เรียกว่ามาถูกที่ถูกเวลาสำหรับละครเรื่อง ใต้หล้า ที่เนื้อหาว่าด้วยเรื่องการต่อสู้ของลูกผู้ชายทั้งในแง่ชนชั้น การดิ้นรนสร้างเนื้อสร้างตัว และความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี ช่วยชุบชูหัวใจคนดูให้อยากลุกขึ้นมาสู้ต่อในยุคที่เศรษฐกิจตกสะเก็ดแบบนี้ ในขณะที่ก็มีดราม่าเบาๆ ถึงกลิ่นอายแรงบันดาลใจจากซีรีส์เกาหลี Itaewon Class ถึงขนาดมีคนแซะว่าเป็นการรีเมกในเวอร์ชันไทย

ตามความคิดเห็นของผู้เขียน ประเด็นเรื่องความแค้น การต่อสู้ระหว่างชนชั้น และการดิ้นรนพิสูจน์ตัวเองในแบบลูกผู้ชาย ค่อนข้างจะเป็น Universal Plot อยู่พอสมควร เพราะมีแนวโน้มที่เราจะเอาใจเชียร์ตัวละครอันเดอร์ด็อกอยู่แล้ว เนื้อหาแบบนี้จึงมักจะถูกใจคนดู อย่างที่เราได้ดูในละครไทยหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็น เพื่อเธอ และ ลูกผู้ชายหัวใจไม่แพ้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าปมหลายๆ อย่างของ ใต้หล้า มีกลิ่นอายของ Itaewon Class อยู่เหมือนกัน ทั้งเรื่องการที่พ่อแม่รถคว่ำตาย (ใน Itaewon Class พ่อถูกรถชนตาย), มิตรภาพที่เกิดขึ้นในคุกจนกลายเป็นการเกื้อกูลกันเมื่อพ้นโทษ, ภาวะกระอักกระอ่วนเมื่อคนที่รักต้องไปอยู่ฝ่ายศัตรู (Itaewon Class คือแฟนเก่า ใต้หล้า คือพี่สาว) หรือแม้แต่ฉากการต่อสู้ที่ทำให้พระเอกต้องติดคุก ก็เกิดขึ้นท่ามกลางสายฝนเหมือนกัน รวมทั้งคาแร็กเตอร์ของ เปี่ยมยศ เจ้าของธุรกิจเถากุหลาบที่ทำให้นึกถึงประธานชางกา (และทรงผมของใต้หล้าตอนออกจากคุกก็ทำให้คิดถึงทรงหัวเกาลัดของ พัคแซรอย อยู่เบาๆ) อย่างไรก็ดีแม้จุดเริ่มต้นและเค้าโครงจะมีความคล้ายกัน แต่เรื่องราวเดินทางมาได้สักระยะ ใต้หล้า ก็ใส่ความดราม่าแบบละครไทย กลายเป็นละครที่ดูสนุกทีเดียว 

 ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร

ใต้หล้า เป็นเรื่องราวของ ใต้หล้า (ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร) และ ฟ้ารุ่ง (เบญ-เรวิญานันท์ ทาเกิด) สองพี่น้องที่ชีวิตต้องพลิกผันเมื่อพ่อแม่ประสบอุบัติเหตุจากฝีมือของ หิรัญ (ไบร์ท-นรภัทร วิไลพันธุ์) ทายาทของ เปี่ยมยศ (ดอม เหตระกูล) เจ้าของอาณาจักรธุรกิจเถากุหลาบ เขาใช้เงินและอำนาจทำให้ลูกชายพ้นผิด และในช่วงที่ชีวิตตกต่ำ ใต้หล้าก็ได้พบรักกับ อากาศ (เพลงขวัญ-นัตยา ทองเสน) ลูกนอกสมรสของเปี่ยมยศ 

ขณะที่ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ใต้หล้าต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ จนเมื่อพ้นโทษทุกอย่างก็เปลี่ยนไป อากาศต้องไปอยู่ภายใต้การดูแลของพ่อ ทำให้ใต้หล้าพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยอากาศ และทวงคืนความยุติธรรมให้กับครอบครัว 

สิ่งแรกที่ต้องชมก็คือการดำเนินเรื่องที่กระชับฉับไวและการดีไซน์ตัวละครที่มีมิติ เริ่มตั้งแต่ตัวละครใต้หล้าที่มากความมุทะลุดุดัน มีลูกบ้าเยอะ แต่ก็เป็นคนรักครอบครัว ยิ่งได้คุณภาพการแสดงของต่อ ธนภพเข้าไป ยิ่งทำให้ตัวละครตัวนี้มีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ต้องชื่นชมทั้งการแสดงออกทางสีหน้า ท่าทางก็เหมือนออกมาจากความคิดของตัวละครมากกว่าการแสดงโอเวอร์แบบละครไทย

ในขณะที่ตัวละครหิรัญคู่ปรับของใต้หล้าก็ทำให้คนดูทั้งเกลียดทั้งสงสาร เพราะพื้นฐานการกระทำเกิดขึ้นมาจากการเลี้ยงดูแบบผิดๆ ทำให้ต้องทำเรื่องแย่ๆ เพื่อเป็นการประชดประชัน และบางครั้งก็แสดงความอ่อนไหวผ่านทางสีหน้าแววตา ซึ่งไบร์ท นรภัทรก็ทำออกมาได้ดี ส่วนอีกตัวละครที่ชอบก็คือฟ้ารุ่งของเบญ เรวิญานันท์ เป็นตัวละครสีเทาๆ ที่เหมือนสับสนในตัวเอง ทั้งรักครอบครัวและก็มีความเห็นแก่ตัวรวมอยู่ด้วย ทำให้เป็นตัวละครที่มีมิติ และน่าจะนำไปสู่เรื่องราวอีกมากมายต่อจากนี้

ขณะที่ Itaewon Class ใส่เรื่องราวการทำธุรกิจผสมเข้ากับความรักโรแมนติก แต่ ใต้หล้า กลับเพิ่มเรื่องรักต้องห้ามและประเด็นครอบครัวเข้ามาให้ได้อรรถรสแบบละครไทย ทั้งเรื่องของอากาศที่ตกอยู่ในสถานะลูกเมียน้อยของพ่อที่มีแนวคิดปิตาธิปไตยเต็มรูปแบบ (และที่ชอบมากคือนางเอกของเรื่องนี้ไม่งี่เง่า) การถูกบังคับให้แต่งงาน ซึ่งในบทเองก็รู้ว่ามันคลิเช (จำเจ) อย่างที่ตัวละครหิรัญบอกว่า สมัยนี้ยังมีคลุมถุงชนอยู่อีกหรือ แม่ของเขาก็ตอบว่า มันเรียกว่าคลุมถุงผลประโยชน์ เรื่องนี้คือเรื่องจริงที่ยังมีให้เห็นในยุคปัจจุบัน 

แต่เพราะการใส่เสน่ห์แบบละครไทย ทำให้ผู้เขียนรู้สึกเสียดายที่เนื้อหามองข้ามรายละเอียดเกี่ยวกับการทำธุรกิจ จนดูเหมือนความสำเร็จของใต้หล้าได้มาอย่างไม่ยากเย็น ทั้งๆ ที่โครงเรื่องสามารถใส่เกร็ดเรื่องราวต่างๆ เข้าไปได้อย่างกลมกล่อมและมีประโยชน์สำหรับคนดู ซึ่งก็เชื่อว่าตอนต่อจากนี้ไปก็คงมีอุปสรรคต่างๆ เข้ามาในเส้นเรื่อง แต่ถ้าหากมันมาจากแค่การกลั่นแกล้งของฝั่งตรงข้ามก็ดูจะเมโลดราม่าไปสักหน่อย

ส่วนในแง่ของโปรดักชัน มุมกล้อง และฉากแอ็กชันต่างๆ ก็ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจ จะติดนิดหนึ่งก็เรื่องดวงไฟที่ปรากฏในหลายๆ ซีน ไม่แน่ใจว่าทางผู้ผลิตตั้งใจให้เห็นหรือไม่ แต่สำหรับผู้เขียนแล้วรู้สึกว่ามันขัดตาอยู่เหมือนกัน

โดยสรุปแล้ว ใต้หล้า เป็นละครที่ดูเพลิน ดูสนุก อาจจะเผลอติดเอาง่ายๆ ถ้าได้ลองเปิดใจดู ใต้หล้า ออกอากาศทุกวันพุธและวันพฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่อง one31 และสามารถชมย้อนหลังได้ในแอป oneD