วันนี้ (30 พฤษภาคม) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความ เดินทางมายื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด ให้พิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับกรณีของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ที่เดินหน้าแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ธีรยุทธกล่าวว่า ตนเองเดินทางมาในฐานะประชาชนและร้องในนามส่วนตัว เพื่อขอให้อัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินการส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลวินิจฉัยสั่งการให้พิธาเลิกกระทำการใดเพื่อยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และให้เลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณาและสื่อความหมายโดยวิธีอื่น เพื่อให้มีการยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่กระทำอยู่ และเลิกการกระทำดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรค 2 ดังที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีแนวบรรทัดฐานไว้ในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 19/2564
ธีรยุทธกล่าวต่อไปว่า ขั้นตอนหลังจากนี้เมื่อมีผู้ร้องเสนอเรื่องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยเบื้องต้นว่าควรที่จะนำเรื่องหรือส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งตนเองได้ทำคำร้องมาแล้ว มีพยานหลักฐาน 75 แผ่น ตัวคำร้อง 8 แผ่น รวม 83 แผ่น หลังจากนี้มีระยะเวลาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้คือ 15 วัน ที่อัยการสูงสุดจะพิจารณาโดยเร็ว
หลังจากนั้นหากพิจารณาไม่แล้วเสร็จ หรือผลการพิจารณายังไม่ปรากฏชัด ก็จะเป็นสิทธิของผู้ร้องที่จะนำเสนอเรื่องนี้โดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ เมื่อนำเสนอโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จากนั้นก็จะอยู่ในขั้นตอนพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผู้ร้องไม่อาจก้าวล่วงได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าธีรยุทธเคยไปยื่นให้กับประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบพรรคก้าวไกลที่มีทั้งสมาชิกของพรรคและหัวหน้าพรรคได้ออกมาประกาศช่วงหาเสียงว่ามีนโยบายในการแก้ไขมาตรา 112 ว่ามีส่วนที่จะเข้าข่ายขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยยึดหลักคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เคยตัดสินคดีไปก่อนหน้านี้ ซึ่งกรณีที่ไปร้องไว้ที่ กกต. ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า