วันนี้ (18 ธันวาคม) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ร่วมเสวนาในงาน SME Talk ครั้งที่ 4 ‘อนาคตเอสเอ็มอีไทยภายใต้การเมืองไทย 2023’ จัดโดยสมาพันธ์ SME ไทย ว่าไทยสร้างไทยให้ความสำคัญกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยต้องทำให้คนตัวเล็กลุกขึ้นมาทำมาหากินให้ได้เร็วที่สุด แข็งแรงที่สุด
พรรคไทยสร้างไทยจึงมอง SMEs คือตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งทั่วประเทศมี SMEs มากกว่า 3.17 ล้านราย การจ้างงานกว่า 17.53 ล้านคน คิดเป็น 34.5% ของ GDP ประเทศไทย หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 5.6 ล้านล้านบาท ซึ่งเห็นว่าด้วยศักยภาพของผู้ประกอบการไทย เราสามารถเพิ่ม GDP จาก SMEs ได้มากกว่านี้
พรรคไทยสร้างไทยจึงมีเป้าหมายในเพิ่ม ‘GDP จังหวัด GDP SMEs’ นโยบายของพรรคไทยสร้างไทยจึงมุ่งขจัดปัญหา อุปสรรค พร้อมเพิ่มพลังอำนาจให้กับ SMEs ผ่านนโยบาย 3 สร้าง
สร้างที่ 1 คือการสร้างพลังอำนาจให้ SMEs ไทย โดยพรรคไทยสร้างไทยได้เสนอกฎหมายเพื่อเพิ่มพลังอำนาจSMEs เข้าสู่สภาเรียบร้อยแล้ว 2 ฉบับ
- ปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการทำมาหากิน โดยจะแขวนหรือพักใช้กฎหมาย ใบอุมัติ ใบอนุญาต กว่า 1,300 ฉบับ ไว้ชั่วคราว 3-5 ปี ที่เราเรียกว่าการทำ Legal Sandbox เช่น ใบอนุญาต อย., โรงแรมขนาดเล็ก ที่ผิดกฎหมาย
- กฎหมายในการรวมตัวกันของ SMEs ไทย 4 ระดับ ซึ่งขณะนี้พรรคไทยสร้างไทยได้เสนอร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรเรียนร้อยแล้ว แม้ว่าพรรคไทยสร้างไทยจะเป็นพรรคการเมืองเกิดใหม่ที่ยังไม่ผ่านการเลือกตั้ง จึงยังไม่มี ส.ส. ในสภา แต่พรรคไทยสร้างไทยขอลงมือทำงานให้กับพี่น้องทันที จึงขอเชิญชวนพี่น้อง SMEs ทุกคนมาร่วมลงชื่อสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวทั้ง 2 ฉบับ
รวมถึงการปลดล็อกรัฐราชการ และปลดล็อกคอร์รัปชัน ที่คอยกดทับและรีดไถผู้ประกอบการรายเล็ก
สร้างที่ 2 สร้างโอกาสให้ SMEs ไทยเข้าถึงแหล่งทุน เทคโนโลยี นวัตกรรม และตลาด ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยได้มีนโยบายจัดตั้ง ‘กองทุน SMEs สร้างไทย’ เพื่อเติมทุนให้กับ SMEs ในเงื่อนไขผ่อนปรน และดอกเบี้ยถูก และจะให้องค์กร SMEs ที่จะจัดตั้งตามกฎหมายของที่พรรคไทยสร้างไทยได้เสนอต่อสภาไปแล้ว เป็นผู้บริหารจัดการกองทุน SMEs นี้ด้วยตัวเอง
แต่ในช่วงโควิดที่ผ่านมาทำให้ SMEs จำนวนมากต้องประสบปัญหาเป็นหนี้เสีย พรรคไทยสร้างไทยจึงมีนโยบายจัดตั้ง ‘กองทุนฟื้นฟูหนี้เสีย SMEs’ ที่จะแก้หนี้เสีย และปรับโครงสร้างหนี้ให้กับ SMEs ซึ่งต้องทำให้ง่ายต่อการเข้าถึง และต้องกระจายไปทุกจังหวัด ซึ่งคลินิกแก้หนี้ของรัฐบาลก็ดี แต่มันเข้าถึงยากและไม่เพียงพอ เราต้องการโรงพยาบาลแก้หนี้เสียทุกจังหวัด
สร้างที่ 3 สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้ SMEs ไทย โดยพรรคไทยสร้างไทยมีนโยบายดังต่อไปนี้
- ยกเว้นและลดภาษีเงินได้นิติบุคคล SMEs 3 ปี ในรายที่กำไรสุทธิไม่เกิน 1 ล้านบาท จะได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษี ส่วนในรายกำไรสุทธิมากกว่า 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท เสียภาษีที่ร้อยละ 10 รวมถึงการงดเก็บภาษีสำหรับ SMEs รายใหม่ด้วย
นอกจากนี้ยังมีมาตรการในการยกเลิกการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือ 0% สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 300,000 บาทต่อปี จากของเดิมไม่เกิน 150,000 บาทต่อปี
- มาตรการการลดค่าไฟฟ้าให้กับผู้ประกอบการ SMEs และคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าให้กับธุรกิจ SMEs ที่ใช้มิเตอร์ขนาดไม่เกิน 50
- ชะลอการจัดเก็บภาษีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างออกไป 1 ปี
- ยกระดับแรงงานไทย Reskill และ Upskill ให้เป็นแรงกำลังสำคัญต่อการพัฒนา SMEs ไทย
- แก้ระเบียบราชการให้ SMEs สามารถเข้าประมูลแข่งขันงานของราชการได้
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า ที่สำคัญที่สุด เราจะให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้ให้กับ SMEs ในภูมิภาค โดยการตั้งเป้าไปที่ GDP ของจังหวัด ดังนั้นไทยสร้างไทยจึงมีนโยบายที่จะจัดตั้ง ‘ศูนย์พัฒนาและกระจายสินค้าประจำจังหวัด’ ทุกจังหวัด เพื่อให้คนตัวเล็กและ SMEs ได้มีโอกาสเข้าถึงการพัฒนาสินค้า การตลาด และการขนส่งในต้นทุนต่ำ นี่คือความมุ่งมั่นของพรรคไทยสร้างไทยที่จะกำจัดทุกอุปสรรคที่ขวางกั้นการทำธุรกิจ เพื่อสร้างพลัง SMEs สร้างรายได้ให้เติบโตทุกรายอย่างยั่งยืน