จะบอกจะเล่าอะไรแต่ละที ‘ไทยประกันชีวิต’ ต้องมาในท่าที่ไม่ธรรมดาสักครั้ง
ครั้งนี้ก็เช่นกัน ไทยประกันชีวิตชวนไปย้อนรอยประวัติศาสตร์กว่า 82 ปี ในโครงการ ‘ไทยประกันชีวิต Experience’ ที่อาคารไทยประกันชีวิต สาขาบางนา ในรูปแบบ Immersive Experience
ได้ยินครั้งแรกเดาไม่ออกว่าประวัติศาสตร์แบรนด์ประกันจะเล่าในรูปแบบ Immersive Experience ให้สนุกได้อย่างไร แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ประกันร่วมสมัย ต้องมีอะไรเซอร์ไพรส์แน่นอน
จริงอย่างที่คิด ไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI บอกว่า ‘ไทยประกันชีวิต Experience’ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ ‘Immersive Marketing’ ถือเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกที่สร้างแบรนด์ผ่านกลยุทธ์การตลาดในรูปแบบการสร้างประสบการณ์เสมือนจริง ตอกย้ำแบรนด์ประกันแบรนด์แรกของคนไทยที่ยังแข็งแกร่งและร่วมสมัยตลอดเวลา
ในวันที่ตลาดประกันรายล้อมไปด้วยแบรนด์ประกันข้ามชาติ จะทำอย่างไรให้แบรนด์คนไทยเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งและยังร่วมสมัยตลอดเวลา
เป็นที่มาของการนำประวัติศาสตร์ 82 ปีของไทยประกันชีวิต แบรนด์ประกันชีวิตแบรนด์แรกของคนไทย มาเล่าด้วยกระบวนท่าใหม่ โดยนำ Immersive Marketing มาใช้และนำเสนอในรูปแบบของ Immersive Experience ภายใต้แนวคิด ‘OUR STORY, OUR JOURNEY’ บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ เส้นทางความสำเร็จ และความเข้มแข็งของวัฒนธรรมองค์กรของไทยประกันชีวิต รวมถึงการเป็นแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน
“จริงๆ เราอยากทำพิพิธภัณฑ์เพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์ของไทยประกันชีวิต แต่มันคงจืดชืดไปหน่อย และคงไม่มีใครอยากมาดูซ้ำ” ในฐานะบริษัทที่ดูแล ‘ชีวิต’ ก็ต้องทำอะไรให้ดู ‘มีชีวิตชีวา’ เพื่อให้คนที่มาเยือนได้มีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์แบบครบรส สมจริง
Immersive Marketing จึงเป็นกลยุทธ์ที่จะทำให้ผู้บริโภคสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงผ่านมัลติมีเดียและเทคนิคพิเศษโดยนำเอาเทคโนโลยีด้านดิจิทัลมีเดียมาสร้างประสบการณ์ร่วมและสร้างการเรียนรู้เรื่องราวของไทยประกันชีวิต และการส่งมอบคุณค่าทางด้านวัฒนธรรมของไทยประกันชีวิต ผ่านการเล่าเรื่องที่ไม่ซับซ้อน ผู้ชมสามารถสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงผ่านประสาทสัมผัสที่หลากหลาย ทำให้เกิดการมีส่วนร่วมและปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์โดยตรง
“กลยุทธ์ Immersive Marketing จึงเป็นการสื่อสารแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ และสร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ส่งผลให้แบรนด์มีความโดดเด่นกว่าคู่แข่ง และสร้างลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์ได้ นำไปสู่การสร้างความยั่งยืนให้กับแบรนด์” ไชยกล่าว
พูดในฐานะแฟนแบรนด์และยังเป็นแฟนภาพยนตร์โฆษณาไทยประกันชีวิต ค่อนข้างเชื่อมือไทยประกันชีวิต ในฐานะแบรนด์ที่มุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกชีวิต เชื่อในแนวคิดคุณค่าของชีวิต คุณค่าของความรัก ว่าจะสามารถร้อยเรื่องราวกว่า 8 ทศวรรษให้มีชีวิตได้อย่างกลมกล่อมและทำให้ใครก็ตามที่ได้มาสัมผัสรู้จักและรักไทยประกันชีวิตมากขึ้น ด้วยการย่นย่อประวัติศาสตร์ ความสำเร็จ และความเข้มแข็งของ ‘ไทยประกันชีวิต’ ภายในพื้นที่จัดแสดงทั้ง 4 ห้อง
ห้องที่ 1 จุดเริ่มต้นของไทยประกันชีวิต บริษัทประกันชีวิตแห่งแรกของคนไทย
‘รู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง’ คือสิ่งที่เราสัมผัสได้ทันทีตั้งแต่ห้องแรก ด้วยวิธีการเล่าที่ย้อนไปจุดเริ่มต้นที่ทำให้ เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ (จิตร ณ สงขลา) และข้าราชการระดับสูงหลายท่าน ตัดสินใจร่วมกันก่อตั้งบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกของคนไทย เพื่อให้พี่น้องชาวไทยมั่นใจว่าจากวันนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคนไทยจะมีหลักประกันชีวิตที่มั่นคง ถือเป็นจุดเริ่มต้นของคำมั่นสัญญาที่ว่า “ชีวิตคนไทยต้องไทยประกันชีวิตดูแล”
เรายังได้เห็นการเดินทางของธุรกิจประกันที่เคยอยู่อันดับรั้งท้ายในตลาด ผลิตภัณฑ์ตัวแรกของบริษัทฯ การดำเนินธุรกิจที่อยู่เคียงข้างสังคมไทย ไปจนถึงวันที่ประสบความสำเร็จก้าวขึ้นสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตคนไทยอันดับ 1
ห้องที่ 2 การบริการที่มากกว่าการประกันชีวิต เพื่อเคียงข้างดูแลชีวิตคนไทย
ห้องที่เป็นเหมือนการตอกย้ำคำมั่นสัญญาที่จะเคียงข้างดูแลชีวิตคนไทย ไปพร้อมๆ กับชูบริการ ‘ไทยประกันชีวิตฮอตไลน์’ บริการที่มากกว่าการประกันชีวิตและเป็นบริการที่แตกต่างจากคู่แข่งในยุคนั้น ด้วยการนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของลูกค้าไทยประกันชีวิตมาแสดงจริง ทั้งเรื่องราว บรรยากาศ และเอฟเฟ็กต์ที่ทำเอาเหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ใครที่ดูแล้วกลั้นน้ำตาไหวคือเก่ง!
ห้องที่ 3 กว่าจะเป็น Sadvertising ต้นแบบหนังโฆษณารักเรียกน้ำตา ที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนไทย
ผ่านห้องนี้ไปก่อนแล้วค่อยปาดคราบน้ำตา เพราะนี่คือห้องจัดแสดงที่ออกแบบให้เหมือนเธียเตอร์ขนาดย่อม ชวนให้เราย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นของ Sadvertising ‘หนังโฆษณารักเรียกน้ำตา’ ที่ Philip Kotler นักการตลาดระดับโลกยังต้องซูฮกและนิยามให้ไทยประกันชีวิตคือต้นแบบ Sadvertising
นอกจากเราได้ฟังเบื้องลึกและเบื้องหลังกว่าจะเป็นหนังโฆษณารักเรียกน้ำตาจากผู้ที่อยู่เบื้องหลังตัวจริง เราจะเข้าใจมากขึ้นว่าอะไรคือคุณค่าของชีวิตที่ไทยประกันชีวิตมองเห็น และอยากจะส่งมอบให้กับคนไทยผ่านเรื่องราวของภาพยนตร์โฆษณามาโดยตลอด
และไฮไลต์ของห้องนี้คือ คุณจะได้รับชมภาพยนตร์โฆษณาไทยประกันชีวิตตัวล่าสุดที่จะยังไม่เปิดเผยที่ไหนมาก่อน
ห้องที่ 4 เรื่องราวของบุคคลสำคัญที่ร่วมสร้างความเข้มแข็งและการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงเรื่องราวที่น่าสนใจของไทยประกันชีวิต
ห้องสุดท้ายเป็นเหมือนการเก็บตกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยผ่านเรื่องราวของบุคคลสำคัญที่ร่วมสร้างความเข้มแข็งและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับไทยประกันชีวิต รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ที่มาของตราสัญลักษณ์ ประวัติของผู้ก่อตั้ง และตรงกลางห้องยังมีถ้วยรางวัลที่ได้รับทั้งในระดับโลกและในประเทศ ด้านองค์กร ด้าน CSR และด้านโฆษณา
หลังจากดื่มด่ำประวัติศาสตร์ ความสำเร็จ และความเข้มแข็งของไทยประกันชีวิตครบทั้ง 4 ห้อง ด้านนอกจะมี Pop-up Theater ที่ตั้งใจทำขึ้นไว้เป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงนิทรรศการหรืองานอีเวนต์ต่างๆ ของบริษัทฯ ในอนาคต
วันที่เราไปเยี่ยมชม Pop-up Theater นำเสนอเรื่องราวความทรงจำสุดประทับใจของพนักงานรุ่นบุกเบิกมาร่วมกันถ่ายทอดค่านิยมของไทยประกันชีวิตที่ว่า ‘ความสำเร็จของบริษัทฯ เกิดขึ้นจากความผูกพันของคนไทยประกันชีวิต’ ที่แสดงให้เห็นความผูกพัน ค่านิยม และวัฒนธรรมขององค์กรที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะการให้คุณค่าของคนไทยประกันชีวิตนั่นเอง
แต่กว่าจะเป็น ‘ไทยประกันชีวิต Experience’ อย่างที่เห็น ต้องใช้เวลาพัฒนาถึง 3 ปี ส่วนเหตุผลที่เลือกอาคารไทยประกันชีวิต สาขาบางนา เพราะโครงสร้างอาคารเหมาะสำหรับการทำ Immersive Experience นั่นเอง
“นอกจากที่นี่จะถูกสร้างให้เป็น ‘ไทยประกันชีวิต Experience’ พื้นที่ส่วนหนึ่งเราจะทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ (Learning Center) ของบุคลากรทั้งฝ่ายขายและพนักงาน รองรับการประชุม อบรม สัมมนา และการจัดกิจกรรมต่างๆ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi, เคาน์เตอร์บาร์, ห้อง Auditorium, พื้นที่ Co-Working Space ที่สำคัญเราตั้งใจจะให้ที่นี่เป็นสาขาต้นแบบของ ‘Living Community’ อีกด้วย” ไชยกล่าว
สมกับเป็นแบรนด์ประกันชีวิตที่ ‘เข้าใจคนไทย’ อย่างแท้จริง รู้ว่าต้องเล่าเรื่องแบบไหนหรือขยี้อะไรถึงจะได้ใจคนไทย ไชยบอกว่า ไทยประกันชีวิต Experience จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ส่งมอบคุณค่าต่างๆ ให้กับพนักงาน ลูกค้า และสังคม สร้างความรู้สึกชื่นชอบและความรักให้เกิดกับแบรนด์ไทยประกันชีวิต
“ยกตัวอย่างพนักงานหรือฝ่ายขาย การเข้ามาสัมผัสประสบการณ์เท่ากับเราได้ส่งมอบคุณค่าและค่านิยมองค์กรให้เขารับรู้และดื่มด่ำ สำหรับลูกค้าไทยประกันชีวิตเราได้ส่งมอบความไว้ใจและสร้างความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น
“ไทยประกันชีวิต Experience ยังสะท้อนให้เห็นว่า เราเป็นแบรนด์ที่ไม่หยุดสร้างนวัตกรรมและสิ่งใหม่ๆ ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าถึงเราจะเป็นแบรนด์เก่าแก่อายุ 82 ปี แต่มีความร่วมสมัย ผมเชื่อว่าการที่แบรนด์เรายังร่วมสมัย เพราะเรารู้ว่าตัวตนของเราเป็นใคร และอยากเป็นคนแบบไหน ถ้าเปรียบเป็นคนอายุ 82 ปี เราอยากเป็นคนล้ำค่า พร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวไปกับโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” ไชยกล่าว
ในช่วงแรก ‘ไทยประกันชีวิต Experience’ จะเปิดให้เฉพาะผู้บริหาร พนักงาน ฝ่ายขาย และผู้เอาประกันภัย เข้าชม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมกับบริษัทฯ สร้างความเชื่อมั่น และความภักดีต่อองค์กร และในอนาคตจะขยายให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าชมโครงการฯ ได้ เพื่อเรียนรู้เรื่องราวของบริษัทฯ และสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจในแบรนด์ไทยประกันชีวิต ส่วนจะเปิดให้เข้าชมเมื่อไร THE STANDARD จะมาอัปเดตอีกครั้ง