“WHEN YOU HAVE NOTHING TO DO JUST GO TO SLEEP คอนเซปต์คือเวลาที่เราคิดว่าเราไม่มีอะไรทำก็ไปนอนเถอะ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะนอนจริงๆ ในหัวเรายังคิดโน่นคิดนี่ตลอด ห้องนอนไม่ใช่แค่ที่ที่เรานอน แต่เป็นพื้นที่ที่เอาไว้ทำหลายอย่างได้ มันคือพื้นที่ส่วนตัว ส่วนพวกสิ่งของที่อยู่บนปกก็คือสิ่งที่อยู่ในห้องนอนหมดเลยนะ”
ออม-สรรัตน์ ลิมปะนพรัตน์ อธิบายสั้นๆ ถึงอัลบั้ม WHEN YOU HAVE NOTHING TO DO JUST GO TO SLEEP อัลบั้มล่าสุดของ TELEx TELEXs ที่ใช้เวลาทำเพลงทั้งหมดกว่าหนึ่งปี และในที่สุดก็ปล่อยออกมาแบบเต็มๆ เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยภาพรวมของอัลบั้มนี้คือ ‘ห้องนอน’ เพราะห้องนอนเป็นสถานที่ในความทรงจำที่เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ เศร้า หรือเหงา เพลงทั้ง 13 เพลงในอัลบั้มนี้ถูกเปรียบเทียบให้ออกมาเป็นสิ่งของที่อยู่ในห้องนอนที่มีความทรงจำแตกต่างกัน
“อัลบั้มนี้เราอยากได้การรวบรวมความป๊อปของทุกสมัยมาอยู่ด้วยกัน 70, 80, 90 หยิบความป๊อปที่มีอยู่ในยุคต่างๆ มารวมกัน”
ปิ้ว-กษิเดช ฤทธิ์งาม พูดถึงแนวเพลงและเล่าให้ฟังว่าด้วยความหลากหลายของแนวเพลงทั้ง 13 เพลงในอัลบั้ม ทำให้เขาได้ใช้เทคนิคใหม่ๆ ในการทำเพลงในอัลบั้มนี้ว่าในเพลง ดวงดวงดวง เขาได้ลองจังหวะแบบใหม่ที่มีความสนุก มีความสวิง มีความดนตรียุค 70 และมีโอกาสอัดกลองสดเป็นครั้งแรก ส่วนเพลง หรือฉันเองที่ขังเธอเอาไว้ในความทรงจำ ก็จะมีความดนตรียุค 2000 มีความเป็นกีตาร์แบนด์ ใช้กีตาร์เป็นตัวประกอบหลัก ส่วน กลับไป ก็จะมีความเป็นเฮาส์ มีดนตรีที่มีจังหวะที่ฟังแล้วต้องเต้น โยกตลอดเวลา และสุดท้ายที่แหวกที่สุดเลยก็คือ Home เพลงที่มีกีตาร์โปร่งเพลงแรกตั้งแต่ทำเพลงมาทั้งหมด
“ผูกพันกับเพลงไหนที่สุด จริงๆ มันก็ทุกเพลงที่รู้สึกผูกพัน เพราะเราสร้างมันมากับมือ เราเขียนด้วยใจ ทุ่มเทแรงกายแรงใจ แต่ถ้าให้เลือกเลยก็คือเพลง ดวงดวงดวง เพราะเป็นเพลงแรกที่ออกมา รู้สึกว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่สวยงาม ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ด้วย” ปิ้วเล่าถึงความผูกพันที่มีต่อเพลง ดวงดวงดวง
“คนที่ไม่เคยเจอเลยสักครั้ง คนที่เพิ่งเดินผ่านกัน หรือคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉัน จะเป็นใครได้”
เพลง ดวงดวงดวง เพลงแรกของอัลบั้มนั้นเป็นเพลงจังหวะสนุกๆ ที่ทำให้เผลอโยกตามโดยไม่รู้ตัวไปกับเรื่องราวแสนน่ารักของการดูดวงเรื่องความรัก และการเลือกสีเสื้อมงคลใส่ในทุกวันเพื่อที่จะได้เจอความรักจริงๆ เสียที เพลงนี้มีกลิ่นอายของดนตรียุค 70 และยังพิเศษกว่าเพลงอื่นตรงที่เป็นเพลงแรกตั้งแต่วงทำเพลงมาที่ใช้กลองจริงในการอัด ทำให้เกิดบรรยากาศของดนตรีสดเพิ่มมากขึ้น เมื่อประกอบด้วยเสียงกีตาร์ เบส ซินธ์ และเสียงร้องในแบบฉบับของ TELEx TELEXs นั้นทำให้เพลง ดวงดวงดวง เป็นเพลงเปิดอัลบั้มที่ดี
“จะกลับมาเจอกันอีกครั้ง หากเธอยังยืนคำเดิมที่เคยบอก ให้เธอได้รู้ว่าฉันจะตอบกลับไปว่ารักเธอ”
“เพลงที่ผูกพันที่สุดคงเป็น Friend กับ Home แต่สำหรับ Friend ตอนนั้นอยู่กัน 4 คน มันแป๊บเดียวมากเลย พออยู่ด้วยกันเพลงก็เสร็จเร็ว ทำมาด้วยกัน ทุกคนมีพลังงานบางอย่างเอามาระเบิดตู้มแล้วมันก็เสร็จเลย” นาว-คิรากร อิงควราภรณ์กุล เล่าถึงเพลงที่ผูกพันที่สุดบ้าง
Friend เป็นอีกหนึ่งเพลงจังหวะสนุกๆ ที่พูดถึงความสัมพันธ์ที่หลายคนคงเคยจะผ่านมาบ้างอย่างการแอบชอบเพื่อนสนิท แต่ไม่ได้อยากให้ความสัมพันธ์มันไปไกลมากกว่านี้ ที่เป็นอยู่แบบนี้มันดีอยู่แล้ว เพราะท้ายที่สุดแล้วทั้งคู่ก็ยังอยากมีกันและกันอยู่ในชีวิตและเป็นความทรงจำที่ดีของกันและกันตลอดไป
“แค่ได้กอดเธอนั้นก็ทำให้ฉันหายเหนื่อยล้า แค่เธอบอกรักฉันเท่านี้ก็ดีต่อหัวใจ ให้ฉันจับมือไว้ไม่ยอมให้เธอหายไปไหน เพราะว่าฝันของฉันยังอีกไกล ให้เธอคอยเติมใจให้กัน”
“เพลงที่เราฟังตั้งแต่เดโม่ครั้งแรกแล้วชอบมากคือเพลง Home เพราะเรารู้สึกว่า TELEx TELEXs ไม่ค่อยมีเนื้อหาแบบนี้ ปิ้วถ่ายทอดมุมความรู้สึกของตัวเองในการอยู่คนเดียว อยู่ไกลบ้าน ออกมาได้ดี ไกลบ้านไม่ได้หมายความว่าคุณคือเด็กต่างจังหวัดมาอยู่คนเดียว ต่อให้เราอยู่ในกรุงเทพฯ อยู่ใกล้บ้าน หรือแม้แต่อยู่ในบ้านเลยก็ตาม ก็เข้าใจเพลงนี้ได้ รู้สึกถึงเพลงนี้ได้เหมือนกัน” หลังจากตัดสินใจอยู่พักหนึ่ง ออมเลือกเพลง Home ให้เป็นเพลงที่เธอผูกพันที่สุด
เพลงที่ออมเลือกว่าเป็นเพลงที่ชอบและผูกพันที่สุดก็คือเพลงสุดท้ายของอัลบั้มอย่างเพลง Home เพลงนี้ TELEx TELEXs ได้ฉีกแนวจากเดิมออกไป จากเพลงที่เน้นใช้ซินธิไซเซอร์หนักๆ กลายเป็นเพลงที่เน้นใช้กีตาร์โปร่ง ทำให้ดนตรีมีความบางเบาเคียงข้างกันไปกับเนื้อเพลงที่อบอุ่นใจ เพียงแค่กดฟังครั้งแรกก็สัมผัสได้ถึงความรัก ความผูกพัน และทำให้คิดถึงคนที่เป็นเหมือนกับ ‘บ้าน’ ให้เรากลับไปในวันที่ท้อใจหรือเหนื่อยล้า
แล้วอะไรคือบ้านสำหรับพวกเขาสามคน ปิ้วเป็นคนแรกที่ตอบคำถามนี้ว่า “สำหรับผม บ้านคือครอบครัว พ่อแม่ เขาคอยซัพพอร์ตเราเสมอ ให้กำลังใจ แม้เราจะไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ทุกครั้งที่เรากลับไป เขาก็จะพยายามแบบว่า เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม มีคำพูดดีๆ ให้เราก้าวเดินต่อไปได้”
ส่วนนาวตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความว่า “บ้านจะเป็นครอบครัวก็ได้ เพื่อนสนิทก็ได้”
“บ้านก็คือครอบครัวเรานี่แหละ การที่อยู่ด้วยกันในครอบครัวมันมีทั้งเรื่องบวกและเรื่องลบ แต่ว่าสุดท้ายแล้วไม่ว่าอะไรก็ตามแต่ มันคือการที่เราได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัว คือการที่เราสามารถคุยกับคนในบ้านได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามแต่ สุดท้ายแล้วตั้งแต่เกิดจนทุกวันนี้ก็เป็นเขาที่อยู่กับเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่แย่ที่สุดหรือว่าเรื่องที่ดีที่สุด สุดท้ายแล้วเขาก็คือคนที่จะก้าวผ่านไปกับเราเสมอ” ออมพูดถึงคำว่าบ้านในความหมายของเธอ
การเดินทางตลอดหนึ่งปีของ TELEx TELEXs ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้หลายสิ่งผ่านเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม
“เพลงที่เราทำมาทั้งหมดหนึ่งปีก็ออกมาแล้ว ทุกคนฟังได้แล้ว ก่อนหน้านี้เราฟังเพลงของตัวเองทุกวันแล้วทบทวนว่าสิ่งที่ทำอยู่นี่มันดีหรือยัง จนวันหนึ่งมีคนได้ฟังแล้วเขาชอบเพลงเรา เรารู้สึกดีใจ” ปิ้วกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“อยู่กับอัลบั้มนี้มาตลอด ดีใจเหมือนกัน ผ่านปัญหาอะไรกันมาเยอะมาก ทะเลาะกัน ทุกครั้งที่ไปอัดเลย แต่ทะเลาะกันอีกก็ได้ถ้าวงเราจะยิ่งแน่นมากขึ้น” นาวช่วยเสริมถึงการเดินทางของพวกเขา
“วงดนตรีถ้าจะบอกว่ารักกันมาก ไม่เคยทะเลาะกันเลย โกหก (หัวเราะ) แต่ไม่ว่าจะทะเลาะอะไรกัน สุดท้ายแล้วจุดมุ่งหมายของทุกคนคืออยากให้มันเสร็จและออกมาดี ระหว่างทางมันก็มีกระทบกระทั่งกันปกติ แต่เราก็มองว่ามันแก้ได้” ออมพูดถึงการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในขณะที่ทำเพลงปิดท้ายการสัมภาษณ์
ถ้าคืนนี้คุณไม่รู้จะทำอะไร ก่อนจะล้มตัวลงนอน ลองกดฟังเพลงอัลบั้ม WHEN YOU HAVE NOTHING TO DO JUST GO TO SLEEP ของ TELEx TELEXs ให้พวกเขาอยู่เป็นเพื่อนคุณในค่ำคืนแสนเหงานี้ก็ดีเหมือนกันนะ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล