วันนี้ (20 เมษายน) ธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ระบุว่า ขอเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยมี ชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย สรุปให้ชัดเจนเกี่ยวกับคำนิยามเรื่อง ‘แรงจูงใจทางการเมือง’ และความผิด 25 ฐานที่มีมูลเหตุจากแรงจูงใจทางการเมืองใดว่าเข้าข่ายได้รับการนิรโทษกรรมบ้าง
ธนกรกล่าวว่า ขอให้พิจารณาไม่รวมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 และ 112 ซึ่งเกี่ยวกับการประทุษร้ายหมิ่นประมาทฯ สถาบันพระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือรัชทายาท ขอให้ กมธ. และอนุ กมธ. พิจารณาให้รอบคอบ เพราะความผิดทั้ง 2 มาตรา เป็นความผิดร้ายแรง กระทบต่อความมั่นคงของรัฐคือประมุขของประเทศ ซึ่งไม่สามารถยอมรับได้
ทั้งนี้แม้ว่าบางพรรคการเมืองได้เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่รวมความผิดเกี่ยวกับมาตราดังกล่าวให้ได้รับการนิรโทษกรรมต่อสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วก็ตาม แต่ตนขอย้ำในหลักการกฎหมายว่าไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งและขอคัดค้านจนถึงที่สุด เนื่องจากสถาบันฯ ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้
ธนกรกล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยัง กมธ.วิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พิจารณาตามหลักกฎหมายให้ดี ให้ถูกต้อง รอบคอบ เพื่อสรุปกำหนดนิยาม เรื่อง แรงจูงใจทางการเมือง ต้องไม่เหมารวมผู้กระทำความผิดร้ายแรงตามมาตรา 110 และ 112 ให้ได้รับการนิรโทษกรรม แต่หากกลับกัน มีการเหมารวมยกเข่ง เชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้คนทั้งประเทศที่รักเทิดทูนและปกป้องสถาบันฯ นั้นออกมาคัดค้านในเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน รวมทั้งผมด้วย