×

‘เต็ดตรา แพ้ค’ ชู 3 นวัตกรรมโซลูชันปูทางอนาคตอุตสาหกรรมอาหาร ในงาน ‘Innovation Starts Here’ [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
17.10.2023
  • LOADING...
Innovation Starts Here

HIGHLIGHTS

  • ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหารคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตราว 5.25% (ในช่วงปี 2566-2571) ส่งผลให้มูลค่าตลาดดีดตัวไปที่ 87,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 
  • ‘นวัตกรรม’ คือกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจ เต็ดตรา แพ้ค ในฐานะผู้จัดหาโซลูชันแบบครบวงจรในด้านนวัตกรรมสำหรับภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม จึงจัดงาน ‘Innovation Starts Here’ เพื่อสนับสนุนให้ผู้นำอุตสาหกรรมธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของประเทศไทยยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน พัฒนาแนวคิดด้านความยั่งยืน และรักษาความเชื่อมั่นในการควบคุมคุณภาพ 
  • ภายในงานเปิดโอกาสให้รู้จักกับ 3 นวัตกรรมโซลูชันของเต็ดตรา แพ้ค ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และส่งเสริมความยั่งยืนให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าจะสร้างความโดดเด่นและเติบโตได้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ได้แก่ Innovate for Growth, Design for Sustainability และ Connect for the Future

‘นวัตกรรมอาหาร’ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เหตุผลที่ ‘เต็ดตรา แพ้ค’ (Tetra Pak) ผู้นำเสนอโซลูชันการแปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลกสัญชาติสวีเดน ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 70 ปี และทำตลาดในประเทศไทยกว่า 40 ปี หยิบยกประเด็นนี้มาพูดในเวลานี้เพราะเล็งเห็นว่า ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเป็นธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงและผันผวนอย่างรวดเร็ว 

 

โดยเฉพาะในประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหารคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตราว 5.25% (ในช่วงปี 2566-2571) ส่งผลให้มูลค่าตลาดดีดตัวไปที่ 87,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 สอดคล้องกับแนวโน้มผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีความยั่งยืนและดีต่อสุขภาพมากขึ้น  

 

 

 

ชัดเจนแล้วว่า ‘นวัตกรรม’ คือกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจ เต็ดตรา แพ้ค ในฐานะผู้จัดหาโซลูชันแบบครบวงจรในด้านนวัตกรรมสำหรับภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมอุตสาหกรรมต่างๆ และดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด Protects What’s Good ปกป้องทุกคุณค่า (ปกป้องอาหาร ผู้คน และโลก) จึงจัดงาน ‘Innovation Starts Here’ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนให้ผู้นำอุตสาหกรรมธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของประเทศไทยยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน พัฒนาแนวคิดด้านความยั่งยืน และรักษาความเชื่อมั่นในการควบคุมคุณภาพ ซึ่งเป็นแกนหลักของการดำเนินงาน เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค 

 

 

สุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งโควิด ภาวะเงินเฟ้อ และสงครามระหว่างประเทศ แต่ดูเหมือนว่าปีนี้สัญญาณชีพด้านเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ที่แน่ชัดคือคนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ 

 

“เต็ดตรา แพ้ค เริ่มเห็นทิศทางที่ชัดขึ้น และผู้บริโภคก็พร้อมจะก้าวเดินต่อ จึงเป็นจังหวะเหมาะที่จะบอกให้คู่ค้าของเรารวมถึงผู้ประกอบการเดินหน้าไปพร้อมกัน เพราะหัวใจหลักของนวัตกรรมของเราคือ ส่งเสริมธุรกิจของคู่ค้าให้เขาสามารถต่อยอดธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์ หรือในบริการเชิงเทคนิค” สุภนัฐยังบอกด้วยว่า นอกจากจะเห็นทิศทางการเติบโตของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ยังมองเห็นเทรนด์และนวัตกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่มที่น่าจับตามอง

 

“เรื่องแรกคือ ‘เทรนด์สุขภาพ’ ผลิตภัณฑ์ต่อจากนี้ต้องโฟกัสเรื่องนี้เป็นหลัก ซึ่งคำว่าอาหารที่ตอบโจทย์สุขภาพยุคนี้จะมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ความต้องการของผู้บริโภคจะแตกย่อยออกไปมากขึ้น ตัวเร่งคือโควิดที่ทำให้คนตระหนักเรื่องสุขภาพและต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน จึงให้ความสำคัญกับการป้องกันมากกว่ารักษา อาหารและเครื่องดื่มเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เข้ามาตอบโจทย์ สิ่งที่กินเข้าไปต้องมั่นใจว่าดีต่อสุขภาพ” 

 

“อีกเรื่องคือ ‘เทรนด์สิ่งแวดล้อม’ ผู้บริโภคเริ่มตระหนักเรื่องนี้มากขึ้น และอยากให้ผู้ประกอบการใส่ใจหรือทำอะไรที่ทำให้เขารู้สึกว่าการที่เขาได้ซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ เขามีส่วนร่วมในการทำดีต่อสิ่งแวดล้อม” 

 

สุภนัฐมองว่า ทั้งสองเทรนด์จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอย่างแน่นอน แนะผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจผู้บริโภคให้มากขึ้น “นอกจากต้องหา Pain Point ให้เจอ อาจต้องเจาะลึกไปถึง Unmet Need ความต้องการที่ยังไม่มีใครสามารถตอบสนองได้ อย่างเทรนด์เครื่องดื่มธัญพืชที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้วยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย”  

 

 

 

เมื่อนวัตกรรมอาหารกลายเป็นเครื่องมือต่อยอดธุรกิจ เต็ดตรา แพ้ค ในฐานะที่เป็น End-to-End Provider ช่วยเหลือลูกค้าตั้งแต่การให้คำปรึกษา ร่วมกันคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทดลองตลาด ตลอดจนกระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์ จนสร้างผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์ออกสู่ตลาดถึงมือผู้บริโภค จึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่เข้าร่วมงาน ‘Innovation Starts Here’ ได้รู้จักกับ 3 แนวทางของนวัตกรรมโซลูชันจากเต็ดตรา แพ้ค ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และส่งเสริมความยั่งยืนให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่าจะสร้างความโดดเด่นและเติบโตได้ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ได้แก่ Innovate for Growth, Design for Sustainability และ Connect for the Future  

 

Innovate for Growth หรือการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อโอกาสการเติบโตทางธุรกิจให้กับคู่ค้า นำเสนอโซลูชันที่ช่วยพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย อย่าง ‘ไอศกรีม’ หลายคนอาจไม่รู้ว่าประเทศไทยส่งออกไอศกรีมมากเป็นอันดับ 4 ของโลก ปัจจุบันมีระบบการตกแต่งผลิตภัณฑ์ไอศกรีมซึ่งมอบทางเลือกในการแต่งหน้าไอศกรีมที่แตกต่างกันได้ถึง 8 รูปแบบ หรือกลุ่มของ ‘เครื่องดื่มธัญพืช’ เรามีระบบการสกัด (Tetra Pak® Extraction System) สำหรับผลิตภัณฑ์จากธัญพืชที่เหมาะกับลักษณะผลิตภัณฑ์แบบเกล็ดและธัญพืช เหมาะกับวัตถุดิบประเภทถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต ข้าว และถั่วต่างๆ ทำให้คู่ค้าสามารถผลิตเครื่องดื่มธัญพืชได้หลากหลายมากขึ้น หรือในเรื่องของ ‘บรรจุภัณฑ์’ เต็ดตรา แพ้ค มีการนำเสนอเครื่องบรรจุความเร็วสูง Tetra Pak® E3/Speed Hyper และเทคโนโลยี eBeam สำหรับการฆ่าเชื้อบนวัสดุบรรจุภัณฑ์โดยใช้ลำแสงอิเล็กตรอน ช่วยให้ลูกค้ามีต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำ ถือเป็นนวัตกรรมที่คุ้มค่าด้านราคา และยังสร้างความได้เปรียบด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น

 

“ปัจจุบัน One Solution Fits All ไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เมื่อความต้องการของผู้บริโภคหลากหลายและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น กระบวนการการผลิตจึงต้องยืดหยุ่นเพื่อช่วยคู่ค้าผลิตสินค้าที่มีความหลากหลายด้วยเช่นกัน” สุภนัฐอธิบายเสริม 

 

 

 

Design for Sustainability หรือการออกแบบเพื่อสร้างความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องของบรรจุภัณฑ์โซลูชันของเต็ดตรา แพ้ค ที่ส่งเสริมความยั่งยืนในการดำเนินการผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น บรรจุภัณฑ์ที่เป็น Bio-Based ชานอ้อย หรือการสร้างวัสดุที่เป็น Bio-Based PE เพื่อทดแทนการใช้พลาสติกที่เป็น Fossil-Based มีการนำเสนอฝารุ่นใหม่ๆ ที่ไม่สามารถแยกออกจากกล่องได้เพื่อลดปริมาณขยะ นอกจากนั้นยังนำเสนอโซลูชันอุปกรณ์ ‘Tetra Pak Processing Key Components’ เครื่องจักรที่ช่วยลดการใช้พลังงาน ลดขยะในระหว่างการผลิต ทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่เป็นตัวพลิกเกมการผลิตด้วยคุณสมบัติเด่นในการเพิ่มผลผลิตและประหยัดพลังงาน

 

Connect for the Future หรือเทคโนโลยีดิจิทัลสามารถยกระดับศักยภาพของผู้ปฏิบัติงาน โดยเน้นไปที่เรื่องของ Automation & Digitalization ชู 3 เครื่องมือที่มาช่วยเพิ่มความคล่องตัว ปรับปรุงประสิทธิภาพและกำลังการผลิต ได้แก่ ‘One Remote Support’ ระบบที่เข้าช่วยดูแลและแก้ไขปัญหาเครื่องจักรให้กับลูกค้าจากระยะไกล ต่อมาคือ ‘Asset Health Monitoring’ ระบบที่ช่วยมอนิเตอร์การทำงานของเครื่องจักรให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสุดท้ายคือ ‘Connected Workforce’ แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเชื่อมโยง เรียนรู้ และใช้ประโยชน์จากระบบอย่างง่ายดาย  

 

 

 

 

สำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่อยากเริ่มต้นนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ สุภนัฐบอกว่ามีวิธีเริ่มต้นมากมาย แต่ถ้าไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร แนะนำให้เข้ามาคุยกับเต็ดตรา แพ้ค 

 

“เราบอกเสมอว่าเราเป็น End-to-End Provider เพราะเวลาที่ลูกค้ามาคุยกับเรา เรามองความต้องการของลูกค้าเป็นเรื่องหลักของเรา เราใช้เวลาเจาะลึกเพื่อที่จะเข้าใจในทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสายการผลิต หรือฝั่งการตลาด บางครั้งก็ลงไปทำวิจัยการตลาดร่วมกันเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ในทุกกระบวนการเรามีเครื่องมือ นวัตกรรมที่จะช่วยค้นหาโซลูชันที่ดีที่สุดให้กับคู่ค้า

 

“ถ้ายังไม่อยากลงทุนใหญ่ อยากผลิตเพื่อลองตลาดก่อน เราสามารถแนะนำพาร์ตเนอร์ของเราให้เข้ามาช่วยเรื่องการผลิตได้ อยากให้มองเต็ดตรา แพ้ค เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมสำหรับภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ครบวงจร ไม่ว่าคุณจะมองเห็นโอกาสอะไร อยากได้โซลูชันแบบไหน สามารถมาคุยกันเพื่อหาทางออกร่วมกัน เราเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เรามีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สร้างความโดดเด่นและเติบโตในตลาดที่มีการแข่งขันสูง พร้อมทั้งส่งเสริมความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจไปด้วยกัน” 

 

เต็ดตรา แพ้ค เชื่อมั่นว่า ถ้าเราสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ลงลึกในการวิเคราะห์ตลาด รวมทั้งนำนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เราจะสามารถแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในอนาคตร่วมกับคู่ค้าของเราอย่างได้ผล 


ร่วมสร้างนวัตกรรมไปกับเต็ดตรา แพ้ค Innovation Starts Here ที่นี่ (ลิงก์)

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising