วันนี้ (22 มีนาคม) บรรยากาศการเดินทางออกจากพื้นที่เขต กทม.-ปริมณฑล บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือหมอชิต ยังคงเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจาก พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกคำสั่งปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 อันมีผลตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึง 12 เมษายน 2563
ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดอยู่ที่ 599 ราย และหากแยกเป็นคนในเขต กทม. พบว่ามีสูงถึง 213 ราย
อีกทั้งการสั่งปิดสถานที่ต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นห้างสรรพสินค้า หรือร้านกิจการต่างๆ ทำให้ประชาชนในกลุ่มแรงงานตัดสินใจเลือกเดินทางกลับต่างจังหวัดในช่วงนี้ โดยข้อมูลจาก บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เปิดเผยว่า ขณะนี้กระแสการเดินทางของผู้โดยสารที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในเส้นทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หรือจตุจักรยังคงมีจำนวนปกติ
โดยส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างชาติที่มาซื้อตั๋วเดินทางกลับในเส้นทาง เช่น แม่สอด จังหวัดตาก, มุกดาหาร, นครพนม และอุบลราชธานี เป็นต้น ทำให้เส้นทางดังกล่าวมีผู้โดยสารเดินทางเพิ่มขึ้น ส่วนเส้นทางอื่นการเดินทางปกติ
อย่างไรก็ตาม หลังจากพบว่ากระแสการเดินทางกลับภูมิลำเนาจะมีเพิ่มมากขึ้นจากผลพวงของมาตรการดังกล่าว ทางคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ จึงได้ส่งหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ขอความร่วมมือจัดทำแผนปฏิบัติการค้นหา เฝ้าระวัง และป้องกันโรคระดับอำเภอและหมู่บ้าน หลังจากที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว เนื่องจากพบการเพิ่มของจำนวนผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ประชาชนส่วนหนึ่งเดินทางเพื่อกลับภูมิลำเนา โดยให้ทุกจังหวัดดำเนินการ ดังนี้
- จัดตั้งทีมอาสาโควิด-19 ระดับอำเภอและหมู่บ้าน เพื่อดำเนินการค้นหาและเฝ้าระวัง
- จัดทำฐานข้อมูลของผู้เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มาถึงภูมิลำเนา ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
- ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อแยกตัวสังเกตอาการไข้ และอาการทางเดินหายใจทุกวัน และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้อื่นในที่พำนักหรือที่พักอาศัยจนครบ 14 วัน นับจากวันที่เดินทางมาถึงภูมิลำเนา
- แจ้งผู้เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ดังต่อไปนี้ ไม่รับประทานอาหารและใช้ภาชนะร่วมกับผู้อื่น, ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว หมอน ผ้าห่ม แก้วน้ำ ช้อนและส้อม, ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์, หลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรัง, หากมีไข้และอาการทางเดินหายใจ ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า แล้วรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่โดยทันที
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
