สิวารมณ์ เรียลเอสเตท หรือ SVR กำหนดขายราคา IPO 2.20 บาทต่อหุ้น เตรียมเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์นี้ พร้อมเข้าเทรดตลาด mai วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566
บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท หรือ SVR ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง บล.โกลเบล็ก และ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม (Joint Lead Underwriter) พร้อมแต่งตั้ง บล.พาย, บล.ดาโอ (ประเทศไทย) และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Co-Underwriter) ในการเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวนไม่เกิน 130 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25.49% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1.00 บาท โดยเสนอขายที่ระดับราคา 2.20 บาท
กิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บล.โกลเบล็ก ในฐานะเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมของ บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปจำนวน 130 ล้านหุ้น ที่ระดับราคาหุ้นละ 2.20 บาท โดยกำหนดเปิดให้จองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 31 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2566 โดยคาดว่าหุ้น SVR จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566 ในหมวดกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อย่อ SVR
โดยราคา IPO ที่ 2.20 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 13.93 เท่า เทียบจากผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2564 – 30 กันยายน 2565 จากการมีโครงการที่รับรู้รายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกๆ ปี ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นจึงมองว่าระดับราคาดังกล่าวจึงเป็นราคาที่เหมาะสม
หุ้น SVR เป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์น้องใหม่ที่น่าจับตา เนื่องจากศักยภาพความแข็งแกร่งของบริษัทที่สามารถฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงแนวโน้มการเติบโตของผลการดำเนินงานของ SVR ที่มีโอกาสก้าวสู่ระดับ High Growth อย่างต่อเนื่องในอนาคต
จุดเด่นของ SVR ต้องยอมรับว่าเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แนวราบน้องใหม่ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาบริหารงานอย่างมืออาชีพ โดยมุ่นเน้นจุดขายภายใต้แนวคิด Best Smart Living ที่เป็นจุดแข็ง ทั้งแบบบ้าน ทำเลที่มีศักยภาพ การจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ในราคาขายที่คุ้มค่า
โดยนับตั้งแต่ปี 2019 – ปัจจุบัน มีการพัฒนาโครงการแล้ว 9 โครงการ แบ่งเป็นปิดการขายแล้ว 2 โครงการ อยู่ระหว่างขาย 6 โครงการ และอยู่ระหว่างพัฒนา 1 โครงการ ซึ่งแต่ละทำเลที่ตั้งจะหลากหลายในทุกพื้นที่ เช่น จังหวัดสมุทรปราการ บริเวณพื้นที่บางปู, ทำเลนิคมอุตสาหกรรมอย่างจังหวัดชลบุรีและระยอง รวมถึงอยู่ระหว่างการขยายไปในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลมากขึ้น
อรรถปวิทย์ มโนธรรมรักษา กรรมการผู้จัดการ บมจ.สิวารมณ์ เรียลเอสเตท หรือ SVR กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้คิดเป็นจำนวน 286 ล้านบาท ของมูลค่าหุ้นที่เสนอขาย โดยบริษัทจะนำไปลงทุนเพื่อต่อยอดการพัฒนาโครงการในอนาคต ให้ครอบคลุมเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อขับเคลื่อนทุกโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในขณะนี้ สู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทภายใต้การวางยุทธ์ศาสตร์ทางธุรกิจให้สอดรับกับแนวคิด ‘Best Smart Living’
- ทำเลที่ตั้งต้องเดินทางสะดวก ใกล้แหล่งสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ และใกล้รถไฟฟ้า (Smart Location)
- การออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่นำเอาความต้องการของผู้อยู่อาศัยมาเป็นที่ตั้ง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้พื้นที่ภายในบ้านได้อย่างคุ้มค่าและลงตัว (Smart Space)
- ราคาบ้านที่ลูกบ้านจ่ายไปต้องได้รับความคุ้มค่าอย่างสูงสุด (Smart Value) และ
- นวัตกรรมต่างๆ (Smart Home) ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกเจเนอเรชัน เพื่อการใช้ชีวิตของลูกบ้านให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขข้อข้องใจ ทำไม หุ้น MASTER ถึงกล้าเคาะราคา IPO ต่อหน่วยสูงสุดเป็นประวัติการณ์
- หุ้นสตาร์มันนี่ เข้าเทรดใน SET วันแรก ‘บวกแรง’ เปิดตลาดวิ่ง 16.65% จากราคา IPO
- หุ้น MOSHI พุ่งแรง! เข้าเทรดใน SET วันแรกด้วยราคาเปิดที่ 35 บาท เพิ่มขึ้น 67% จากราคา IPO