วันนี้ (24 ธันวาคม) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงแผนปฏิบัติการค้นหาและให้การช่วยเหลือกำลังพลบนเรือหลวงสุโขทัยที่อับปางกลางอ่าวไทยว่า
ในวันนี้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 จัดเรืออากาศยานของกองทัพเรือร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมในการค้นหา โดยจัดกำลังประกอบด้วย
- เรือหลวงตากสิน อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 2 และ 6
- เรือหลวงนเรศวร อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 9 และ 10 พร้อมทั้งควบคุมอากาศยานในพื้นที่
- เรือหลวงกระบุรี อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 1, 2, 3 และ 4
- เรือหลวงนราธิวาส อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 5A และ 9A
- เรือ ต.114 อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 9A และ 12 เรือ ต.270 อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 14
ส่วนเรือหลวงกระบุรีอยู่ในพื้นที่ค้นหาบริเวณเรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีการนำนักประดาน้ำค้นหาผู้ประสบภัยบริเวณเรือหลวงสุโขทัยอับปางและสำรวจตัวเรือภายนอกเพื่อค้นหาผู้ที่สูญหาย โดยอุปสรรคสำคัญขนาดนี้คือคลื่นใต้น้ำที่มีความแรง ซึ่งนักประดาน้ำก็จะมีการประเมินสถานการณ์และทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ
พล.ร.อ. ปกครองกล่าวต่อไปว่า จากที่กองทัพเรือแจ้งว่าพบ ร่างผู้เสียชีวิต 1 รายเมื่อเย็นวานนี้ (23 ธันวาคม) บริเวณจุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เมื่อช่วงเช้าวันนี้อากาศยานได้ตรวจพบร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 รายในพื้นที่ 4 โดยเรือหลวงกระบุรีได้นำร่างของผู้เสียชีวิตนำส่งเรือหลวงตากสินโดยจะนำกลับขึ้นมาบนฝั่ง และเข้าสู่ขั้นตอนและกระบวนการในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของทางนิติเวช
ซึ่งศพที่พบทั้ง 2 รายนั้นคาดว่าจะใช้เวลาในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลโดยการตรวจ DNA ประมาณ 3-4 วัน จึงจะสามารถยืนยันตัวบุคคลได้
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 105 นาย สามารถช่วยได้แล้ว จำนวน 76 นาย เสียชีวิต 8 นาย และยังคงสูญหายจำนวน 21 นาย (รอผลการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 2 ราย)
พล.ร.อ. ปกครองกล่าวอีกว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้กองทัพเรือขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ซึ่งประกอบด้วยหน่วย กองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่าเรือบางสะพาน เรือน้ำมัน Straits Energy เรือน้ำมันศรีไชยา บริษัท พริมา มารีน เรือสินค้าภูมินรา สมาคมการบินเฟรนด์ฟลายอิ้งคลับ จังหวัดสมุทรสาคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และภาคประชาชน
ซึ่งหน่วยต่างๆ เหล่านี้ได้บูรณาการการทำงานร่วมกัน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคเอกชนที่มีความร่วมมือกันในหลายมิติ เพราะภารกิจในครั้งนี้จะสำเร็จไม่ได้หากทุกฝ่ายไม่ได้ร่วมแรงร่วมใจกัน โดยขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจ
ทั้งนี้ กองทัพเรือจะปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถและทำให้ดีที่สุดเพื่อพี่น้องของเรา เพราะทุกคนเป็นเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน