สภาพภัยแล้งรุนแรงในรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกาส่งผลให้แม่น้ำพาลักซี (Paluxy River) ที่ไหลผ่านอุทยานไดโนซอร์แวลลีย์ (Dinosaur Valley) แห้งขอด จนทำให้รอยเท้าไดโนเสาร์อายุมากกว่า 100 ล้านปี ที่ปกติอยู่ใต้แม่น้ำ ปรากฏออกมาให้เห็น
อุทยานไดโนซอร์แวลลีย์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐเท็กซัส เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีการค้นพบรอยเท้าจำนวนมากของไดโนเสาร์แอโครแคนโทซอรัส (Acrocanthosaurus) ซึ่งเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่ โดยทางอุทยานเปิดเผยกับ NBC News ว่า รอยเท้าไดโนเสาร์แอโครแคนโทซอรัสที่โผล่ขึ้นในแม่น้ำพาลักซีที่แห้งขอด เป็นหลักฐานยืนยันว่าสิ่งมีชีวิตขนาด 15 ฟุต น้ำหนัก 7 ตัน เคยอาศัยอยู่ในบริเวณนี้เมื่อกว่า 113 ล้านปีก่อน
ขณะที่ BBC รายงานว่า ภัยแล้งส่งผลให้มองเห็นรอยเท้าไดโนเสาร์แอโครแคนโทซอรัส ประมาณ 60 รอย จากทั้งหมดที่คาดว่ามีประมาณ 140 รอย
สเตฟานี ซาลินาส การ์เซีย โฆษกอุทยานระบุในอีเมลถึง CNN ว่า รอยเท้าส่วนใหญ่ที่เพิ่งถูกค้นพบในส่วนต่างๆ ของแม่น้ำในอุทยานแห่งนี้เป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์แอโครแคนโทซอรัส เว็บไซต์ของอุทยานเผยด้วยว่า แม้บางครั้งนักท่องเที่ยวอาจมองเห็นร่องรอยไดโนเสาร์ชนิดอื่นๆ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ แต่ไม่มีใครเคยพบร่องรอยของไดโนเสาร์พันธุ์แอโครแคนโทซอรัสมาตั้งแต่ปี 2000
นอกจากแอโครแคนโทซอรัสแล้ว ทางอุทยานยังพบรอยเท้าไดโนเสาร์พันธุ์ซอโรโพไซดอน (Sauroposeidon) ซึ่งเป็นไดโนเสาร์กินพืชที่มีความสูงถึง 66 ฟุต และอาจมีน้ำหนักมากถึงประมาณ 48 ตัน เมื่อโตเต็มที่ โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ซอโรโพไซดอนเป็นเหยื่อของแอโครแคนโทซอรัส และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจึงพบรอยเท้าของไดโนเสาร์สองชนิดนี้อยู่ด้วยกัน
ทั้งนี้ หลายรัฐทั่วสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับภัยแล้งอย่างหนัก อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้น
ระดับน้ำที่ลดลงในแหล่งกักเก็บน้ำสำคัญๆ ทำให้รัฐบาลกลางต้องยื่นมือเข้าแทรกแซง ซึ่งรวมถึงการออกมาตรการลดการใช้น้ำที่จะส่งผลกระทบต่อรัฐแอริโซนาและรัฐเนวาดา
สำหรับในรัฐเท็กซัส พื้นที่เกือบทั้งหมดของรัฐกำลังประสบกับภัยแล้งอย่างรุนแรง ทำให้แหล่งน้ำแห้งขอด ซึ่งระดับน้ำที่ลดลงดังกล่าวทำให้ร่องรอยต่างๆ ปรากฏออกมาให้เห็นนอกเหนือไปจากรอยเท้าไดโนเสาร์ อาทิ ในทะเลสาบมี้ด (Lake Mead) พบซากศพมนุษย์และเรือในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังระดับน้ำลดลงในช่วงฤดูแล้งที่ยาวนาน
ภาพ: Cover Images via Reuters
อ้างอิง:
