ตลาดคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง หลังจากที่เคยได้รับแรงหนุนจากผู้ซื้อชาวจีน รัสเซีย และต่างชาติอื่นๆ ในช่วงที่ผ่านมา
ข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ระบุว่า ยอดขายคอนโดให้ชาวต่างชาติในไตรมาส 2 ของปีนี้ ลดลง 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหลือเพียง 3,342 ยูนิต และมูลค่าลดลง 18% เหลือ 1.48 หมื่นล้านบาท
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการซื้อจากชาวจีนและรัสเซียลดลง 17% และ 19% ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว และการควบคุมการโอนเงินทุนจากจีนไปต่างประเทศที่เข้มงวดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- คนไทยแห่ประกาศขายบ้านทิ้ง สิ้นไตรมาส 2/67 จำนวนมากกว่า 1 แสนหน่วย มูลค่ารวมกว่า 7 แสนล้านบาท พบคนกรุงเทพฯ ขายบ้านสูงสุดเป็นอันดับ 1
- คนไทยต้องใช้เงินเดือน 21 ปี ถึงซื้อบ้าน-คอนโดในกรุงเทพฯ ได้ ยากกว่าเมืองใหญ่ทั่วเอเชีย เพราะราคาพุ่ง แต่รายได้เพิ่มไม่ทัน
- ชมคลิป: คนไทยมีบ้านยากขึ้น วิกฤตคนรุ่นใหม่ เอาไงต่อดี? | Exclusive Interview
นอกจากนี้อุปทานคอนโดใหม่ในเขตกรุงเทพฯ ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ก็ลดลง 44% เหลือ 8,674 ยูนิต ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องหันมาเน้นการระบายสต็อกที่มีอยู่ โดยเฉพาะคอนโดราคาถูกในชานเมืองที่ขายได้ยาก
ยอดขายคอนโดให้กับผู้ซื้อชาวไทยก็ลดลงเช่นกัน ท่ามกลางปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอยู่ที่ 91% ของ GDP ณ เดือนมีนาคมที่ผ่านมา แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% เพื่อควบคุมสินเชื่อ แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ยังไม่เห็นทางออกสำหรับปัญหาหนี้ครัวเรือน
สถาบันการเงินต่างๆ กำลังเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อมากขึ้น ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านในราคาต่ำถึงปานกลางในพื้นที่ เช่น ชานเมืองของกรุงเทพฯ อย่างบางนา มักจะไม่สามารถขอสินเชื่อได้ ผู้บริหารของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นรายหนึ่งกล่าวกับ Nikkei Asia ว่า “อัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 40-50%”
Waras Dechgitvigrom ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัยของ Colliers Thailand กล่าวว่า ปัญหาอุปทานล้นตลาดไม่ใช่ปัญหาในเขตกรุงเทพฯ เนื่องจากสินค้าคงคลังที่อยู่อาศัยกำลังถูกเคลียร์ออกไป แต่มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดในชานเมือง ซึ่งผู้ขายได้ลดราคาคอนโดที่สร้างหลังปี 2022 ลง
ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มอุปทานคอนโดในประเทศไทย ผ่านการร่วมทุนกับผู้ประกอบการไทย เช่น Mitsubishi Estate กับ AP, Nomura Real Estate กับ Origin Property และ Hanshin Hankyu Properties กับ Sena Development ซึ่งบางรายมีพอร์ตโฟลิโอในไทยที่เน้นคอนโดราคาประหยัดในชานเมือง
Naomi Endo หัวหน้าฝ่ายไทยของ Nomura Real Estate กล่าวว่า “ในอนาคตเราจะมุ่งเน้นไปที่คอนโดระดับกลางและระดับสูงในพื้นที่ เช่น ใจกลางกรุงเทพฯ”
อ้างอิง: