×

‘ไทยเบฟ’ เดินหน้าสรรสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน (Enabling Sustainable Growth) ด้วยการตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583

โดย THE STANDARD TEAM
29.09.2022
  • LOADING...
ไทยเบฟ

HIGHLIGHTS

3 mins. read
  • ไทยเบฟได้รับคัดเลือกเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มภายใต้ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ถึง 4 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2564 ไทยเบฟได้คะแนน 90 จาก 100 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดในบรรดาบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันที่เข้าร่วมรับการประเมิน 
  • แม่ทัพของไทยเบฟย้ำว่า ความสำเร็จของการขับเคลื่อนองค์กรผ่านแผนการดำเนินธุรกิจ PASSION 2025 นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างยิ่งกับการมีสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ การพัฒนาชุมชนรอบพื้นที่ปฏิบัติงาน และการกำกับดูแลองค์กรและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ
  • ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมา ไทยเบฟได้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนในหลายหลายด้าน เช่น บรรลุเฟสที่ 1 ของโครงการติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของโรงงาน (Solar Rooftop) ในไทย 5 แห่ง 
  • เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนภายในองค์กรเป็น 41.8% และลดการใช้น้ำลง 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับพื้นที่ที่มีการดึงน้ำจากแหล่งน้ำมาใช้มาก (Water-Stressed Area)

สำหรับ ‘บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)’ นอกเหนือจากการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตจนเป็น 1 ใน 10 บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุดในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์แล้ว ในเรื่องของ ‘ความยั่งยืน’ ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน

 

เรื่องนี้สะท้อนได้จากการที่ไทยเบฟได้รับคัดเลือกเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มภายใต้ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ถึง 4 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2564 ไทยเบฟได้คะแนน 90 จาก 100 คะแนน ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดในบรรดาบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันที่เข้าร่วมรับการประเมิน 

 

โดยได้คะแนนสูงสุดในด้านสังคม การกำกับดูแล และเศรษฐกิจ และได้คะแนนสูงเป็นอันดับ 2 ในด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังได้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืน DJSI World เป็นปีที่ 5 และ DJSI Emerging Markets เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและใส่ใจในการพัฒนาความยั่งยืนขององค์กรอย่างต่อเนื่อง

 

“เรามุ่งมั่นสรรสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน (Enabling Sustainable Growth) ด้วยการตั้งเป้าหมายเพื่อให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583” นี่คือคำพูดที่แสดงออกถึงความตั้งใจของ ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ไทยเบฟเวอเรจ

 

ไทยเบฟ

 

“กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยให้ไทยเบฟสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนไปพร้อมกับเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจ รวมถึงปกป้องสิ่งแวดล้อม สนับสนุนชุมชนท้องถิ่น และยกระดับการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจในไทยและในภูมิภาค” 

 

แม่ทัพของไทยเบฟย้ำว่า ความสำเร็จของการขับเคลื่อนองค์กรผ่านแผนการดำเนินธุรกิจ PASSION 2025 นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างยิ่งกับการมีสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ การพัฒนาชุมชนรอบพื้นที่ปฏิบัติงาน และการกำกับดูแลองค์กรและจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ

 

ภายใต้ PASSION 2025 ประกอบไปด้วย 

  • BUILD (สรรสร้างความสามารถ) คือสรรสร้างความสามารถและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ด้วยการต่อยอดจากพื้นฐานธุรกิจที่มีอยู่ ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ตลาดโลกที่ให้ความใส่ใจในด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกิจและมองหาตลาดใหม่ๆ 
  • STRENGTHEN (เสริมแกร่งความเป็นหนึ่ง) คือการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก เพื่อรักษาและก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน โดยเน้นการทำงานร่วมกัน 
  • UNLOCK (สุดพลังศักยภาพไทยเบฟ) คือนำศักยภาพของไทยเบฟมีอยู่มาก่อให้เกิดมูลค่าสูงสุด รวมถึงการนำทรัพยากรต่างๆ เช่น ทรัพยากรบุคคลที่มีอยู่มาพัฒนาศักยภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งขยายเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

 

ในขณะที่กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของไทยเบฟถูกขับเคลื่อนด้วย 3 เสาหลัก ซึ่งมีเป้าหมายที่ชัดเจนดังต่อไปนี้

 

ด้านสิ่งแวดล้อม

  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจากการดำเนินงานของกลุ่ม (Scope 1) และจากพลังงานที่กลุ่มซื้อมา (Scope 2) ให้เป็นศูนย์ภายในปี 2583
  • คืนน้ำสู่ธรรมชาติและชุมชนให้ได้ 100% ภายในปี 2583
  • ส่งมอบผลกระทบสุทธิเชิงบวกด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

 

ไทยเบฟ

 

ด้านสังคม

  • เพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงานให้ได้มากกว่าหรือเท่ากับ 90% ภายในปี 2573
  • 80% ของรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ต้องมาจากเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพภายในปี 2573
  • แบ่งปันและสร้างคุณค่าแก่สังคมผ่านเสาหลัก 5 ประการ ได้แก่ การศึกษา สาธารณสุข กีฬา ศิลปะและวัฒนธรรม และการพัฒนาชุมชนและสังคม

 

ไทยเบฟ

 

การบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาล

  • วางมาตรฐานด้านการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพให้ครอบคลุมทั้งกลุ่มไทยเบฟ
  • 100% ของคู่ค้ากลุ่มกลยุทธ์ต้องมีการจัดทำและบังคับใช้จรรยาบรรณสำหรับคู่ค้าของตนเอง
  • ผสานความร่วมมือสู่ผลกระทบเชิงบวกด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล

 

เป็นที่น่ายินดีว่า ตลอดปี 2564 ที่ผ่านมาไทยเบฟได้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนแล้วดังนี้ 

 

  • บรรลุเฟสที่ 1 ของโครงการติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาของโรงงาน (Solar Rooftop) ในไทย 5 แห่ง
  • ขยายโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพเป็น 7 แห่ง สำหรับผลิตพลังงานความร้อนจากการเผาน้ำกากส่าซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการกลั่นแอลกอฮอล์ เพื่อใช้เป็นพลังงานในโรงงานแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
  • เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนภายในองค์กรเป็น 41.8%
  • ลดการใช้น้ำลง 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับพื้นที่ที่มีการดึงน้ำจากแหล่งน้ำมาใช้มาก (Water-Stressed Area)
  • ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope 1 และ Scope 2 ลงได้ 9.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน
  • เปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกใน Scope 3 เป็นครั้งแรก โดยมีหน่วยงานภายนอกร่วมยืนยัน
  • นำขยะอาหารและของเสียอื่นๆ จำนวน 60.2% กลับมาใช้ใหม่เพื่อวัตถุประสงค์อื่น
  • นำบรรจุภัณฑ์สินค้าจำนวน 82% กลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิล (Reuse and Recycle)

 

ไทยเบฟ ไทยเบฟ

 

“ไทยเบฟขอตั้งมั่นว่าจะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิดต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่ากลุ่มดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการแสวงหาการเติบโตและความมั่นคงทางธุรกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามพันธกิจสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโต” ฐาปนเอ่ยย้ำถึงความตั้งใจของไทยเบฟ

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising