ไทยเป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดอันดับ 49 จากทั้งหมด 147 ประเทศ จากรายงานของ World Happiness Report 2025 โดยอันดับของไทยเพิ่มขึ้นจากอันดับ 58 เมื่อปีก่อน ขณะที่คะแนนก็เพิ่มขึ้นจาก 5.976 มาเป็น 6.222
รายงาน World Happiness Report 2025 ที่เผยแพร่ในวันนี้ (20 มีนาคม) จัดทำโดย Wellbeing Research Centre ของมหาวิทยาลัย Oxford ทำการศึกษาร่วมกับ Gallup และ UN Sustainable Development Solutions Network
โดยวัดความสุขผ่านหลายด้าน ได้แก่ GDP per capita, การบริจาคช่วยเหลือสังคม, ความคาดหวังด้านสุขภาพตั้งแต่แรกเกิด, อิสระในการเลือกใช้ชีวิต, ความใจกว้าง และความรับรู้ต่อการคอร์รัปชัน
สำหรับประเทศที่ยังคงรั้งอันดับ 1 ต่อเนื่องคือ ฟินแลนด์ ขณะที่อันดับ 2-5 ได้แก่ เดนมาร์ก, ไอซ์แลนด์, สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ ส่วนประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับหนึ่งของโลกอย่างสหรัฐฯ อยู่ในอันดับที่ 24
รายงานปีนี้ยังระบุอีกว่า การใส่ใจและการแบ่งปัน ส่งผลต่อความสุขของผู้คน โดยชี้ให้เห็นว่า ความเมตตา (benevolence) ส่งผลดีทั้งต่อผู้ให้และผู้รับ
ผลสำรวจจาก Gallup World Poll พบว่าคนส่วนใหญ่ประเมินความเมตตาของผู้อื่นต่ำเกินไป เช่น การทดลองทำกระเป๋าสตางค์หล่น พบว่ามีการส่งคืนมากกว่าที่คาดไว้
ขณะเดียวกันหากเรารู้ว่าคนอื่นมีน้ำใจมากกว่าที่คิด เราจะมีความสุขมากขึ้น และในสังคมที่มีความเมตตามากขึ้น คนที่เคยทุกข์มากที่สุดจะได้รับประโยชน์มากที่สุด ทำให้ระดับความสุขโดยรวมกระจายตัวเท่าเทียมขึ้น
โดยภาพรวมแล้ว การช่วยเหลือกันเพิ่มขึ้นในช่วงโควิดและยังคงสูงกว่าระดับก่อนโรคระบาดประมาณ 10%
และสังคมที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว เช่น ในลาตินอเมริกามีระดับความสุขสูงกว่า แต่ความสุขจะลดลงเมื่อสมาชิกในบ้านเกิน 4 คน
ในอีกด้านหนึ่ง รายงานพบว่าความเหงาในกลุ่มคนหนุ่มสาวเพิ่มขึ้น โดย 19% ของคนหนุ่มสาวทั่วโลกไม่มีคนที่สามารถพึ่งพาได้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 39% ตั้งแต่ปี 2006 แต่การรับรู้ถึงความเมตตาของคนรอบข้างสามารถช่วยลดความเหงาได้
ส่วนการฆ่าตัวตายและการใช้สารเสพติดลดลงในหลายประเทศ ยกเว้นในสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ซึ่งเชื่อมโยงกับระดับความเมตตาในสังคม นอกจากนี้ ความเมตตายังส่งผลต่อการเมือง คนที่มีความไว้เนื้อเชื่อใจผู้อื่นมักเอนเอียงไปทางซ้าย ส่วนคนที่ไม่ไว้ใจมักเอนเอียงไปทางขวา
ภาพ: Nutthaseth Vanchaichana / Getty Images
อ้างอิง: