วันนี้ (11 มีนาคม) พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงข้อเรียกร้องให้กรมราชทัณฑ์เปิดเผยกล้องวงจรปิดภายในเรือนจำคลองเปรมในช่วงเวลาที่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ เสียชีวิตฉบับเต็ม มาให้สาธารณชนรับทราบว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนทั้งหมดนำเซิร์ฟเวอร์ไปตรวจสอบแล้ว เนื่องจากเป็นการตายไม่ธรรมชาติ
หากสื่อมวลชนมีความสงสัยก็ให้กรมราชทัณฑ์เปิดให้ดูทุกแง่มุม และสั่งให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ไปตรวจสอบข้อมูล ให้ความเป็นธรรมและกระจ่างโดยเร็ว ส่วนกรอบเวลาที่ชัดเจนจะต้องรอผลชันสูตรพลิกศพในเรื่องการตาย และสาเหตุการเสียชีวิตว่ามีการทรมานหรือไม่
ส่วนข้อมูลที่คลาดเคลื่อนทุกวัน พ.ต.อ. ทวี ยืนยันว่า ไม่เคยคิดปกป้องใคร อยากช่วยตรวจสอบทำความจริงให้ปรากฏ เพราะเรามีความคิดที่จะปฏิรูปราชทัณฑ์อยู่แล้ว โดยเฉพาะเรือนจำคลองเปรมที่มีผู้ต้องหามากที่สุดกว่า 6,000 คน
พ.ต.อ. ทวี ยังกล่าวถึงการสั่งย้าย ผบ.เรือนจำว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องดูเพราะเขาก็เพิ่งมา ซึ่งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ได้รวบรวมข้อเท็จจริง วันนี้ก็จะไปสอบปากคำต่างๆ และจะมีการประชุม โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงยุติธรรมไปดูแลความเรียบร้อย ยืนยันว่าจะทำเต็มที่สื่อมวลชนก็สามารถตรวจสอบได้เลย
ส่วนกรณีที่วันนี้หัวหน้าพรรคประชาชนจะเดินทางไปตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย พ.ต.อ. ทวี ระบุว่า ได้ชวนตนมา แต่ติดประชุมแต่ถ้ามีเวลาจะเข้าไปดู
พ.ต.อ. ทวี ยังกล่าวถึงข้อสงสัยเรื่องของผ้าขนหนูที่ผู้กำกับโจ้ใช้ มีความแตกต่างจากผู้ต้องหาคนอื่นว่า กรมราชทัณฑ์แจกผ้าขนหนูคนละ 1 ผืน ซึ่งเป็นของหลวงไม่ใช่ของผู้ต้องขัง กิน นอน อยู่ หลวงซื้อให้ ยืนยันว่าเราซื้อผ้าขนหนูของผู้ต้องขังชาย 1 ขนาด หญิง 1 ขนาด ที่ทุกเรือนจำเหมือนกัน พร้อมชี้แจงว่าขนาดของผ้าขนหนูคือ 30-40 นิ้ว ไม่ใช่เซนติเมตรอย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ ส่วนที่มีคนเคยติดคุกออกมาให้ความเห็นว่าผ้าขนหนูเป็นคนละขนาดก็ต้องไปดูสมัยนั้นเพราะนี่คือสมัยนี้
ขณะที่ดราม่าเรื่องการให้สัมภาษณ์ถึงประเด็น LGBTQIA+ ทำไมต้องใช้ผ้าอนามัย พ.ต.อ. ทวี ระบุว่า เมื่อวานคลาดเคลื่อน เพราะในเรือนจำมี LGBTQIA+ ประมาณ 88 คน แปลงเพศแล้ว 18 คน ได้ยินเสียงไม่ชัดแต่เจตนาคือ มีพยานใกล้ชิดที่เกิดเหตุและมุ่งแต่พาญาติไปดูชันสูตรพลิกศพ ซึ่งตนเห็นเป็นผู้หญิงเลยเข้าใจไปแบบนั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ต้องกระจ่าง เพราะเรือนจำไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร คนที่เข้าเรือนจำเราต้องดูแล ต้องเป็นสถานที่ฟื้นฟูไม่ได้มาทรมานใคร
เมื่อถามว่าต้องเข้มงวดเรื่องระเบียบในห้องขังมากขึ้นหรือไม่ เนื่องจากต้นเหตุของกรณีผู้กำกับโจ้มาจากการนำยาเส้นเข้าเรือนจำ พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังเป็นคำกล่าวอ้าง ต้องรอให้ตรวจสอบรายละเอียดก่อน ทั้งเรื่องการตายและสาเหตุที่ทำให้เขาตาย ถ้าเขาตายเพราะฆ่าตัวตาย รวมถึงต้องดูว่ามีการปฏิบัติผิดระเบียบของกรมราชทัณฑ์ที่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งสั่งการให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์รับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการราชทัณฑ์ที่มีจำนวน 19 คน ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงาน เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ศาลยุติธรรม และตำรวจ โดยให้ใช้กรณีของเรือนจำคลองเปรมเป็นต้นแบบว่ายังมีข้อบกพร่องอะไรบ้าง
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าในตอนแรกทางเรือนจำคลองเปรมไม่อนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบตามที่อดีตผู้กำกับโจ้ถูกทำร้ายร่างกายนั้น พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่าอยากให้รับฟังคณะกรรมการมากกว่า ซึ่งราชทัณฑ์มีระเบียบการจะเข้าไปข้างในต้องขออนุญาตจาก ผบ.เรือนจำ การเข้าไปสอบสวนก็จะมีระเบียบอยู่
ส่วนจะทำอย่างไรกับคำกล่าวว่า ‘ผู้คุมเรือนจำใหญ่กว่ากฎหมาย ใหญ่กว่าอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และใหญ่กว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม’ พ.ต.อ. ทวีกล่าวว่า วันนี้ไม่มีใครใหญ่กว่ากฎหมาย เราจะต้องใช้หลักกฎหมายหลักนิติธรรม ตอนนี้พยายามจะทำทุกเรื่องรวมถึงเรื่องในเรือนจำ ใครบกพร่องจะต้องถูกดำเนินการ แต่จะต้องไม่เอาความรู้สึกไปตัดสิน จะต้องรอผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการ
