ซิดนีย์พบผู้ติดโควิดเพิ่มสูงหลังล็อกดาวน์ ทั่วประเทศติดเชื้อเดลตาแล้วอย่างน้อย 489 ราย

วันนี้ (10 กรกฎาคม) หลังทางการนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียสั่งล็อกดาวน์ซิดนีย์อีกครั้งนาน 3 สัปดาห์ ซิดนีย์ยังคงตรวจพบผู้ป่วยโควิดเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พบผู้ติดเชื้อเดลตา (B.1.617.2) ทั่วประเทศแล้วอย่างน้อย 489 ราย และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขออสเตรเลียเผย เบื้องต้นยังไม่มีรายงานพบผู้ที่มีประวัติเข้ารับวัคซีนครบแล้วทั้ง 2 โดสเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ยังไม่เคยเข้ารับวัคซีนโควิดแม้แต่โดสเดียว ทางการคาดว่าอาจมีความจำเป็นจะต้องขยายระยะเวลาล็อกดาวน์ออกไปอีก หากวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ สถานการณ์โดยรวมภายในเมืองยังคงน่าเป็นห่วง

ล่าสุดออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อสะสม 31,015 ราย 2 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในรัฐวิกตอเรีย ขณะที่นิวเซาท์เวลส์มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของออสเตรเลีย (6,109 ราย) ตามมาด้วยรัฐควีนส์แลนด์ (1,732 ราย) เสียชีวิตแล้ว 910 ราย ทางการเดินหน้าฉีดวัคซีนโควิดไปแล้ว 8,706,799 โดส พลเมืองราว 2.1 ล้านราย หรือคิดเป็น 8.2% เข้ารับวัคซีนครบโดสแล้ว

โดยภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ พลเมืองในซิดนีย์จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกที่พักอาศัยหากไม่มีเหตุจำเป็น ยกเว้นการเดินทางไปซื้ออาหาร ยารักษาโรค หรือพบแพทย์ โดยจำกัดให้บ้านละ 1 รายเท่านั้น ตั้งแต่ 17.00 น. ของวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา การออกกำลังกายนอกบ้านจะสามารถทำได้กลุ่มละไม่เกิน 2 ราย และไม่ออกจากบริเวณพื้นที่บ้านเกิน 10 กิโลเมตร ให้ใช้การ Work form Home งดจัดการแต่งงาน และตั้งแต่ 11 กรกฎาคมเป็นต้นไป ไม่อนุญาตให้เข้าร่วมพื้นที่จัดงานศพเกิน 10 ราย

บทความที่เกี่ยวข้อง: