วันนี้ (18 มิถุนายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอัยการสูงสุดนัดนำตัวสั่งฟ้องต่อศาลในคดีมาตรา 112 ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ที่ศาลว่าทักษิณเดินทางไปรายงานตัวแล้ว ก็อยากให้ฟังทางศาล เพราะถือเป็นการเข้าสู่กระบวนการครบถ้วนทุกอย่าง ส่วนขั้นตอนหากได้ประกันตัวหรือไม่ได้ประกันตัวนั้น ภายในวันนี้ก็คงจะทราบว่าเป็นอย่างไร ถือเป็นขั้นตอนที่ปฏิบัติตามปกติอยู่แล้ว เราไม่ได้เตรียมการอะไรเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่ได้รับการประกันตัวเรื่องการพักโทษของทักษิณจะเป็นอย่างไร พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ไม่อยากให้เป็นคำถามสมมติ เพราะตามหลักการของรัฐธรรมนูญมีกฎหมายคุ้มครอง ศาลต้องให้ประกันตัวเป็นหลัก อยู่ในรัฐธรรมนูญมาตรา 29 เว้นมีเหตุที่จะหลบหนี หรือเหตุอื่น ไม่อยากให้เป็นการสมมติ เดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็น
เมื่อถามว่าสามารถเทียบเคียงกับผู้ต้องหาในคดีมาตรา 112 ที่ได้รับการประกันตัวในช่วงหลังได้หรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า จะพิจารณาเป็นรายคดีไป ซึ่งจะเห็นว่าคดีมาตรา 112 ในช่วงหลังจะได้รับการประกัน ส่วนกระบวนการประกันตัวจะเสร็จภายในวันเดียวหรือไม่นั้น ขอให้รอฟังจากศาล ไม่อยากตอบแทนองค์กรอื่น
เมื่อถามถึงกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ออกมาระบุเรื่องถุงขนม 2,000 ล้านบาทที่ฮ่องกง เพื่อให้ช่วยผู้ต้องคดีบางคน จะส่งผลกระทบต่อการให้ประกันตัวของทักษิณหรือไม่ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า ศาลได้ตั้งคณะกรรมการสดับตรับฟัง แต่โดยส่วนตัวคำพูดในลักษณะนี้ในฐานะที่ตนเคยอยู่กระบวนการยุติธรรม ผู้พูดอาจจะต้องมีความรับผิดชอบ เพราะตนเคยทำคดีเช่นนี้มาเยอะ ในกระบวนการยุติธรรมสิ่งที่เขาอยู่กันได้คือเกียรติยศ ความซื่อสัตย์สุจริต และปกติการจะพูดข้อเท็จจริงอะไรต้องมีพยานหลักฐาน เพราะเกี่ยวข้องกับหลายองค์กร ขอยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมทุกคนต้องทำตามกฎหมาย ก็คงต้องดูกันต่อไป
‘สมศักดิ์’ ไม่กังวลคดี ‘ทักษิณ-นายกฯ’ มองเป็นเรื่องปกติ
ด้าน สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุดนัดฟังคำสั่งฟ้องคดี 112 ของทักษิณ ว่าไม่ได้มีความวิตกกังวลใดๆ เพราะขณะนี้บ้านเมืองเข้าสู่โหมดปรองดอง และเหตุผลที่ถูกดำเนินคดีมันเกิดจากรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทุกอย่างคลี่คลายปกติ ดูแล้วก็ไม่ได้เห็นทักษิณวิตกกังวลอะไร พร้อมย้ำว่าทักษิณไม่ได้อยู่ในรัฐบาลก็คงไม่มีผลกระทบอะไร
สมศักดิ์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เสียงรัฐบาลอยู่ที่ 314 เสียง จาก 500 เสียง ซึ่ง สส. ก็เป็นส่วนที่สนับสนุนรัฐบาลอยู่แล้ว จึงไม่เห็นมีอะไรที่ทำให้ต้องมาวิเคราะห์ เช่นเดียวกับคดีของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้เข้าใจว่าเป็นเรื่องของการยื่นเอกสารชี้แจงเพิ่มเติม รัฐบาลยังไปได้ ยังไม่มีการพิจารณา ส่วนในระยะยาวค่อยว่ากันอีกที
“การเมืองก็เป็นลักษณะนี้อยู่ตลอด เกิดจากสื่อทำให้ตื่นเต้น ถือเป็นความสามารถของผู้นำเสนอให้เกิดความตื่นเต้นและติดตามดู ก็ทำให้ดูสนุก หากคนมาดูใหม่ๆ ก็อาจจะเกิดความเครียด แต่หลังจากนั้นก็จะเคยชิน ก็เป็นแบบนั้นมาตลอด เจอมาแบบนั้นตลอด” สมศักดิ์กล่าว
ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่าถ้าพรรคก้าวไกลถูกยุบเป็นการถูกรังแก และทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้คะแนนเสียงมากกว่าเดิม สมศักดิ์กล่าวว่ามันก็มีประวัติศาสตร์ให้เห็นอยู่หลายครั้ง ตนก็เคยถูกยุบพรรคมา 2 ครั้ง และถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง เห็นและเคยชินกับสิ่งเหล่านี้ อย่าไปตื่นเต้นอะไร ขอทำงานให้เต็มที่กับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในการดูแลประชาชน
