วันนี้ (24 เมษายน) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย แสดงความคิดเห็นต่อกรณีการตัดงบบัตรทองและงบกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำไปใช้จ่ายเป็นงบสำรองฉุกเฉินในการแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า เธอขอค้านการตัดงบบัตรทอง 2,400 ล้านบาท และตัดงบกระทรวงสาธารณสุขอีก 1,200 ล้านบาท เพื่อนำไปตั้งเป็นงบสำรองฉุกเฉินนำมาใช้จ่ายแก้ปัญหาโควิด-19
ในขณะที่โควิด-19 กำลังระบาด แทนที่จะจัดงบเพิ่มให้โรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล ได้มีกำลังไปต่อสู้กับโควิด-19 อย่างเต็มที่ แต่กลับไปตัดงบบัตรทอง ทั้งที่งบในการรักษาและตรวจเชื้อโควิด-19 ก็ต้องเบิกจากงบบัตรทองทั้งสิ้น จึงควรให้งบเพิ่ม เพื่อให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้มีกำลังไปสู้กับโควิด-19 อย่างเต็มที่ แต่รัฐบาลกลับไปตัดงบบัตรทองเฉยเลย
คุณหญิงสุดารัตน์ระบุอีกว่า งบประมาณปี 2563 มีสูงถึง 3.2 ล้านล้านบาท มีงบฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นเร่งด่วนมากมายที่ควรตัด ทั้งซื้ออาวุธ สร้างตึกใหม่ ซื้อรถใหม่ อบรม สัมมนา ดูงาน ฯลฯ แต่กลับเลือกตัดงบประมาณที่มีไว้เพื่อรักษาชีวิตประชาชน ทั้งที่ศัตรูของชาติวันนี้คือเชื้อโรคตัวเล็กๆ ที่ใช้รถถัง เรือดำน้ำไปปราบไม่ได้นะคะ
การตัดงบบัตรทองในครั้งนี้จะทำให้โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศประสบปัญหามากขึ้น ในขณะที่การระบาดของโควิด-19 ได้ทำให้ภาระของโรงพยาบาลมากขึ้นอยู่แล้ว งบประมาณก็ไม่เพียงพอ อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องมือต่างๆ ก็ขาดแคลน แม้แต่หน้ากากอนามัย ชุด PPE สำหรับแพทย์ พยาบาล แต่ละโรงพยาบาลก็ต้องขอรับบริจาคกันเอาเอง ตั้งแต่เริ่มต้นของการระบาดจนถึงปัจจุบันก็ยังขาดแคลนอยู่
“ดิฉันขอให้รัฐบาลทบทวนเรื่องการตัดงบบัตรทองและงบของกระทรวงสาธารณสุข รวม 3,600 ล้านบาท ท่านอาจจะไม่ใช่ที่คนสร้างให้เกิดนโยบายประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค แต่ได้โปรดอย่าเป็นผู้ทำลายโครงการที่ช่วยรักษาชีวิตและสุขภาพของคนไทยเลย” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
