×

ธนาธรชวนคนให้ความสำคัญ ‘วันเปลี่ยนแปลงการปกครอง’ ย้ำ สานต่อภารกิจคณะราษฎร ไม่ใช่การล้มล้างสถาบัน

โดย THE STANDARD TEAM
24.06.2019
  • LOADING...
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ห้องประชุมวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค รวมถึง ส.ส. พรรคอนาคตใหม่อีกคับคั่ง ร่วมกิจกรรมเสวนาหัวข้อ ‘24 มิถุนา วันประชาธิปไตย และการคืนอำนาจสู่ท้องถิ่น’

 

ธนาธร กล่าวถึงความสำคัญของวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งเป็นวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยว่า วันที่ 24 มิถุนายน 2475 ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน เป็นพลเมืองที่เป็นเป้าหมายของการพัฒนา ในขณะเดียวกันก็เป็นทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น พลเมืองต้องเข้มแข็ง มีศักยภาพ หากแต่ตลอด 87 ปีที่ผ่านมา การสถาปนาอำนาจของพลเมืองยังไม่จบ ยังมีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนที่มีสิทธิมีเสียงเหนือกว่าประชาชนพลเรือนคนอื่น ยังมีเรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ ยังถูกคุกคาม ถูกละเมิด นี่คือผลจากการที่เราไม่ช่วยกันปกป้องการอภิวัฒน์ หน้าที่พลเมืองที่สำคัญอย่างหนึ่งคือต่อต้านการรัฐประหาร และปกป้องประชาธิปไตย แต่เหมือนที่ผ่านมาเราหลงลืมกันไป

 

“อยากจะเชิญชวนให้ทุกคนกลับมาให้ความสำคัญกับวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ซึ่งเมื่อพูดอย่างนี้ ผมเองก็จะโดนคำกล่าวหา โดนใส่ร้ายป้ายสี เรื่องการสานต่อภารกิจที่ยังไม่สำเร็จของคณะราษฎร ขอยืนยันอีกครั้งว่า ภารกิจที่ยังทำไม่สำเร็จในวันนี้ และเราพรรคอนาคตใหม่จะสานต่อนั่นคือ การสร้างประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ภารกิจ 2475 ไม่ใช่ล้มล้างสถาบันอย่างที่เราถูกใส่ร้าย เราเชื่อมั่นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์จะมั่นคงสถาพร เมื่อประชาธิปไตยเข้มแข็ง วันนี้ เรายังมีความหวังในการสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้น เราเห็นผู้คนตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น มีการติดตามไลฟ์การประชุมสภาหลายล้านคน ผมคิดว่า การตื่นตัวมาถึงจุดที่พูดได้ว่าเราสนใจการเมืองที่เนื้อหา นั่นเพราะอำนาจเป็นของเรา อยากให้ทุกท่านให้ความสำคัญกับวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ช่วยกันฟื้นฟูวัฒนธรรมอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน ร่วมกันสถาปนาระบอบประชาธิปไตยที่มั่นคง” ธนาธร กล่าว

 

ด้าน ปิยบุตร กล่าวถึงบทบาทสำคัญของคณะราษฎร โดยเฉพาะการกระจายอำนาจที่สัมพันธ์กับการปฏิวัติ 2475 ว่า คณะราษฎรที่ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ได้สถาปนาหลักการรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ โดยมีหลัก 6 ประการ ได้แก่ เอกราช ปลอดภัย เศรษฐกิจ เสมอภาค เสรีภาพ และการศึกษา คือภารกิจสำคัญที่จะดำเนินการ อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังมี 3 เรื่องใหญ่ที่เป็นหัวใจ เป็นหลักการสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่ยังไม่ลงหลักปักฐานในประเทศ

 

1. หลักรัฐธรรมนูญนิยม เริ่มแพร่หลายหลังการปฏิวัติอเมริกา เป็นรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร ที่มีสาระสำคัญคือ การจำกัดอำนาจผู้ปกครอง ประชาชนเป็นผู้ก่อตั้ง เนื้อหาพูดถึงสถาบันการเมืองต่างๆ ภายใต้รัฐธรรมนูญ มีการแบ่งแยกอำนาจ การประกันสิทธิเสรีภาพประชาชน ทุกสถาบันการเมืองมีอำนาจได้เท่าที่รัฐธรรมนูญกำหนด รัฐไม่อาจละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน หลักการนี้ดำรงอยู่หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 แต่มาสะดุดหยุดลงหลังการรัฐประหาร 2490 และรัฐธรรมนูญถูกทำให้กลายมาเป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจจนทุกวันนี้

 

2. หลักระบบรัฐสภา ซึ่งเป็นสถานที่พูดคุยของผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรีมาจากความเห็นชอบของรัฐสภา จากเสียงข้างมากในสภา และรัฐบาลก็อยู่ได้เพราะผู้แทนให้ความไว้วางใจ เราต้องทำให้ภาพลักษณ์ของระบบรัฐสภาดีขึ้น สร้างสรรค์ขึ้น เพราะที่ผ่านมา เราถูกทำให้มองว่าภาพลักษณ์นักการเมืองมีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง ความวุ่นวาย การรัฐประหารเกิดขึ้นเพราะนักการเมืองในสภานั้นไม่ได้เรื่อง เขาทำลายความชอบธรรมของนักการเมือง ทั้งที่เป็นอาชีพเดียวที่มีความเชื่อมโยงกับประชาชน เพราะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน

 

3. หลักการกระจายอำนาจ คณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครอง แล้วมีการออกกฎหมายที่ให้ความสำคัญกับเรื่องท้องถิ่น นั่นคือพระราชบัญญัติเทศบาล 2476 ซึ่ง ปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้ผลักดัน เป็นต้นแบบเรื่องยุติการรวมศูนย์อำนาจ โดยให้คนท้องถิ่นเลือกผู้บริหารด้วยตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม ก็ทำไม่สำเร็จ สุดท้ายถูกส่วนกลาง ถูกกระทรวงมหาดไทยดึงอำนาจกลับ เพิ่งจะมาเกิดขึ้นอีกครั้งหลังมีรัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งอำนาจอยู่กับท้องถิ่นได้อีกสักพักก็ถูกดึงกลับอีก และคราวนี้เหมือนจะถอยหลัง โดยรัฐประหาร 2 ครั้งล่าสุด

 

“ขอย้ำอีกครั้งว่า อำนาจแต่เดิมนั้นอยู่ที่เรา เขาเอาไป ต้องยุติการรวมศูนย์อำนาจได้แล้ว พรรคอนาคตใหม่ จึงใช้ชื่อนโยบายในการหาเสียงว่า ยุติระบบราชการรวมศูนย์ ที่ต้องการจะให้อำนาจคืนกลับไปอยู่ที่ท้องถิ่นจริงๆ ด้วยหลักการพื้นฐานที่ว่า 1. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องมาจากการเลือกตั้ง 2. ท้องถิ่นมีอำนาจในการบริหารจัดการบริการสาธารณะในพื้นที่ 3. มีความเป็นอิสระในการบริหารจัดการงบประมาณ 4. มีบุคลากรท้องถิ่นเป็นของตัวเอง และ 5. ราชการส่วนกลางทำหน้าที่กำกับดูแล ไม่ใช่การบังคับบัญชา” ปิยบุตร กล่าว

 

ภาพ: พรรคอนาคตใหม่

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising