×

ทำไมคนไทยไปดูงานญี่ปุ่นแต่ล้มเหลว

27.09.2023
  • LOADING...
ดูงาน ญี่ปุ่น

แต่ละปีจะมีคนไทยหลายหมื่นคน ทั้งภาคเอกชนและภาคราชการ รวมถึงองค์กรอิสระ ไปดูงานที่ต่างประเทศ แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ลับหลังมาตลอดว่า ไปดูงานจริงไหม และได้เอาความรู้ที่ดูงานกลับมาใช้มากน้อยเพียงใด

 

ยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงหรือระดับบริหารแล้ว การดูงานต่างประเทศกระทำกันเป็นเรื่องปกติจนกลายเป็นวัฒนธรรมของทุกหน่วยงาน

 

ในบรรดาประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการดูงานแล้ว ดูเหมือนประเทศ ‘ญี่ปุ่น’ เป็นจุดหมายสำคัญในการดูงานของทุกหน่วยงานทีเดียว

 

แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากไปเที่ยวดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย ค่าใช้จ่ายไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศทางยุโรป และมีเรื่องราวหลากหลายให้ดูงานมากมาย ตั้งแต่เทคโนโลยีด้านต่างๆ ไปจนถึงวิถีชีวิต ธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรม กีฬา ไปจนถึงอุตสาหกรรมบันเทิง และเมื่อไม่นานมานี้ หน่วยงานหลายแห่งจำนวนมากพากันไปดูงานหลายจังหวัดในประเทศญี่ปุ่น เช่น

 

  • ศึกษาดูงานด้านวัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดโออิตะ  
  • ศึกษาดูงานด้านนโยบายการส่งเสริมผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตสินค้าพื้นเมือง Oita-Oyama Noukyou และการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ
  • ศึกษาดูงานการพัฒนาพลังงานจากความร้อนใต้ดิน ณ Geothermal Power Beppu 
  • ศึกษาดูงานด้านเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน การพัฒนาท่าเรือเชิงพาณิชย์ ณ ท่าเรือโมจิโกะ

 

ศึกษาดูงานเทคโนโลยีของโรงผลิตหุ่นยนต์อุตสาหกรรมด้วยหุ่นยนต์ ศึกษาดูงานการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมแบบ MultiStakeholder จัดการขยะได้อย่างเป็นรูปธรรมและกลายเป็นเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มีน้ำของเสียจากอุตสาหกรรมมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อลดการปล่อยของเสียจากโรงงานเป็น ‘Zero Emission’ มีการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุด ณ Kitakyushu Eco-Town Project 

 

ต้องยอมรับว่าประเทศญี่ปุ่นมีตัวอย่างที่ดี หรือ Good Practice จำนวนมาก ที่ทำให้ประเทศหลายประเทศอยากเจริญรอยตามจนต้องมาดูงานครั้งแล้วครั้งเล่า

 

สุดท้ายก็ได้แต่ดูงาน แต่ส่วนใหญ่ไม่สามารถนำกลับมาใช้เมืองไทยได้ อย่างมากก็กลับมาทำรายงานพอเป็นพิธี ว่าไปดูงานเรื่องอะไร แล้วคาดว่าจะนำมาปรับใช้ในหน่วยงานตัวเองอย่างไร สุดท้ายข้อมูลเหล่านั้นก็ทิ้งอยู่ในไฟล์คอมพิวเตอร์ พอนานเข้าสิ่งที่ดูงานก็กลายเป็นอดีต จนต้องกลับไปดูงานกันใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่า

 

อันที่จริงหลายคนที่ไปดูงานในประเทศญี่ปุ่นมักตั้งคำถามกลับมาว่า ทำไมประเทศของเขาถึงเจริญกว่าเรา ทำไมเขาถึงพัฒนาได้อย่างรวดเร็วกว่าไทย ทำไมเขาทำได้ ทำไมเราทำไม่ได้

 

สุดท้ายคำถามใหญ่คือ ทำไมคุณภาพคนญี่ปุ่นจึงแตกต่างจากคนไทยมาก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดในการจะทำให้สังคมรุดไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

 

ผู้เขียนขอตั้งข้อสังเกตพื้นฐานนิสัยบางอย่างที่แสดงความแตกต่างระหว่างคนญี่ปุ่นกับคนไทย

 

  1. คนญี่ปุ่นทำงานเป็นทีม ถูกปลูกฝังแต่เด็กให้อยู่ร่วมกัน รับผิดชอบร่วมกัน ทำงานเป็นหมู่คณะ ไม่เหมือนคนไทยที่ชอบทำงานคนเดียว คำว่าทีม ยังเป็นศัพท์ที่ต้องยืมมาจากภาษาอังกฤษเลย แสดงว่าโดยพื้นฐานคนไทยถนัดทำอะไรคนเดียว หลายครั้งที่ทำงานเป็นทีมมักทะเลาะกัน

 

  1. คนญี่ปุ่นไม่ผลักภาระตัวเองให้คนอื่น แต่จะรับผิดชอบตัวเองให้มากที่สุด ยกตัวอย่าง หากเดินไปตามท้องถนนมักจะไม่ค่อยมีถังขยะให้คนทิ้ง เพราะคนญี่ปุ่นทั่วไปจะไม่ทิ้งขยะในที่สาธารณะ แต่จะเก็บมาทิ้งบ้านตัวเอง เพราะการทิ้งขยะในที่สาธารณะเป็นการผลักภาระให้สังคมหรือคนอื่น ขณะที่เมืองไทยมีถังขยะทุกร้อยเมตร สะท้อนการผลักภาระตัวเองให้คนอื่น คนไทยจึงชอบทิ้งขยะในที่สาธารณะจนเป็นเรื่องปกติ เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็มีคนมาเก็บขยะให้

 

  1. การปกครองของญี่ปุ่นมีการกระจายอำนาจไปทั่วประเทศ ความเจริญและงบประมาณจึงไม่ได้กระจุกตัวที่เมืองหลวง แต่กระจายไปทั่วประเทศ ท้องถิ่นสำคัญไม่น้อยกว่าเมือง ข้าราชการส่วนกลางต้องฟังผู้นำท้องถิ่นมากกว่า วัฒนธรรมเจ้าขุนมูลนายไม่ค่อยมี ความรวดเร็วในการตัดสินใจจึงคล่องตัวกว่า ขณะที่ผู้มีอำนาจในสังคมไทยทุกยุคทุกสมัย ทำทุกวิถีทางที่จะรวบอำนาจไปสู่ส่วนกลาง และมีเจ้านายลำดับชั้นคอยบังคับบัญชามากมายจนกลายเป็นระบบที่อุ้ยอ้าย เชื่องช้า เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ

 

  1. คนญี่ปุ่นมีวินัยในการทำงานสูงมาก ข้อนี้ใครๆ ก็ทราบดี ไม่ว่าเรื่องของการตรงเวลา การนัดหมายและการประชุม ขนาดในห้องประชุมใครใช้โทรศัพท์มือถือ ถือว่าผิดวินัยร้ายแรง ไล่ออกสถานเดียว

 

  1. คนญี่ปุ่นมีความอดทนสูงมาก สามารถยืนรอไฟเขียวข้ามถนนกลางหิมะตกได้หลายนาที แม้ถนนจะว่าง เพราะเขาเชื่อว่าความอดทนทำให้เราไม่เห็นแก่ตัว

 

  1. คนญี่ปุ่นมักจะต่อแถวเข้าคิวกันยาวเหยียดเป็นเรื่องปกติ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 แผ่นดินไหวใต้ทะเลด้วยความรุนแรงขนาด 9 ริกเตอร์ ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงนับ 10 เมตรถล่มเกาะญี่ปุ่น ทำให้มีคนบาดเจ็บและล้มตายนับหมื่นคน เป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่สุดในรอบ 300 ปีแต่มีภาพภาพหนึ่งสร้างความประทับใจให้กับผู้คนไปทั่วโลก ภาพคนญี่ปุ่นเข้าคิวรอซื้อสินค้าหรือรอรับการแจกของจากเจ้าหน้าที่นานนับชั่วโมงอย่างมีวินัย อดทน เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีการแซงคิวแย่งอาหารกัน เพราะพวกเขาเชื่อว่าสังคมนี้จะให้ความยุติธรรมโดยเท่าเทียมกัน

 

ข้อสังเกตเล็กๆ นี้ ทำให้ไม่แปลกใจว่า หลายครั้งที่คนไทยกลับจากไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นไม่อาจนำเอาเรื่องดีๆ มาใช้กับองค์กรที่ตัวเองสังกัดอยู่ได้ เพราะอุปสรรคจากวัฒนธรรมนิสัยการทำงานของพวกเรากันเอง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising