วันนี้ (4 กุมภาพันธ์) ที่ทำเนียบรัฐบาล สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการรถไฟไทย-จีน ระยะที่ 2 เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางจากจังหวัดนครราชสีมา-หนองคาย ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยัง สปป.ลาว และจีน ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่นายกรัฐมนตรีเตรียมเดินทางไปเยือนประเทศจีน เพราะจีนได้เร่งรัดโครงการนี้ จึงเป็นโอกาสแจ้งความคืบหน้า และที่ผ่านมาเอกอัครราชทูตจีนได้สอบถามเรื่องนี้กับตนเองโดยตลอด
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงการคลังและสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมีความเป็นห่วงเรื่องงบประมาณที่สูง จึงเสนอให้นำบางส่วนไปจัดทำเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งกระทรวงคมนาคมมอบหมายการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในส่วนของการเดินรถ ให้ผ่าน พ.ร.บ.การร่วมทุนฯ ที่จะมีภาคเอกชนมาร่วมลงทุนในส่วนนี้ ประเมินว่าประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะลดภาระที่รัฐบาลต้องออกค่าใช้จ่ายไปได้ 23% หลังจากนี้ รฟท. จะดำเนินการต่อในเรื่อง TOR โดยคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงเดือนมิถุนายนเป็นอย่างช้า
อย่างไรก็ตาม การเดินทางเยือนจีนในครั้งนี้อาจยังไม่มีวาระหารือในเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์ แต่เป็นเรื่องที่ได้ดำเนินการพูดคุยกับภาคเอกชนของจีน กระทรวงคมนาคมได้ให้ข้อมูลที่นักลงทุนจีนต้องการไปครบถ้วนแล้ว เท่าที่พูดคุยมามีบริษัทจากจีนประมาณ 6 บริษัทที่สนใจร่วมลงทุนในโครงการ
ขณะเดียวกัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็ถือเป็นตัวเลือกที่มีแนวโน้มสูง เพราะมีเรือเดินสมุทรถึง 1,700 ลำ และยังมีการขยายท่าเรือไปในหลายประเทศ จึงน่าจะมีความสนใจในโครงการนี้ด้วย ดังนั้นจึงเป็นการเสนอว่าใครจะให้ผลประโยชน์ได้มากที่สุด บริษัทนั้นจึงจะชนะไป
ส่วนความคืบหน้า พ.ร.บ.เขตพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ พ.ศ. …. กระทรวงการคลังได้มอบอำนาจให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรทำเป็น พ.ร.บ. ต่อไป