วันนี้ (27 สิงหาคม) ที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ ถนนไกรลาศ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธร (สภ.) เมืองนครสวรรค์ ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรก พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ซึ่งตกเป็นจำเลยในความผิดฐาน ได้แก่
- เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด
- ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
- ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ หรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมสิ่งนั้น
โดยเป็นการฝากขังผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ ขณะที่ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
สำหรับคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 เวลากลางคืน ผู้ต้องหากับพวกเป็นตำรวจประจำ สภ.เมืองนครสวรรค์ ทำหน้าที่ประจำชุดปราบปรามยาเสพติด ร่วมกันจับกุมตัว จิระพงศ์ ธนะพัฒน์ และ กนกวรรณ คล้ายนิ่ม สองสามีภรรยาที่ร่วมกันนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) คือยาไอซ์ จำนวน 3 ถุง น้ำหนักถุงละ 100 กรัม มาจำหน่ายให้กับสายลับของผู้ต้องหาที่ทำการล่อซื้อ โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าเซเว่น อีเลฟเว่น ตลาดนัดหน้าค่ายจิรประวัติ ตำบลนครสวรรค์ออก อำเภอเมือง จังหวัดนครสรรค์ และตรวจยึดรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ขฉ 2905 ชัยนาท
ต่อมาขณะที่จิระพงศ์อยู่ในการควบคุมของผู้ต้องหากับพวก ผู้ต้องหากับพวกทราบว่าจิระพงศ์มียาบ้าไว้จำนวนมาก ต่อมาวันที่ 5 สิงหาคม 2564 เวลากลางวัน ผู้ต้องหากับพวก ประกอบด้วย พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล, พ.ต.ต. รวิโรจน์ ดิษทอง, ร.ต.อ. ทรงยศ คล้ายนาค, ร.ต.ท. ธรณินทร์ มาศวรรณา, ด.ต. วิสุทธิ์ บุญเขียว, ด.ต. ศุภากร นิ่มชื่น และ ส.ต.ต. ปวีณ์กร คำมาเร็ว ร่วมกันสอบเค้นหาที่ซ่อนยาเสพติดดังกล่าวโดยใช้ถุงพลาสติกที่ไม่มีช่องอากาศครอบศีรษะจิระพงศ์ ม้วนปิดปากถุงเพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปในถุง ทำให้จิระพงศ์หายใจไม่ออก พยายามดิ้น ผู้ต้องหากับพวกดังกล่าวได้ร่วมกันจับลำตัว แขน และขาของจิระพงศ์เพื่อไม่ให้ขัดขืน การกระทำของผู้ต้องหากับพวกทำให้จิระพงศ์ขาดอากาศหายใจ หมดสติ และถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา
ส่วนยาเสพติดที่ล่อซื้อได้ไม่ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และได้ปล่อยตัวกนกวรรณ พร้อมกับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ขฉ 2905 ชัยนาท ไป
การที่ผู้ต้องหากับพวกให้สายลับล่อซื้อยาเสพติดจนจับกุมจิระพงศ์กับกนกวรรณได้พร้อมยาเสพติดเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่การใช้วิธีบังคับที่เป็นอันตรายต่อชีวิตเพื่อขยายผลเครือข่ายยาเสพติดเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเมื่อผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหากับพวกไม่ส่งยาเสพติดที่ล่อซื้อได้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หลังเกิดเหตุมารดาผู้ตายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เมื่อพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดนครสวรรค์ออกหมายจับ ซึ่งศาลอออกหมายจับเลขที่ 183/2564 ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2564
จากนั้นเมื่อ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ผู้ต้องหาทราบว่ามีหมายจับได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอมอบตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาคือ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล
เหตุเกิดที่ตำบลนครสวรรค์ตก อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 289 และ 309 วรรคสอง ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยังระบุว่าได้สอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาจะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว
แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นเนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขออนุญาตฝากขัง มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม – 7 กันยายน 2564 และขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ มีอัตราโทษสูง ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำผิดเสียเอง หากมีการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทั้งนี้ ประสงค์จะดำเนินการยื่นคำร้องฝากขัง โดยขอให้ศาลสอบถามผู้ต้องหาหรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาผ่านระบบการประชุมทางจอภาพในการฝากขังครั้งต่อไปทุกครั้งด้วย
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ก่อนจะควบคุมตัวเข้าเรือนจำ
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ยังได้ยื่นฝากขัง ร.ต.ท. ธรณินทร์ มาศวรรณา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นตำรวจที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในฐานความผิดเหตุการณ์เดียวกันกับ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ โดยในคำร้องฝากขังพนักงานสอบสวนก็ได้คัดค้านประกันเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ต้องระวางโทษประหารขีวิต
