ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของ Google ได้ส่งเอกสารเป็นการภายในที่ระบุว่า อยากให้พนักงานใช้เวลาสักสองสามชั่วโมงในระหว่างสัปดาห์เพื่อทดสอบ Bard เครื่องมือแชตปัญญาประดิษฐ์ของบริษัท ในขณะที่เขาเผชิญกับคำวิจารณ์จากการที่ผู้บริหารตอบสนองช้าต่อ ChatGPT และคู่แข่งของ Microsoft
“ฉันรู้ว่าช่วงเวลานี้น่าตื่นเต้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเทคโนโลยีพื้นฐานกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วยศักยภาพที่สูงมาก” CNBC รายงานว่านี่เป็นคำพูดของพิชัยที่เขียนในอีเมล
แม่ทัพของ Google ยังบอกอีกว่า ถึง Google จะไม่ใช่คนแรกที่ออกผลิตภัณฑ์เสมอไป แต่นั่นไม่ได้ขัดขวางความสามารถในการชนะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Google ต้องกลัวจริงหรือ? เมื่อ Microsoft เกทับว่าเป็นผู้นำวิวัฒนาการยุคต่อไปของอินเทอร์เน็ต หลังเปิดตัว ‘Bing-Edge’ ที่ผสานรวมกับ ChatGPT
- ยังไม่ช้า (เกินไป) ใช่ไหม? Google เปิดตัว ‘Bard’ แชตบอตปัญญาประดิษฐ์ที่เกิดขึ้นมาเพื่อสู้กับ ChatGPT โดยเฉพาะ
- กลัวตาม Microsoft ไม่ทัน! พนักงาน Google วิจารณ์ ‘ซีอีโอ’ อย่างเผ็ดร้อน เหตุรีบเปิดตัวแชตบอต Bard เร็วเกินไปทั้งที่ยังไม่พร้อม จนฉุดหุ้นร่วง 3.4 ล้านล้านบาท
“ผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบางรายการของเราไม่ใช่ผลิตภัณฑ์แรกที่ออกสู่ตลาด” พิชัยเขียน “พวกเราได้รับแรงผลักดันจากการแก้ปัญหาความต้องการของผู้ใช้ และสร้างขึ้นจากข้อมูลเชิงลึกทางเทคนิค”
มีเครื่องมือค้นหามากมายก่อนที่ Google จะเข้าสู่ตลาดในปี 1996 แต่เกือบทั้งหมดหายไปเมื่อ Google เข้ามาครอบงำอุตสาหกรรมนี้ รวมไปถึง Android ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการบนมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน
ถึงกระนั้น Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ก็โดนนักลงทุนโจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่บริษัทได้รับผลกระทบจากการประกาศของ Microsoft เกี่ยวกับเสิร์ชเอนจิน Bing ที่ผสานรวม ChatGPT ในขณะที่ Google เปิดตัว Bard แต่ความผิดพลาดหลายครั้งทำให้ราคาหุ้นลดลงเกือบ 9%
หุ้นที่ลดลงอย่างมาก ทำให้พนักงานวิพากษ์วิจารณ์พิชัยโดยบอกว่า มีแต่ความเร่งรีบและไม่เรียบร้อยอย่างที่ Google ควรจะทำ
“สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราสามารถทำได้ในตอนนี้คือ การมุ่งเน้นไปที่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยความรับผิดชอบ” พิชัยเขียนในอีเมลฉบับล่าสุด
ในเดือนธันวาคม ไม่นานหลังจากที่ OpenAI เผยแพร่ ChatGPT สู่สาธารณะ ผู้บริหารของ Google เตือนว่าพวกเขาต้องพิจารณาแนะนำเครื่องมือค้นหา AI เนื่องจากบริษัทมี ‘ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง’ มากขึ้น และกำลังดำเนินการ ‘อย่างระมัดระวังมากกว่าสตาร์ทอัพขนาดเล็ก’
สำหรับ Bard พิขัยบอกว่า มีคนภายนอกและภายในหลายพันคนทดสอบการตอบสนองในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และความสมเหตุสมผลของข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริง
“AI ได้ผ่านฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิมามากมาย และตอนนี้มันก็บานอีกครั้ง” เขากล่าวว่าถึงเวลาแล้วที่จะ “ยอมรับความท้าทายและเดินหน้าต่อไป ผ่านการถ่ายทอดพลังงานและความตื่นเต้นของช่วงเวลานั้นลงในผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งการทดสอบจะทำให้ Bard เป็นผลิตภัณฑ์ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน”
อ้างอิง: