×

สมยศ ชี้สโมสรไทยลีกต้องเข้าใจ VAR มากกว่านี้ ด้าน FIFA และ IFAB เตรียมผลัก ส.บอลไทย เป็นศูนย์กลาง VAR ของอาเซียน

19.03.2019
  • LOADING...
thai footbal var

หลังจากที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกาศงดการทดลองใช้วีดิทัศน์ช่วยในการตัดสิน หรือ VAR ในศึกฟุตบอลไทยลีกสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการทดสอบร่วมกับ FIFA และ IFAB

 

ล่าสุด พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แจงถึงผลหารือว่า VAR จะถูกพักการทดลองใช้ในสนามแข่งขันชั่วคราว และเตรียมให้เวลาสโมสรพัฒนาจุดที่ต้องแก้ไข ขณะที่ FIFA และ IFAB ตั้งเป้าให้สมาคมฯ พัฒนาโครงสร้างต่างๆ เพื่อเป็นศูนย์กลาง VAR ของโซนอาเซียนในระยะยาว

 

19 มีนาคม พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกมาชี้แจงถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับเทคโนโลยี VAR หลังจากที่ได้ประเมินร่วมกับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) และคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ (IFAB) ในการใช้งานตลอด 3 นัดแรกของฤดูกาล 2562 เผยว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา FIFA และ IFAB ได้เข้ามาประชุมรับฟังการนำเสนอความคืบหน้าที่ประเทศไทย เมื่อเรามีการทดลองใช้ระบบ VAR กับลีกสูงสุดของไทยในปีนี้ โดยเป็นหนึ่งในกระบวนการที่จะสามารถยกระดับการแข่งขันของไทยลีก ตั้งแต่ทำการทดสอบ ก่อนจะนำไปใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ

 

ซึ่งเทคโนโลยีที่นำมาทดลองใช้บนสังเวียนไทยลีกคือ ‘Centralized’ เป็นการส่งสัญญาณเข้าสู่ศูนย์ควบคุมที่สำนักงานในกรุงเทพฯ และส่งสัญญาณกลับไปที่หน้าจอข้างสนาม ซึ่งจะต่างจากปีที่แล้วที่เป็นรูปแบบ ‘Decentralized: Mobile Solution’ ที่ยกเครื่องทั้งหมดไปตั้งที่ข้างสนาม สิ่งที่ดีกว่าคือความปลอดภัย และความสะดวกที่ไม่ต้องเคลื่อนย้ายในทุกๆ แมตช์การแข่งขัน

 

อย่างไรก็ตาม ทาง FIFA และ IFAB แนะนำว่า ณ ปัจจุบัน VAR นั้นมีเพียงมาตรฐานเดียวทั่วโลก จากที่เราได้รับชมจากฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา โดยจากการรีวิวแมตช์ไทยลีกที่ได้ทดลองนั้น ทำให้ทางคณะทำงานของ FIFA และ IFAB เกิดความกังวล เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อภาพลักษณ์กับระบบ VAR

 

“เพราะ FIFA กับ IFAB เห็นว่า ที่ผ่านมามีการวิพากษ์วิจารณ์ หรือมีการแสดงสัญลักษณ์เรียกร้องให้ใช้ VAR ในจังหวะต่างๆ ที่ไม่เข้าข่ายการใช้ VAR เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงว่ายังขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึง ดังนั้นจึงได้มีการประเมินว่า ควรพักการทดลองใช้ในสนามแข่งขันเป็นการชั่วคราว ในระหว่างที่เข้าสู่กระบวนการพัฒนาให้ได้มาตรฐานเดียวกับฟุตบอลโลก และควรใช้เวลาในการอบรมภาคปฏิบัติ รวมถึงทำการสื่อสารให้กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกับสโมสร, แฟนบอล, นักเตะ เกี่ยวกับการใช้ VAR ให้ละเอียด และเกิดความเข้าใจ เพื่อจะตระหนักถึงความสำคัญ

 

“ซึ่งทาง FIFA IFAB สมาคมฯ และไทยลีก มีความเห็นร่วมกันว่า จะใช้เวลาหลังจากนี้ในการให้เวลาสโมสร เพื่อแก้ไขจุดที่ยังเป็นอุปสรรคในการติดตั้งอุปกรณ์ และส่งสัญญาณในบางสนาม เพราะทางฝ่ายจัดไม่สามารถจัดการแข่งขันในแบบที่บางสนามพร้อมและไม่พร้อมในเวลาเดียวกัน เพื่อความยุติธรรม พร้อมมีการจัดแนะแนวให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสโมสร โค้ช และผู้เล่น ถึงความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้ VAR เพราะหากว่ามีเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความสับสน ก็จะส่งผลถึงภาพพจน์ของ VAR ทั้งที่ไทยและต่างประเทศ”

 

ทั้งนี้ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยังได้เสริมว่า “FIFA และ IFAB มุ่งหวังที่จะให้สมาคมฯ พัฒนาโครงสร้างต่างๆ ให้เป็นศูนย์กลาง VAR ของประเทศอาเซียน เพื่อที่จะรองรับผู้ตัดสินที่จะเข้ามาฝึกและอบรม เตรียมพร้อมเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย U23 รอบสุดท้ายที่ประเทศไทย

 

“ดังนั้น FIFA และ IFAB จึงอยากให้ทุกอย่างออกมาอย่างมีแบบแผน และให้เวลา ให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจร่วมกัน ซึ่งทางสมาคมฯ จะแจ้งให้ทราบอย่างต่อเนื่องถึงความคืบหน้าต่อไป” พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวทิ้งท้าย

 

นอกจากนี้ทาง FIFA และ IFAB จะใช้เวลาหลังจากนี้ทำงานร่วมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และบริษัท ไทยลีก จำกัด ในการเข้าสู่กระบวนการที่ได้มาตรฐานเดียวกับฟุตบอลโลก พร้อมกับแจ้งไปยังสโมสร ในการปรับปรุงบริเวณติดตั้งกล้อง VAR แต่ละสนาม ก่อนจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงกำหนดการทดลองใช้ในขั้นตอนต่อไป

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising