ย้อนกลับไปวันที่ 8 มิถุนายน 2024 ในศึก ONE 167 ตะวันฉาย ที่ลงป้องกันแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ครั้งที่ 3 กับ โจ ณัฐวุฒิ บนสังเวียนอิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
ท่ามกลางการต่อสู้อันดุเดือดเร้าใจ ไฟต์ดังกล่าวจบลงที่ตะวันฉายเป็นฝ่ายรักษาแชมป์จากการเอาชนะคะแนนเสียงข้างมากเหนือโจ ณัฐวุฒิ หลังชกครบ 5 ยก และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของคำครหา และข้อกังขาจากมุมมองของแฟนมวยบางส่วนที่ถาโถมเข้าใส่ หรือพูดง่ายๆ คือเขาถูกมองว่าไม่สมควรได้เป็นผู้ชนะในไฟต์นี้
ผลจากคำครหาในวันนั้นกลายเป็นรอยแผลที่ติดอยู่ในใจของตะวันฉาย เขาต้องแบกรับเสียงจากแฟนมวยที่ไม่เชื่อมั่นในตัวเขา
จากดราม่านี้ทำให้ ‘บอสชาตรี’ ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประกาศจัดไฟต์ ตะวันฉาย vs. โจ ณัฐวุฒิ เป็นภาค 3 แบบทันควัน ในศึก ONE 169
แต่อย่างที่ทุกคนทราบกันดี รายการดังกล่าวถูกโยกสถานที่จากสหรัฐอเมริกามาจัดที่ลุมพินีของไทย พร้อมประกาศยกเลิกไฟต์ ตะวันฉาย-โจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตะวันฉายยังมีอาการบาดเจ็บ และผู้ท้าชิงอย่างโจเพิ่งแพ้น็อกให้ ซุปเปอร์บอน ในศึก ONE ลุมพินี 81
ด้วยเหตุนี้ ซุปเปอร์บอนที่กำลังคืนฟอร์มหมายมั่นจะล้างตากับตะวันฉาย จึงได้โอกาสครั้งสำคัญจากบอสชาตรีคือไฟต์ชิงแชมป์กับ ‘ซ้ายดารา’ ในศึก ONE 170 รับศักราช 2025
ส่วนตะวันฉายนาทีนี้ ‘ยังไงก็ได้’ การป้องกันแชมป์เป็นหน้าที่ของเจ้าของแชมป์ที่ต้องทำ…เรื่องนี้เขารู้ดี แต่มากกว่านั้นคือการลงไปปกป้องศักดิ์ศรีและต่อสู้เพื่อสยบข้อกังขาเกี่ยวกับตัวเขาในสายตาแฟนมวยที่ยังมองว่า เขาไม่ดีพอจะเป็นแชมป์
ก่อนไฟต์นี้ ไม่ต้องบอกก็พอมองเห็นว่าตะวันฉายจริงจังมากแค่ไหนกับการเก็บตัวซุ่มฝึกซ้อมทันทีที่สลัดอาการบาดเจ็บออกไปได้
มาถึงวันขึ้นชก สีหน้าและแววตาของตะวันฉายเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น เดินเข้าเวทีด้วยความสุขุม แต่ยังผสมด้วยความอึดอัดติดพันอยู่ในใจเล็กน้อย และแน่นอนว่า เขารู้ดีว่าการชนะด้วยฟอร์มที่ดีที่สุดจะลบทุกคำสบประมาทได้
ตะวันฉายกับซุปเปอร์บอนหยั่งเชิงกันไปมาในยกแรก นี่คือคู่มวยทันกันสุดๆ แต่ฝั่งเจ้าของแชมป์แอบเป็นรองในเรื่องการออกอาวุธเพียงเล็กน้อย
แต่นั่นไม่ได้ทำให้ตะวันฉายตื่นสนาม ช่วงพักยกเขานั่งฟังโค้ชบรีฟแผนด้วยความตั้งใจ
จุดเปลี่ยนหรือจุดจบของไฟต์อยู่ที่ยก 2 เมื่อตะวันฉายอ่านเกมดักทางอาวุธของซุปเปอร์บอน ก่อนสบโอกาสจัดหมัดซ้าย-ขวาเข้าหน้าผู้ท้าชิงอย่างจัง
แม้ซุปเปอร์บอนจะพยายามตั้งสติกลับสู่เกมเพื่อหนีความปราชัยจากการถูกนับครั้งแรก แต่ตะวันฉายที่ตอนนี้กลายเป็น ‘เสือ’ ที่กำลังเห็นกวางน้อยมีอาการโรยราก็ไม่รอช้า โผเดินเข้ารัวหมัดเร่งปิดเกม ประหนึ่งเสือที่พุ่งเข้าตะครุบเหยื่อด้วยความรวดเร็ว
และผลทุกอย่างก็ปรากฏทันที เมื่อ โอลิเวียร์ คอสต์ เข้ามายุติการชก
ตะวันฉายเป็นฝ่าย ‘ย้ำแค้น’ ซุปเปอร์บอน และป้องกันแชมป์โลกมวยไทยเอาไว้ได้เป็นครั้งที่ 4 ท่ามกลางรอยยิ้มปนความสบายใจเสมือนคนที่เพิ่งยกภูเขาออกจากอกได้สำเร็จ
“วันนี้มันเป็นรางวัลชิ้นใหญ่มากครับ เหมือนผมได้ปลดล็อก เพราะไฟต์ที่แล้วผมก็เสียใจ เราทุ่มเทเต็มที่เพื่อให้ทุกคนได้ดู แต่วันนี้ทำสำเร็จแล้วก็รู้สึกโล่งใจที่ยังรักษาแชมป์ไว้ได้เหมือนเดิม”
ตะวันฉายตอบคำถามของโฆษกบนเวทีด้วยน้ำเสียงดีใจเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อลบคำครหาที่เป็นเหมือนชนักติดหลังเขาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา
ผลงานชิ้นโบแดงของตะวันฉายครั้งนี้ เสมือนการตะโกนบอกให้โลก (และคนที่เคยสบประมาทฝีมือเขาไว้) ได้รู้ว่า นาทีนี้เขาคือราชามวยไทยรุ่นเฟเธอร์เวต เขาคือคนที่พร้อมทุ่มเวลาฝึกซ้อม แสดงความเป็นมืออาชีพได้เสมอเมื่อต้องขึ้นสังเวียน
ถึงตอนนี้ตะวันฉายไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว โดยเฉพาะในฝั่งของมวยไทย ซึ่งเขารู้ดีว่าไฟต์นี้เติมเต็มความฝันของเขาที่สุดจากการชนะผู้ท้าชิงเบอร์ 1 ของรุ่น
แต่เป้าหมายของเขาตอนนี้ไม่อยู่กับแค่มวยไทยแล้วสิ
ตะวันฉายผู้เคยชิมลางในคิกบ็อกซิ่งมา 2 ครั้ง และชนะรวด 2 ครั้ง ประกาศกร้าวต่อแฟนมวยในอิมแพ็ค อารีน่า ว่า ตัวเขาพร้อมออกไล่ล่าแชมป์คิกบ็อกซิ่งมาเติมเต็มไหล่ข้างซ้ายที่ยังมีที่พอสำหรับ ‘แชมป์’ อีกเส้นหนึ่ง
ส่วนเป้าหมายจะเป็นซุปเปอร์บอน (ภาค 3) หรือขยับไปท้าชนกับใครอีก ไว้เรามารอลุ้นกันครับ
