Tory Burch’s Empire
นิตยสาร Forbes เพิ่งประกาศรายชื่อหญิงชาวอเมริกันที่รวยสุดในประเทศ จากการทำธุรกิจของตัวเอง ซึ่งแฟชั่นดีไซเนอร์ที่มีมูลค่าสูงสุดก็ตกเป็น ทอรี เบิร์ช ในอันดับ 29 กับยอด 800 ล้านเหรียญดอลลาร์ หรือราวสองหมื่นหกพันล้านบาท ซึ่งเธอเริ่มแบรนด์ในปี 2004 กับร้านในย่านโนลิตาแห่งมหานครนิวยอร์ก ก่อนที่จะขยายแบรนด์ให้ครอบคลุมทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า น้ำหอม นาฬิกา และเปิดไลน์สปอร์ตชื่อ Tory Sport ในปี 2015 เป็นต้น ส่วนดีไซเนอร์คนอื่นที่ติดลิสต์นี้ก็มี เวรา หวัง ในอันดับ 34 ด้วยมูลค่า 630 ล้านเหรียญ และ ดอนนา คาราน ในอันดับ 43 ด้วยมูลค่า 470 ล้านเหรียญ
Burberry Going Strong
ตั้งแต่ดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน ริคคาร์โด ทิสซี มาดำรงตำแหน่ง Chief Creative Officer แทน คริสโตเฟอร์ เบลลีย์ ที่แบรนด์ Burberry ก็ดูเหมือนจะมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อทำให้แบรนด์ดูตื่นเต้นตลอด โดยล่าสุดก็สร้างความฮือฮากับการประกาศทำแคปซูลคอลเล็กชันพิเศษ ที่จะนำผลงานอาร์ไคฟของอีกหนึ่งแบรนด์ตำนานของฝั่งอังกฤษอย่าง Vivienne Westwood มาถ่ายทอดใหม่ในฉบับของ Burberry ที่จะเริ่มวางขายในเดือนธันวาคมนี้ หลังจากโชว์แรกของ Riccardo ที่จะจัดที่ลอนดอนในเดือนกันยายนนี้ ส่วนด้านผลประกอบการทาง Burberry ก็เพิ่งประกาศว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ แบรนด์ขึ้นมาสามเปอร์เซ็นต์ และทำยอดขายไป 479 ล้านปอนด์ หรือราวสองหมื่นล้านบาท
Kaia Gerber, Valentino’s New Muse
เป็นนางแบบที่กระแสไม่ตกจริงๆ สำหรับ ไกอา เจอร์เบอร์ ลูกสาวของซูเปอร์โมเดล ซินดี้ ครอว์ฟอร์ด ที่ล่าสุดไม่เพียงเดินในโชว์ Valentino Couture Fall 2018 ในลุคที่กลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว แต่เธอก็ยังถูกเลือกให้มาเป็นพรีเซนเตอร์แคมเปญ Pre-Fall 2018 ของแบรนด์อีกด้วย ซึ่งถ่ายโดยช่างภาพอันดับต้นๆของวงการอย่าง เจอร์เกน เทลเลอร์ และสวมใส่ชุดโค้ตหนังที่ประดับลายมังกรด้านหลัง แต่ซีซันไกอาไม่ได้มีเพียงแค่แบรนด์ Valentino อย่างเดียวที่เธอได้ขึ้นแคมเปญ แต่ยังมี Moschino ที่ถ่ายโดย สตีเวน เมเซล และ Saint Laurent ที่ถ่ายโดย เดวิด ซิมส์ อีกด้วย
Back to 1965
แบรนด์นาฬิกา Rado เปิดตัวรุ่น ‘The Rado Tradition 1965 Auto’ ที่ย้อนกลับไปในปี 1965 และหยิบเอา Manhattan skyline มาเป็นแรงบันดาลใจในการรังสรรค์ โดยตัวเรือนผสมผสานนวัตกรรมด้านวัสดุอันล้ำสมัยกับกลิ่นอายวินเทจในยุคก่อน ไม่ว่าจะเป็นมาร์กเกอร์บอกนาที-ชั่วโมงทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ หรือแม้แต่สัญลักษณ์สมอสีแดงอันที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ที่เพิ่มประสิทธิภาพการอ่านค่าเวลาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยเข็มบอกนาที-ชั่วโมงแบบ ‘Tuning Fork’ ขนาดใหญ่ พร้อมกระจกหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ป้องกันรอยขีดข่วน จับคู่สายหนังและฝาหลังที่ออกแบบให้รู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ และกันน้ำลึกได้ 50 เมตร
New Editions
ตั้งแต่ดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส นาตาชา แรมซีย์-เลวี มาเป็นครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ Chloé ต่อจาก แคลร์ เวท เคลเลอร์ ที่ย้ายไปอยู่แบรนด์ Givenchy เธอก็ได้นำกระเป๋ารุ่นไฮไลต์ที่หลายคนคุ้นเคยกับแบรนด์มานำเสนอในรูปแบบใหม่ เช่น กระเป๋ารุ่น Drew Bijou ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 และโดดเด่นกับคุณสมบัติในการใช้งานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน และที่ปิดแบบ double-lock ทางนาตาชาก็ทำเวอร์ชันใหม่ที่ประดับด้วยห่วงโซ่ประกอบด้วยวงแหวนหลายอัน ซึ่งทำให้เกิดเป็นสายคล้องมือ และมีสายหนังยาวเป็นเสมือนเครื่องประดับสร้างความสมดุล ซึ่งก็เป็นกระเป๋าที่พอเหมาะพอดีมือ ที่มาพร้อมกับความสะดวกและสวยงามในเอกลักษณ์ของ Chloé
Cover Photo: Courtesy of Valentino
