ชิวกั๋วเจิ้ง (Chiu Kuo-cheng) รัฐมนตรีกลาโหมไต้หวัน เปิดเผยในวันนี้ (4 พฤษภาคม) ว่าการส่งมอบเครื่องบิน F-16V จำนวน 66 ลำจากสหรัฐอเมริกาเกิดความล่าช้า เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก ซึ่งทางกระทรวงฯ กำลังเร่งหาแนวทางเพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 สหรัฐฯ ได้อนุมัติการขายเครื่องบิน F-16V รุ่นใหม่จากบริษัท Lockheed Martin ให้กับไต้หวัน ซึ่งจะส่งผลให้ฝูงบิน F-16 ของไต้หวันมีเครื่องบินประจำการกว่า 200 ลำ หรือมากที่สุดในเอเชีย เพื่อเป็นการเสริมการป้องปรามท่ามกลางภัยคุกคามจากจีนที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค
สำนักข่าว Reuters ระบุว่า ไต้หวันเปลี่ยนจากที่ใช้เครื่องบิน F-16A/B จำนวน 141 ลำเป็นเครื่องบิน F-16V แทน และได้สั่งซื้อเครื่องบิน F-16V รุ่นใหม่เพิ่มอีก 66 ลำ ซึ่งมีระบบการบิน อาวุธ และเรดาร์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ เพื่อให้สามารถรับมือกับการเผชิญหน้ากองทัพอากาศจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเครื่องบินเจ็ตขับไล่ล่องหนสุดล้ำอย่าง J-20 ของจีน
กระทรวงฯ ระบุว่า เดิมทีเครื่องบิน F-16V ล็อตแรกมีกำหนดส่งมอบให้กับไต้หวันในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ และกลับกลายเป็นว่าการส่งมอบจะล่าช้าออกไปถึงไตรมาส 3 ปี 2024 เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงักในช่วงที่โควิดระบาดหนักก่อนหน้านี้
ชิวกั๋วเจิ้งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่รัฐสภาว่า ไต้หวันได้ขอให้สหรัฐฯ ทำการชดเชยข้อบกพร่องนี้แล้ว รวมถึงขอให้สหรัฐฯ เร่งจัดส่งชิ้นส่วนอะไหล่สำรองให้กับฝูงบินที่ไต้หวันมีอยู่ในปัจจุบันก่อน โดยคาดว่าการจัดส่งเครื่องบินเต็มล็อตทั้ง 66 ลำจะแล้วเสร็จก่อนปี 2026
นับตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ไต้หวันเคยได้ออกมาแสดงความไม่พอใจอยู่หลายครั้งที่สหรัฐฯ จัดส่งอาวุธให้ล่าช้า เช่นกรณีของระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน Stinger เนื่องจากบรรดาผู้ผลิตได้หันไปเร่งจัดส่งอาวุธให้ยูเครนก่อน จากสถานการณ์ที่เร่งด่วนกว่าในการทำศึกกับรัสเซีย ซึ่งเป็นประเด็นที่สร้างความกังวลให้กับสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯ อยู่ไม่น้อย โดย ไมเคิล แมคคอล (Michael McCaul) ประธานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ กล่าวระหว่างการเยือนไทเปเมื่อเดือนที่แล้วว่า เขากำลังทำทุกวิถีทางเพื่อเร่งการส่งมอบอาวุธให้กับไต้หวัน
แฟ้มภาพ: Ceng Shou Yi / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง:
