×

‘หุ้นไทย’ ดิ่งท้ายตลาด 33 จุด กังวลยอดติดเชื้อโควิด-19 กระจายหลายจังหวัด เผย ‘เดลต้า-อิออน’ ฉุดดัชนีร่วงหนัก

28.12.2020
  • LOADING...
‘หุ้นไทย’ ดิ่งท้ายตลาด 33 จุด กังวลยอดติดเชื้อโควิด-19 กระจายหลายจังหวัด เผย ‘เดลต้า-อิออน’ ฉุดดัชนีร่วงหนัก

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (28 ธันวาคม)​ ดัชนีผันผวนรุนแรง โดยการซื้อขายในภาคเช้า ดัชนีสามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,500 จุดได้สำเร็จ และทำจุดสูงสุดของวันที่ 1,512.99 จุด เพิ่มขึ้น 26.68 จุด ก่อนจะมีแรงเทขายออกมาอย่างหนักในช่วงการซื้อขายภาคบ่าย โดยเฉพาะช่วงก่อนปิดตลาดไม่นานนัก ทำให้ดัชนีปรับลดลงมาปิดตลาดในระดับต่ำสุดของวันที่ 1,452 จุด ลดลงราว 33 จุด หรือ 2.26% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกว่า 103,634 ล้านบาท 

 

สำหรับนักลงทุนต่างชาติในวันนี้ มียอดขายสุทธิรวม 3,029 ล้านบาท เช่นเดียวกับ นักลงทุนสถาบันในประเทศที่มียอดขายสุทธิ 2,427 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายบุคคลในประเทศมียอดซื้อสุทธิ 4,559 ล้านบาท ส่วนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 897 ล้านบาท 

 

ส่วนหุ้นที่อยู่ในกระแสข่าวอย่าง บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA ปิดการซื้อขายที่ 560 บาท ลดลง 124 บาท หรือ 18.13% มูลค่าการซื้อขาย 12,363 ล้านบาท และหุ้น บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) หรือ AEONTS ปิดการซื้อขายที่ 200 บาท ลดลง 50 บาท หรือ 20% มูลค่าการซื้อขาย 4,298 ล้านบาท โดยการปรับลดลงของหุ้นทั้ง 2 บริษัทนี้มีผลต่อดัชนีหุ้นไทยที่ลดลงมาราว 25 จุด

 

อย่างไรก็ตาม มีหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นสวนตลาด คือ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC ปิดที่ 78.50 บาท เพิ่มขึ้น 10.75 บาท หรือ 15.87% มูลค่าการซื้อขาย 8,797 ล้านบาท และ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ปิดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ 7.22% มูลค่าการซื้อขาย 2,283 ล้านบาท

 

สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัท หลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวว่า สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงครั้งนี้เกิดจากความกังวลเรื่องการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเริ่มแพร่กระจายในหลายจังหวัด ซึ่งแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะไม่ได้เพิ่มมากเท่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่สามารถคลายความกังวลได้ เพราะการแพร่ระบาดไปในหลายจังหวัดสะท้อนถึงความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดที่ยังไม่ดีนัก ต่างจากสัปดาห์ที่แล้วที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากมีการตรวจเชิงรุกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่เข้าข่ายสงสัย 

 

นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของหุ้นขนาดใหญ่อย่าง DELTA ก็ทำให้ภาพรวมดัชนีปรับลดลงมาด้วยเช่นเดียวกัน 

 

ส่วนหุ้นที่สามารถบวกสวนตลาดได้คือกลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งปรับขึ้นมาสอดรับความคาดหวังการเติบโตของธุรกิจพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นหนึ่งในธีมการลงทุนในปี 2564 ส่งผลให้บริษัทที่ประกาศโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทนโดยเป็นโครงการที่จับต้องได้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุน

 

โดย GPSC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ตามที่บริษัทได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน (Energy Storage Unit) ด้วยเทคโนโลยี Semi-Solid ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 มูลค่าโครงการประมาณ 1,100 ล้านบาท มีกำลังการผลิตในระยะแรกอยู่ที่ 30 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทนั้น ปัจจุบันโรงงานดังกล่าวสามารถผลิตแบตเตอรี่ด้วยเทคโนโลยี Semi-Solid เซลล์แรกของประเทศไทย หรือ ‘G-Cell’ ได้แล้ว และคาดว่าโรงงานจะแล้วเสร็จพร้อมดำเนินการผลิต (Start of Regular Production) ภายในไตรมาส 2/64 โดยในช่วงแรกโรงงานจะผลิตแบตเตอรี่ ทั้งในส่วน Mobility และ Stationary ป้อนให้กับโรงงานอุตสาหกรรม สถานีอัดประจุธุรกิจขนส่ง เช่น รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า และการประยุกต์ใช้งานด้านอื่นๆ 

 

ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินว่า สาเหตุที่กดดันหุ้นไทยวันนี้มาจาก 4 ปัจจัย ประกอบด้วย 

  1. ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แพร่กระจายในหลายพื้นที่
  2. การปรับพอร์ตลงทุนให้สอดรับกับน้ำหนักดัชนี SET50/SET100 รอบใหม่ ซึ่งมีผลต้นปีหน้าทันที ซึ่งการเข้าคำนวณของหุ้นใหม่อย่าง DELTA ทำให้กองทุนที่อ้างอิงดัชนีต้องปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นขนาดใหญ่รายอื่น จึงฉุดภาพรวมดัชนีลงมา
  3. หุ้น DELTA และ AEONTS ที่ปรับลดลงอย่างหนัก ฉุดดัชนีลงมาราว 25 จุด 
  4. นักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอการลงทุนในหุ้นไทย เพราะเข้าสู่ช่วงหยุดยาว

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising