หนึ่งในความยุ่งยากของการจัดทริปท่องเที่ยวญี่ปุ่นคือ การตระเตรียมแลกเงินเยนให้พร้อม ก่อนจะลากกระเป๋าไปเช็กอินที่สนามบิน แลกเท่าไร มากไปไหม น้อยไปหรือเปล่า ยังคงเป็นโจทย์ยากสำหรับใครหลายคน เพราะไม่รู้ว่าจะช้อปหนักแค่ไหน ไม่นับรวมที่เพื่อนๆ ฝากซื้อของแบบกะทันหัน แลกน้อยก็กลัวจะไม่พอ แลกเยอะไปก็กลัวจะใช้ไม่หมด แถมยังต้องขาดทุนเวลาแลกเงินคืนอีกต่างหาก
แต่เร็วๆ นี้ ความยุ่งยากใจเหล่านี้กำลังจะหมดไป เมื่อกรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ผู้นำด้านนวัตกรรมการเงินของไทย จับมือกับ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำของโลก เพื่อขยายพรมแดนการจับจ่ายให้กับคนไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น
เมื่อ QR Code กลายเป็นทางเลือกใหม่ในการจับจ่ายใช้สอย แล้วทำไมต้องจำกัดบริการอยู่แค่ในประเทศไทย นี่จึงเป็นที่มาของบริการใหม่จากกรุงศรีที่ให้คนไทยวางแผนช้อปปิ้งได้อย่างง่ายดาย สะดวก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ด้วยการสแกน Thai QR Code ผ่านโมบายแอปพลิเคชัน KMA ของกรุงศรี และของทุกธนาคาร ณ จุดชำระเงินของเครือข่ายห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้ายอดนิยมของญี่ปุ่นภายในเดือนธันวาคมนี้
บริการชำระเงินผ่าน Thai QR Code คือแพลตฟอร์มการจับจ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดให้ใช้งานตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการชำระเงินของคนไทยไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยใช้เงินสด กลายเป็น ‘ไม่ใช้เงินสด’ เพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่ร้านค้าไหนๆ ก็ต้องมี QR Code ให้สแกน แต่ถึงอย่างนั้นบริการนี้ก็ยังจำกัดอยู่แค่ภายในประเทศ นี่จึงเป็นครั้งแรกของปรากฏการณ์การชำระเงินผ่าน QR Code ข้ามประเทศ
ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การร่วมมือกันระหว่างกรุงศรีกับ MUFG ครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะต่อไปจะเริ่มมีการใช้ Thai QR Code ไปยังร้านค้าอื่นๆ ทั่วประเทศ นอกเหนือไปจากห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้ายอดนิยมที่คนไทยรู้จักกันดี
“คนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวในญี่ปุ่น นอกจากจะได้รับความสะดวกมากขึ้นด้วยการชำระค่าสินค้าง่ายๆ เพียงสแกน QR Code ผ่านโมบายแอปพลิเคชันที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันในไทย โดยไม่จำเป็นต้องโหลดแอปฯ ใหม่เพิ่มเติม ยังปลอดภัยมากขึ้น โดยไม่ต้องพกพาเงินสดจำนวนมาก และถูกกว่าด้วยอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate) ที่ดีกว่าการแลกเงินสดและการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต พร้อมทราบยอดที่ต้องชำระในสกุลเงินบาททันที ณ จุดชำระเงินอีกด้วย” ฐากรกล่าวเพิ่มเติม
ทีนี้ เมื่อวางแผนจะไปญี่ปุ่นครั้งต่อไป การแลกเงินเยนเป็นปึกๆ ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ไม่จำเป็นอีกแล้ว
ภาพประกอบ: Thiencharas W.
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล