจากจิบ Leaf กันไปแล้ว มาปิดท้ายด้วยเมนูที่เปรียบดุจจานขนมหวาน Fruit (480 บาท) ที่ The Botanist Lab เลือกใช้ ‘ฝรั่ง’ ผลไม้ที่น้อยบาร์นักนำเสนอมาผสมในเหล้า ซึ่งได้ไอเดียมาจากรถเข็นผลไม้ขายฝรั่งพร้อมเครื่องจิ้มอย่างพริกเกลือบ๊วย แค่ได้ยินชื่อก็ชวนเปรี้ยวปากแล้วใช่ไหม ฝรั่งนี้นำมาคั้นน้ำแล้วแยกกาก จากนั้นนำผสมกับเหล้าจิน น้ำเชื่อมบ๊วยเค็ม รินลงแก้วที่เคลือบปากด้วยพริกเกลือบ๊วย จิบง่าย ดื่มคล่อง เพียงไม่กี่ครั้งก็อาจหมดแก้วได้โดยไม่รู้ตัว

 

 

What You Should Know:

  • นอกจากค็อกเทลไฟลต์ทั้ง 4 แก้วนี้ คุณยังสามารถออร์เดอร์คลาสสิกค็อกเทลได้เช่นกัน
  • The Botanist เป็นพรีเมียมจินจากเกาะไอส์ลาย์ (Islay) ในสกอตแลนด์ แหล่งเดียวกับแหล่งผลิตสกอตช์วิสกี้อันมีชื่อเสียง โดยเกิดจากการผสมรวมของสมุนไพรที่เบสในจินจำนวน 9 อย่าง และสมุนไพรอีก 22 ชนิดที่หาได้บนเกาะไอส์ลาย์ จากนั้นนำไปกลั่นด้วยแรงดันต่ำ ซึ่งใช้ระยะเวลานานกว่าการผลิตจินปกติถึงสามเท่า จนกระทั่งได้พรีเมียมจินที่มีความหอมดอกไม้นานาพันธุ์ เจือรสหวานของผลจูนิเปอร์เบอร์รี และให้รสชาติที่ร้อนแรงแต่นุ่มนวล

 

https://www.youtube.com/watch?time_continue=1&v=aRezXMckFo8&feature=emb_logo

 

The Botanist Lab

Open: วันศุกร์และเสาร์ เวลา 18.00-01.30 น.

Address: #FindTheLockerRoom ทองหล่อ สุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ

Budget: 1,000-2,000 บาท

Map:

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X