×

Supernova บันทึกการเดินทางครั้งสุดท้าย กับความรักที่ยังคงเปล่งประกายแม้ความทรงจำสูญสลาย

09.10.2021
  • LOADING...
Supernova

จะมีสักกี่คนที่โชคดีได้พบคนที่อยากตื่นมาเจอหน้าในทุกเช้า หลับลงในอ้อมกอดของกันและกันทุกค่ำคืน ไม่เคยเบื่อหน่ายกับการหยอกล้อเรียกรอยยิ้มของอีกฝ่าย เต็มใจโตเถียงกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง และยินดีเหลือเกินที่จะแก่ตัวลงไปพร้อมๆ กัน

 

ถ้าคู่ชีวิตหมายความเช่นนั้น แซมกับทัสเกอร์คงเป็นภาพแทนของนิยามนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

 

Supernova คือผลงานของ Harry Macqueen นักแสดงและผู้กำกับไฟแรงจาก Hinterland (2014) บอกเล่าเรื่องราวความรักของนักเปียโน แซม (Colin Firth) และนักเขียนผู้ที่ป่วยด้วยโรคสมองเสื่อม ทัสเกอร์ (Stanley Tucci) โดยพวกเขาตัดสินใจออกเดินทางไกลจากใจกลางเมืองของประเทศอังกฤษสู่ทะเลสาบย่านตะวันตกเฉียงเหนือ เพื่อไปพบครอบครัวและเพื่อนฝูง เก็บเกี่ยวอดีต ความสุข และอ้อมกอดสุดท้ายไปด้วยกันจนสุดการเดินทาง ก่อนที่ทุกอย่างจะเลือนหายไปจากความทรงจำตลอดกาล

 

สองนักแสดงมากฝีมือที่เป็นเพื่อนกันในชีวิตจริงนับ 20 ปี ได้พิสูจน์ให้เราเชื่อสนิทใจตั้งแต่เริ่มต้นว่าเพราะอะไรเขาสองคนถึงตกหลุมรักและครองคู่กันมานานขนาดนี้ ด้วยบทสนทนาที่เริ่มต้นด้วยการต่อปากต่อคำ ก่อนจบลงด้วยเสียงหัวเราะของทั้งคู่ เรียบง่ายเพียงเท่านั้น

 

แต่ท่ามกลางเสียงหัวเราะและรอยยิ้มคือความบอบช้ำที่ปิดไว้ไม่มิดผ่านแววตาของทั้งคู่ สมกับคำโปรยที่บอกเราไว้ว่านี่คือ ‘หนังรักใจสลาย’ เมื่ออาการป่วยของทัสเกอร์แย่ลงเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าเพราะเริ่มสูญเสียกระทั่งทักษะการใช้ชีวิตง่ายๆ ไม่แปลกที่เขากลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นภาระให้กับแซม คู่ชีวิตที่ต้องทำเป็นเข้มแข็งเพื่อโอบอุ้มประคับประคองความรู้สึกทั้งของคนรักและเขาเองในเวลาเดียวกัน

 

ยิ่งไปกว่านั้นคือ ทัสเกอร์กำลังจะสูญเสียความสามารถในการจดจำทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่คนรักที่อยู่ด้วยกันมายาวนานหลายสิบปี

 

ในบทสนทนาแสนธรรมดา อารมณ์ขันที่ถูกจังหวะ อ้อมกอดอบอุ่น และคำทักทายจากคนสนิท มื้ออาหารพร้อมหน้าพร้อมตา จึงชวนให้เศร้าบาดลึก เพราะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ใกล้เลือนหายไปในไม่ช้าจากความทรงจำของทัสเกอร์

 

และคำถามหนักๆ ที่เกิดขึ้นหากมองจากมุมของแซมคือ การต้องเฝ้ามองคนรักที่แก่ตัวมาด้วยกันค่อยๆ สูญเสียความสามารถในการใช้ชีวิตและตัวตนเดิมที่เขาเคยเป็น ลืมทุกความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมา เราจะเข้มแข็งพอรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนั้นได้แค่ไหน เราจะเสียสละเพื่อดูแลเขาได้มากขนาดไหน หรือกระทั่งว่าถ้าถึงเวลาที่ยื้อยุดความเสื่อมถอยของร่างกายไม่ได้อีกแล้ว เราพร้อมจะปล่อยให้เขาจากไปได้ไหม

 

“ถ้าเธอขอพรได้หนึ่งข้อ เธอจะขออะไร”

“ฉันขอให้ทริปนี้ไม่มีวันจบ”

 

การเดินทางครั้งนี้ของพวกเขาจึงอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ทัสเกอร์ยังพอจดจำทุกอย่างได้ แม้ไม่รู้ว่าการเดินทางสิ้นสุดลงจริงๆ ที่ไหน เมื่อไร แต่ทุกครั้งที่ออกเดินทางแล้วก็ย่อมมีจุดหมายรออยู่เสมอ พวกเขาทำได้แค่พยายามเก็บเกี่ยววิวทิวทัศน์อันงดงามที่ได้พบเจอก่อนที่รถจะจอดลงเมื่อถึงปลายทาง

 

สิ่งที่หนังตั้งใจถ่ายทอดได้อย่างละเมียดละไมคือภาพธรรมชาติในระหว่างทาง ภูเขา แม่น้ำ ท้องฟ้า และดวงดาวที่ทัสเกอร์หลงใหล เป็นความงดงามของวัฏจักรชีวิต เหมือนกับมนุษย์ที่กำเนิดมาและดับสลายไปในสักวัน แต่เราจะยังทิ้งร่องรอยไว้เป็นส่วนหนึ่งในเศษเสี้ยวความทรงจำของผู้อื่นเสมอ

 

 

เช่นเดียวกับทฤษฎี ‘Supernova’ ปรากฏการณ์ที่ดาวฤกษ์มวลมากสิ้นสุดวงจรชีวิตและแตกดับลง เกิดระเบิดครั้งใหญ่ส่องแสงสว่างไปทั่วจักรวาลก่อนจะมืดดับลง แต่ได้ทิ้งเศษซากละอองดาวล่องลอยผ่านห้วงอวกาศอย่างเชื่องช้า จนในที่สุดก็หลอมรวมกันเป็นดาวดวงใหม่ และกลายเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สร้างมนุษย์เราขึ้นมา

 

พอผ่านจุดที่การตัดสินใจบางอย่างทำให้ความรู้สึกแตกสลายของทั้งคู่ถูกเผยออกมาหมดเปลือก เราจึงไม่เห็นอะไรเลยนอกเสียจากความรักอันท่วมท้นที่พวกเขาอยากมอบให้แก่กันอย่างสุดความสามารถแล้ว และสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในสถานการณ์แบบนี้ ก็คงเป็นการโอบกอดเพื่อกักเก็บความทรงจำและสัมผัสผิวกายที่คุ้นเคยไว้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่กาลเวลาจะอนุญาตพวกเขา

 

“ฉันอยากผ่านมันไปกับเธอจนถึงวันสุดท้าย”

 

ท่ามกลางคำชมที่ยกให้ Supernova เป็นหนังรักที่ดีที่สุดของปีนี้ มีคำวิจารณ์ที่น่าสนใจคือ นี่เป็นอีกครั้งที่นักแสดง Straight มารับบทบาท LGBTQ+ ในขณะที่เพศหลากหลายยังคงถูกกีดกันโอกาสในการแสดงด้วยอคติทางเพศอยู่ ซึ่งก็เป็นประเด็นสำคัญที่วงการภาพยนตร์ต้องตระหนักกันมากกว่านี้

 

อย่างไรก็ตาม ตัวหนังเองไม่ได้โฟกัสไปที่ความยากลำบากของการเป็นคู่รัก LGBTQ+ อย่างที่คิดไว้ อันที่จริงแล้วเรื่องเพศสภาพไม่ได้ถูกหยิบมาพูดถึงเลยด้วยซ้ำ แต่หนังทำให้เราเห็นความธรรมดาว่าแซมกับทัสเกอร์เป็นคู่รักที่รายล้อมด้วยครอบครัวและมิตรภาพที่ดี ไม่มีสายตาแปลกประหลาดจากคนอื่นที่มองมา เป็นชีวิตรักที่ไม่ได้ผิดแผกจากคู่สมรสเพศกำเนิดชายหญิงเลย

 

เพราะฉะนั้นสำหรับเราในฐานะผู้ชมจากประเทศที่ยังคงผลักดันเรื่องสมรสเท่าเทียมกันอยู่ จึงอดคิดไม่ได้ว่าความเจ็บป่วยเกิดขึ้นกับคนทุกคนไม่เลือกเพศ แล้วคุณจะยิ่งใจสลายแค่ไหนหากต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่คนรักป่วย แต่คุณไม่มีสิทธิทางกฎหมายที่จะดำเนินการทางการแพทย์แทนเขาได้

 

ซึ่งนั่นไม่ใช่แค่ความคิด แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอดกับคู่รัก LGBTQ+ ในประเทศไทยที่ยังไม่ได้รับสิทธิเท่ากับคู่สมรสชายหญิง

 

จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่เราได้เห็นผู้สร้างและจัดจำหน่ายรายใหญ่อย่าง สหมงคลฟิล์ม เลือกต่อยอดประเด็นจาก Supernova มาร่วมขับเคลื่อนกฎหมายความเท่าเทียมทางเพศด้วยการตั้งคำถามว่า

 

“คุณจะทำอย่างไร ถ้าคนรักประสบอุบัติเหตุแต่คุณไม่สามารถเซ็นรับรองการผ่าตัดและไม่มีสิทธิจัดการดูแลตามกฎหมาย? ไม่เกี่ยวว่าคุณจะเป็นเพศไหน แต่มันเกี่ยวกับสิทธิขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนควรได้รับอย่างเท่าเทียม ทัสเกอร์และแซมในเรื่องนี้โชคดี พวกเขาอยู่ในประเทศที่มีกฎหมายนี้คุ้มครอง เขาสามารถใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ดูแลกันจนถึงวันสุดท้าย แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นของเรา มันอาจจะไม่เป็นเช่นนี้”

 

รับชม Supernova กอดให้รักไม่เลือน ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

 

คลิกชมตัวอย่างภาพยนตร์ Supernova

 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising