×

จัดพอร์ตอย่างมีเป้าหมายท่ามกลางความผันผวนในโลกการลงทุนด้วย SimpleInvest

26.08.2023
  • LOADING...
SimpleInvest

เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของสหรัฐฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 5.25-5.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี และเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 11 นับตั้งแต่สหรัฐฯ เริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอเงินเฟ้อในเดือนมีนาคม ปี 2022 

 

โดยภายหลังการประชุม เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังมีการส่งสัญญาณถึงโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมของการประชุมครั้งหน้า โดยระบุว่า Fed จะพิจารณาข้อมูลทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราเงินเฟ้อ เพื่อประกอบการตัดสินใจ

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ ได้เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกรกฎาคม ว่าอยู่ที่ระดับ 3.2% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.3% ซึ่งสะท้อนว่า ผลกระทบของเงินเฟ้อต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มอ่อนตัวลงในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน ก็อยู่ในระดับที่ 4.7% ต่ำกว่าประมาณการที่ 4.8% เช่นกัน

 

แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวอาจทำให้ Fed ชะลอการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุมเดือนกันยายน แต่ CME FedWatch Tool ก็ยังให้โอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยต่อของ Fed ในปีนี้ไว้ที่ราว 30% และยังเชื่อว่าการปรับลดดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะยังไม่เกิดขึ้นในปีนี้

 

UOB มีมุมมองว่า แม้ Fed จะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่โมเมนตัมในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มอ่อนแรงลง และเริ่มเผชิญกับความท้าทายที่มากขึ้น เพราะการคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงต่อเนื่องเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น (Higher for Longer) จะส่งผลให้ภาระต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวต่ำลง

 

ขณะเดียวกันเมื่อมองไปข้างหน้าก็ยังมีปัจจัยทางเศรษฐกิจใหญ่ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ประกอบด้วย 

 

  1. อัตราเงินเฟ้อของประเทศเศรษฐกิจหลัก ซึ่งแม้ว่าจะปรับตัวลดลงแล้ว แต่ยังอยู่ในระดับสูง และมีราคาสินค้าบางกลุ่ม โดยเฉพาะภาคบริการ ที่ปรับตัวลงค่อนข้างช้า ซึ่งเป็นปัจจัยที่ยังต้องติดตามว่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ตามคาดหรือไม่
  2. ความสอดคล้องระหว่างการดำเนินนโยบายทางการเงินของ Fed ที่ต้องสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมอัตราเงินเฟ้อและการบริหารความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย
  3. จับตาดูผลจาก Credit Conditions ที่เข้มงวดมากขึ้น ว่าจะส่งผ่านไปยัง Real Sector มากน้อยแค่ไหน ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนลงได้อีก (Earnings Recession)
  4. ทิศทางของราคาพลังงาน โดยล่าสุด ณ วันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนต์ทะเลเหนือได้ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 84.40 และ 87.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามลำดับ หลังสต๊อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ปรับลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2015 ผนวกกับแรงหนุนจากการที่ซาอุดีอาระเบียขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน ขณะที่รัสเซียจะปรับลดการส่งออกน้ำมันในเดือนดังกล่าวเช่นกัน

 

แนะบริหารความเสี่ยงด้วย SimpleInvest  

 

ด้วยเงินเฟ้อที่ปรับลดลงช้าและตลาดแรงงานยังตึงตัว ทิศทางอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะยังอยู่ในระดับสูงไปตลอดทั้งปีนี้ (มากกว่า 5%) ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ 

 

ภายใต้ภาวะดังกล่าว UOB Privilege Banking แนะนำให้นักลงทุนบริหารความเสี่ยงด้วยกองทุน SimpleInvest ซึ่งมีการจัดพอร์ตอย่างมีเป้าหมาย เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกกองทุนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การลงทุนและระดับความเสี่ยงของลูกค้า โดยมี 4 เป้าหมาย ดังนี้

 

 

สำหรับเป้าหมายสภาพคล่อง แนะนำกองทุนเปิด ไทย แคช แมเนจเม้นท์ (TCMF) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาสภาพคล่องให้ใกล้เคียงกับเงินสด พร้อมรับผลตอบแทนเทียบกับเงินฝากระยะสั้น เน้นการลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ระยะสั้น ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และ/หรือ ภาคเอกชน 

 

หรือหากมองหาการลงทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝาก แนะนำกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ควอลิตี้ อินคัมฟันด์ (UQI) เป็นกองทุน Feeder Fund โดยลงทุนในหน่วยลงทุนต่างประเทศที่ชื่อว่า United SGD Fund – Class T USD Acc เพียงกองทุนเดียว ซึ่งมีการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ภูมิภาคเอเชีย เป็นหลัก และเป็นตราสารระดับ Investment Grade Credit ทั้งหมด

 

 

ขยับขึ้นมาอีกระดับสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง แนะนำกองทุนผสมที่ชื่อว่า กองทุนเปิด ยูไนเต็ด อินคัม ฟันด์ (UIFT)  เป็นกองทุน Feeder Fund ลงทุนในกองทุนหลัก United Income Fund – Class T USD Acc 

 

 

และสุดท้ายสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและลงทุนระยะยาวขึ้นได้ มุ่งหวังการเติบโตของเงินทุนระยะยาว แนะนำกองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกรท ฟันด์ (UGFT) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ United Growth Fund – Class T USD Acc (กองทุนหลัก) เพียงกองทุนเดียว โดยมุ่งหวังผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ โดยมีนโยบายการลงทุนหลักในกองทุนรวม, หุ้น, ETF และ REITs ทั่วโลก โดยจะลงทุนในหุ้น 80% และตราสารหนี้ 20% รวมทั้งมีความยืดหยุ่นเพิ่ม-ลดน้ำหนักการลงทุนได้ 20%+- ให้เหมาะกับภาวะตลาด

 

ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อที่ปรึกษาทางการเงิน (Client Advisor) ของ UOB Privilege Banking ได้ที่ โทร. 0 2081 0999 หรือคลิก www.uob.co.th/privilegebanking  

 

อ้างอิง:

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising