ในวันที่ 26 มีนาคมนี้ ฟุตบอลทีมชาติไทยมีคิวลงสนามศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก (โซนเอเชีย กลุ่ม C นัดที่ 4) พบกับทีมชาติเกาหลีใต้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32, YouTube: Changsuek Official และ Facebook: Changsuek Official ในเวลา 19.30 น.
และเช่นเคย THE STANDARD รวบรวมข้อมูลสำคัญๆ เพื่อพาแฟนบอลไปอุ่นเครื่อง ส่องความพร้อมของนักเตะทั้งฝั่งไทยและเกาหลีใต้ รวมถึงสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจมาฝากก่อนเกมนัดนี้ เกมที่ไม่ว่าจะ 1 หรือ 3 คะแนน ก็มีผลต่อการลุ้นเข้ารอบ 3 ของทัพช้างศึกในเส้นทางคัดบอลโลก 2026
ย้อนเหตุการณ์รอบคัดเลือก (กลุ่ม C)
ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ของทีมในกลุ่ม C จากการแข่งขันที่ผ่านไป 3 นัดของฟุตบอลบอลโลก 2026 โซนเอเชีย ซึ่งปัจจุบันจ่าฝูงเป็นเกาหลีใต้ที่ครองอยู่กับผลงานแข่ง 3 นัด ชนะ 2 เสมอ 1 มี 7 แต้ม
ส่วนทีมชาติไทยอยู่อันดับ 2 มี 4 คะแนน (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1) มีแต้มเท่ากับทีมชาติจีน อันดับ 3 แต่ลูกได้เสียทีมไทยดีกว่า และอันดับ 4 เป็นสิงคโปร์ที่มีเพียง 1 แต้มจนถึงตอนนี้
ทั้งนี้ ระบบการหาทีมผ่านเข้ารอบ 3 (รอบ 18 ทีมสุดท้าย) ของศึกคัดบอลโลกหนนี้ เมื่อแข่งครบ 6 นัด จะคัดเอาเพียงทีมอันดับ 1 และ 2 (จากทั้งหมด 9 กลุ่ม) ผ่านเข้าไปเล่นรอบต่อไป
🇹🇭 ความพร้อมทีมชาติไทย (อันดับ 101 ของโลก)
ทีมชาติไทยในมือของ มาซาทาดะ อิชิอิ เรียกศรัทธาฟุตบอลไทยคืนมาได้อย่างต่อเนื่อง โดยนอกเหนือจากการทำผลงานสุดเซอร์ไพรส์ด้วยการพาทีมไปถึง 16 ทีมสุดท้าย ศึกเอเชียนคัพ 2023 ด้วยฟอร์มที่น่าประทับใจกับผลงานชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 1 และเสียเพียง 2 ประตูตลอดทัวร์นาเมนต์
ล่าสุดทัพช้างศึกสามารถบุกไปยันเสมอทีมชาติเกาหลีใต้ถึงโซลเวิลด์คัพสเตเดียม ด้วยสกอร์ 1-1 พร้อมฉีก 1 คะแนนมาได้อย่างยอดเยี่ยม
โดยสภาพความพร้อมของทีมชาติไทยชุดนี้อยู่ในจุดที่ดี นักเตะและทีมงานทุกคนมีขวัญกำลังใจที่ดี ไร้ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพิ่มเติม แต่จะมีเพียง ธีราทร บุญมาทัน ที่คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร และสามารถลงช่วยทีมได้ในเกมนี้
คาดว่า 11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมนี้ ทัพช้างศึกจะปรับผู้เล่นไม่กี่ตำแหน่ง โดยเฉพาะชุดแนวรับที่ทำได้ดีในเอเชียนเกมส์น่าจะได้สานต่อโอกาสในการลงสนามรับมือเกมรุกของเกาหลีใต้ต่อไป
โดยตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็น ปฏิวัติ คำไหม ส่วนเซ็นเตอร์แบ็กเป็น พรรษา เหมวิบูลย์ แท็กทีมกับ เอเลียส ดอเลาะ ที่น่าจะได้กลับมาลงเป็นตัวจริงในเกมนี้ โดยมี นิโคลัส มิคเกลสัน ออกสตาร์ทตัวจริงยืนแบ็กขวา ส่วนธีราทรรับหน้าที่ยืนประจำการทางซ้ายเช่นเคย
แดนกลางเชื่อว่าอิชิอิยังจะใช้ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กับ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ให้บัญชาเกมแดนกลางต่อไป ด้านแนวรุก 4 คนเป็น สุภโชค สารชาติ ทำงานร่วมกับ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (ฮีโร่จากเกมนัดที่แล้ว) ในฝั่งปีกซ้าย-ขวา และมี ชนาธิป สรงกระสินธ์ สวมปลอกแขนกัปตันทีม โดยมี ศุภชัย ใจเด็ด ยืนเป็นศูนย์หน้าให้ทีม
ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 1
- เสมอ เกาหลีใต้ 1-1
- แพ้ อุซเบกิสถาน 1-2
- เสมอ ซาอุดีอาระเบีย 0-0
- เสมอ โอมาน 0-0
- ชนะ คีร์กีซสถาน 2-0
🇰🇷 ความพร้อมทีมชาติเกาหลีใต้ (อันดับ 22 ของโลก)
ทีมชาติเกาหลีใต้ชุดนี้ที่เปลี่ยนมือจาก เจอร์เกน คลินส์มันน์ สู่ ฮวังซอนฮง โค้ชทีมชาติเกาหลีใต้ชุด U23 ที่ต้องรับเผือกร้อนเข้ามาเป็นกุนซือทีมชาติชุดใหญ่ชั่วคราว ยังไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งกลับมาทำผลงานได้ดีอย่างที่แฟนบอลแดนกิมจิคาดหวังไว้
เมื่อล่าสุดพวกเขาทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอทีมชาติไทย 1-1 ที่อันดับโลกต่างกันเกือบ 80 อันดับ ถึงแม้ในรายละเอียดเกมพวกเขาจะมีเปอร์เซ็นต์สร้างสรรค์เกมรุกจากการครองบอลที่เหนือกว่าชัดเจน แต่ทีมของฮวังซอนฮงดูเหมือนจะยังปรับเกมรุกให้เชื่อมต่อกันไม่ได้ รวมถึงเกมรับที่ยังไม่รัดกุมพอจะรักษาคลีนชีตได้ในเกมที่ผ่านมา
เกมนี้ฮวังซอนฮงและทัพนักเตะต้องการที่จะล้างตาจากเกมนัดก่อน เพื่อเรียกศรัทธาแฟนบอลคืนมา โดยทันทีที่จบเกมนัดที่ 3 ทีมโสมขาวรีบบินมาเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อปรับตัวกับสภาพอากาศในเมืองไทยทันที
ทางฮวังซอนฮงได้ออกมายอมรับตรงๆ ว่าสภาพอากาศที่ร้อนจัดของเมืองไทยในช่วงนี้ รวมถึงหญ้าในสนามราชมังคลากีฬาสถานที่มีความแตกต่างจากของเกาหลี มีผลต่อทีมเกาหลีใต้ในระดับหนึ่ง
ส่วนเรื่องของผู้เล่นที่คาดว่าจะถูกส่งลงสนาม เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะยังคงใช้ผู้เล่นเซ็ตเดิม นำโดย ซนฮึงมิน (กัปตัน), คิมมินแจ, คิมยองกวอน, ฮวังอินบอม, จองอูยอง, โชฮยอนอู (ผู้รักษาประตู) และมีโอกาสใส่ชื่อ อีคังอิน และ โชกยูซอง ที่เป็นสำรองในเกมที่แล้วเข้ามาออกสตาร์ทตัวจริงช่วยทีมในเกมนี้
ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1
- เสมอ ไทย 1-1
- แพ้ จอร์แดน 0-2
- ชนะ ออสเตรเลีย 2-1
- ชนะ ซาอุดีอาระเบีย 1-1 (ชนะจุดโทษ 4-2)
- เสมอ มาเลเซีย 3-3
ผลการดวลกัน 5 นัดหลังสุด
เมื่อมองตามสถิติหน้ากระดาน ผลการดวลกัน 5 นัดหลังที่พบกันเป็นฝั่งทีมชาติเกาหลีใต้มีสถิติที่เหนือกว่า หลังเป็นฝ่ายเอาชนะไทยได้ 3 นัด จาก 5 นัดที่พบกัน
โดยชัยชนะของทีมไทยที่มีเหนือเกาหลีใต้ต้องย้อนกลับไปในห้วงปี 1998 ซึ่งเกิดขึ้นในรายการเอเชียนเกมส์ 1998 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ขณะที่ภาพรวมในเกมนัดล่าสุด ทีมไทยออกไปเยือนเกาหลีใต้และสามารถสู้ได้ดี ด้วยการเล่นตั้งรับและรอจังหวะสวนกลับจนเก็บผลเสมอ และ 1 แต้มสำคัญกลับมาได้
และนี่คือผลการแข่งขันที่ดวลกัน 5 นัดหลังสุด
- ไทย 0-2 เกาหลีใต้ (1998)
- ไทย 2-1 เกาหลีใต้ (1998)
- เกาหลีใต้ 3-0 ไทย (2002)
- ไทย 0-1 เกาหลีใต้ (2016)
- เกาหลีใต้ 1-1 ไทย (2024)
โปรแกรมถ่ายทอดสด
โปรแกรมนัดต่อไปทีมชาติไทยจะพบกับทีมชาติเกาหลีใต้ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 26 มีนาคม เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32, YouTube: Changsuek Official และ Facebook: Changsuek Official
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ทีมชาติไทย กลับถึงสุวรรณภูมิหลังคว้า 1 แต้มจากเกาหลีใต้
- อิชิอิทำถึง! อ่านแผนเสกช้างศึกต่อกรเกาหลีใต้ด้วยสไตล์ ‘วิ่ง-สู้-ฟัด’
- เส้นทาง ‘ทีมชาติไทย’ กับรายการฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก (22 มี.ค. 2024)