ความกังวลเรื่องความมั่นคงทางอาหารถือเป็นประเด็นหนึ่งที่นานาชาติให้ความสำคัญ ท่ามกลางยอดประชากรโลกที่คาดการณ์ว่าจะแตะ 9,600 ล้านคน ภายในเวลาอีก 33 ปี
ตัวเลขประมาณไว้อีกว่า ประชากร 2 ใน 3 จากทั้งหมดจะอาศัยอยู่ในเมือง จนทำนำไปสู่คำถามว่า ทำอย่างไรจึงจะมีอาหารเพียงพอต่อคนเมืองเหล่านี้
แพลนตากอน (Plantagon) บริษัทเทคโนโลยีทางอาหารสัญชาติสวีเดนให้คำตอบนี้ด้วยการออกแบบอาคารแนวดิ่งที่มีพื้นที่ใช้ในปลูกผลิตผลทางการเกษตรได้ ซึ่งตึกแพลนสเครปเปอร์ (Plantscraper) อาคารแรกอยู่ระหว่างก่อสร้างในเมืองลินเชอปิง ประเทศสวีเดน
ฮานส์ ฮัสเซิล (Hans Hassle) ซีอีโอบริษัทให้สัมภาษณ์ว่า “โครงการนี้เป็นการสาธิตอนาคตของวิธีการป้อนอาหารสู่เมืองที่มีพื้นที่ น้ำ หรือทรัพยากรอื่นๆ ไม่เพียงพอ”
ตามแบบร่างของอาคาร พื้นที่ประมาณ 60% จะถูกใช้เป็นสำนักงาน ส่วนที่เหลือจะถูกใช้เป็นฟาร์มในร่ม
โครงการนี้ใช้วิธีการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน มีการออกแบบให้ครอบคลุมทั้งในเรื่องการจัดการน้ำและพลังงาน นอกจากนี้กระบวนการในฟาร์มส่วนใหญ่ไม่ต้องใช้แรงงานคนซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้
เมื่อเปรียบเทียบกับฟาร์มกลางแจ้งส่วนใหญ่ในขนาดเดียวกัน ตึกนี้สามารถผลิตอาหารได้มากกว่า โดยในแต่ละปีอาคารนี้จะสามารถผลิตพืชผลต่างๆ ได้ราว 550 ตัน เพียงพอต่อการบริโภคของคนประมาณ 5,500 คน
ขณะเดียวกัน แพลนสเครปเปอร์ช่วยประหยัดน้ำราว 13 ล้านแกลลอนต่อปี พร้อมทั้งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ราว 1,100 ตันต่อปีด้วย
แพลนสเครปเปอร์แห่งแรกเริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2012 ด้วยงบประมาณ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดการณ์ว่าจะเปิดให้ใช้งานได้ในปี 2020
อ้างอิง: