×

จับตาผลประชุม กนง. คาด ‘เงินบาท’ สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 33.75-34.75 บาทต่อดอลลาร์

31.07.2023
  • LOADING...
ค่าเงินบาท

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.26 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 34.47 บาทต่อดอลลาร์ โดยในช่วงคืนวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนหน้า เงินบาททยอยปรับตัวแข็งค่าขึ้น (แกว่งตัวในกรอบ 34.20-34.50 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยโฟลวธุรกรรมขายทำกำไรทองคำและจังหวะการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์

 

พูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai Global Markets ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ท่าทีพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีนหลังการประชุมโปลิตบูโรได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดกลับมาซื้อสินทรัพย์จีนอีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นร้อนแรง ส่วนเงินหยวนจีนก็กลับมาแข็งค่าขึ้น

 

ในสัปดาห์นี้ ธนาคารมองว่าควรจับตาการประชุมธนาคารกลาง ทั้งการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) พร้อมรอลุ้นรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ

 

โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย +25bps สู่ระดับ 2.25% ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่ยังมีความเสี่ยงด้านสูง รวมถึงความต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (Policy Space) อย่างไรก็ดี ยังต้องรอติดตามว่า กนง. จะส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินในอนาคตอย่างไรบ้าง โดยหากมีการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังไม่สิ้นสุด เราก็พร้อมปรับมุมมองใหม่ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจจบที่ระดับ 2.50%

 

สำหรับการประชุม BOE มองว่า BOE จะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย +50bps สู่ระดับ 5.50% หลังอัตราเงินเฟ้ออังกฤษยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก ทั้งนี้ ตลาดจะรอลุ้นว่า BOE จะส่งสัญญาณต่อแนวโน้มการปรับนโยบายการเงินในอนาคตอย่างไร โดยล่าสุดผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า BOE อาจขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องสู่ระดับ 5.75-6.00% ในส่วนภาพเศรษฐกิจนั้น ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนผ่านรายงานอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 นอกจากนี้ ตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซนในเดือนกรกฎาคม ซึ่งคาดว่าอาจยังคงอยู่ในระดับสูงราว 5.3% หรือ 5.4% สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ทำให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้

 

ในฝั่งสหรัฐฯ ไฮไลต์สำคัญจะอยู่ที่รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยตลาดประเมินว่ายอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) อาจเพิ่มขึ้น 2 แสนตำแหน่ง ทำให้อัตราการว่างงานยังคงอยู่ที่ระดับ 3.6% สะท้อนภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ตลาดแรงงานอาจลดความตึงตัวลง สอดคล้องกับยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (Job Openings) ที่อาจลดลงต่อเนื่อง ตามภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ซึ่งภาพดังกล่าวอาจส่งผลให้อัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings) ลดลงสู่ระดับ +4.2%y/y ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจคลายกังวลต่อแรงกดดันเงินเฟ้อ 

 

จากปัจจัยข้างต้นทำให้แนวโน้มของค่าเงินบาทอาจแกว่งตัว Sideway ในกรอบกว้าง และคงมองว่าเงินบาทจะยังไม่ได้อ่อนค่าไปมากจนทะลุแนวต้านโซน 34.75 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีโอกาสที่เงินบาทจะแข็งค่าขึ้นได้บ้าง หาก กนง. ส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อที่ชัดเจน โดยเงินบาทจะยังไม่กลับมาเป็นเทรนด์แข็งค่า จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของการโหวตเลือกนายกฯ และการจัดตั้งรัฐบาลผสม จึงมองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ที่ระดับ 33.75-34.75 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.10-34.40 บาทต่อดอลลาร์

 

ส่วนเงินดอลลาร์นั้นคาดว่ามีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้ในกรณีที่ 1. Fed ส่งสัญญาณชัดเจนพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อ แต่ทั้ง ECB และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กลับไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยหรือใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้สกุลเงินหลักอย่างเงินยูโร (EUR) และเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) อ่อนค่าลงได้บ้าง หนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หรือ 2. ตลาดปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ในกรณีที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกมาน่าผิดหวัง ซึ่งต้องระวังรายงานจากบรรดาบริษัทเทคใหญ่

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising