×

Stigmatized Properties ท่วงท่าการเล่าเรื่องชวนขวัญผวาครั้งใหม่ของผู้กำกับ Ringu ที่พิสูจน์ได้อีกครั้งถึงความเป็น ‘ตัวจริง’ ในสิ่งนี้

06.04.2021
  • LOADING...
Stigmatized Properties ท่วงท่าการเล่าเรื่องชวนขวัญผวาครั้งใหม่ของผู้กำกับ Ringu ที่พิสูจน์ได้อีกครั้งถึงความเป็น ‘ตัวจริง’ ในสิ่งนี้

เชื่อว่าชื่อของ นากาตะ ฮิเดโอะ คือหนึ่งในผู้กำกับในดวงใจของคอหนังสยองขวัญหลายคน จากผลงานหนังสยองขวัญระดับตำนานอย่าง Ringu (1998) ที่เคยกวาดรายได้ในประเทศญี่ปุ่นไปกว่า 1.7 พันล้านเยนในปีที่เข้าฉาย และในปี 2021 ฮิเดโอะกลับมาพร้อมกับผลงานสยองขวัญเรื่องใหม่อย่าง Stigmatized Properties ที่ครองอันดับ 1 บนตาราง Box Office ของญี่ปุ่นนานถึง 2 สัปดาห์ และกลายเป็นหนังสยองขวัญที่ทำรายได้สูงสุดในรอบ 10 ปีของญี่ปุ่นอีกด้วย

 

โดยตัวหนังดัดแปลงมาจากหนังสือชื่อ Jiko Bukken: Kowai Madori ผลงานจากปลายปากกาของ ทานิชิ มัตซึบาระ ดาราตลกจากคณะโชจิกุ ไฮโนะ ที่นำประสบการณ์การตระเวนไปพักอาศัยในบ้านที่เคยเกิดเหตุเสียชีวิตมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ซึ่ง ณ ปัจจุบันเขายังคงออกเดินทางเข้าพักในบ้านสุดเฮี้ยนเหล่านี้เป็นจำนวนกว่า 10 หลังเข้าไปแล้ว

 

ทานิชิ มัตซึบาระ นักแสดงตลกเจ้าของหนังสือ Jiko Bukken: Kowai Madori

 

หนังบอกเล่าเรื่องราวของ ยามาโนะ ยามาเมะ (คาเมนาชิ คาซุยะ) นักแสดงตลกที่ชีวิตกำลังเข้าสู่ช่วงขาลง ได้ตัดสินใจเข้าร่วมรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง เพื่อหวังว่าตัวจะกลับมาดังอีกครั้ง โดยเงื่อนไขที่เขาต้องทำคือ การเข้าไปอาศัยในบ้านพักที่เคยมีเหตุการณ์คนเสียชีวิต เพื่อตามหาว่าสถานที่แห่งนั้นมี ‘ผี’ อยู่หรือไม่ จนกระทั่งรายการของยามาเมะออกอากาศ ก็ได้เสียงตอบรับจากผู้ชมอย่างล้นหลาม และส่งให้ชื่อของยามาเมะกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น เขาจึงตัดสินใจเดินหน้าตามหาห้องพักอย่างต่อเนื่อง 

 

แต่ในระหว่างที่ยามาเมะกำลังถ่ายทำรายการ ผู้คนรอบตัวเขาก็เริ่มเจอเหตุการณ์ประหลาดมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงตัวเขาเองที่เริ่มสัมผัสได้ว่ากำลังมี ‘บางสิ่งบางอย่าง’ คืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ

 

 

จุดเด่นข้อแรกที่เราชื่นชอบมากๆ และเป็นส่วนสำคัญที่ชวนให้ผู้ชมติดตามเรื่องราวไปถึงตอนจบ คือการที่ฮิเดโอะให้ความสำคัญกับการปูเบื้องหลังของตัวละครหลัก 

 

โดยในช่วงแรกของหนัง ฮิเดโอะค่อยๆ พาผู้ชมไปทำความรู้จักตัวละครทั้ง 3 คนอย่าง ยามาเมะ และนากาอิ สองคู่หูนักแสดงตลกที่จำเป็นต้องหยุดเส้นทางฝันของตัวเองลง เพื่อหางานใหม่ที่มั่นคงมากกว่าเดิม และ อาซึสะ หญิงสาวผู้เป็นแฟนคลับตัวยงของยามาเมะและนากาอิมาอย่างยาวนาน แม้ว่าชื่อเสียงของพวกเขาจะไม่โดดเด่นเท่านักแสดงตลกคนอื่นๆ ก็ตาม  

 

ซึ่งการให้ความสำคัญกับการปูเบื้องหลังตัวละครของฮิเดโอะ มีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้ทุกการกระทำของตัวละครตั้งแต่ช่วงกลางเรื่องเป็นต้นไปมีความหนักแน่นและสมเหตุสมผล เราจึงไม่รู้สึกเกิดคำถามในระหว่างทางว่า ‘ทำไมตัวละครถึงตัดสินใจทำแบบนี้’ 

 

 

อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ Stigmatized Properties อบอวลไปด้วยบรรยากาศชวนสยอง คือจังหวะจะโคนในการตัดต่อของหนัง ที่มีส่วนสำคัญในการกำกับความรู้สึกของคนดู โดยเฉพาะการใส่ช็อต Long Take (การถ่ายทำแบบต่อเนื่องโดยไม่สั่งคัต) แบบสั้นๆ เข้ามาช่วยในการเล่าเรื่อง ก็ยิ่งสร้างบรรยากาศให้ผู้ชมรู้สึกว่ากำลังอยู่ในห้องสุดเฮี้ยนร่วมกับตัวละครหลักอีกด้วย

 

นอกจากนี้ บ้านสุดเฮี้ยนแต่ละหลังที่ตัวละครเดินทางไปพัก คือสถานที่จริงที่เคยเหตุการณ์เสียชีวิตขึ้น ผ่านคำบอกเล่าของทานิชิผู้เขียนหนังสือ Jiko Bukken: Kowai Madori มันจึงเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ส่งพลังให้หนังเรื่องนี้ ‘ชวนขวัญผวา’ ยิ่งกว่าเดิม

 

จุดเด่นข้อต่อมาที่เราไม่คิดว่าจะได้เห็น คือมุกตลกขบขันภายในเรื่องที่ถูกใส่เข้ามาอย่างตรงจังหวะ ซึ่งเสริมให้หนังมีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้นจริงๆ

 

 

อีกด้านหนึ่ง Stigmatized Properties มีจุดด้อยเล็กๆ ที่เรารู้สึกเสียดายเป็นการส่วนตัว คือปมปัญหาของตัวละครหลักทั้ง 3 ตัวที่ถูกปูเอาไว้อย่างน่าสนใจมากๆ แต่ตัวหนังกลับไม่ได้ขยายประเด็นเหล่านั้นในช่วงท้ายของเรื่องเท่าไรนัก ซึ่งหากตัวหนังหยิบประเด็นดังกล่าวมาขยี้มากกว่านี้ เราคิดว่าจะส่งให้บทสรุปของหนังทรงพลังมากขึ้นไม่น้อยทีเดียว

 

ในภาพรวมแล้วเรียกได้ว่า Stigmatized Properties คือหนังสยองขวัญน้ำดีอีกหนึ่งเรื่องที่โดดเด่นด้วยท่วงท่าในการเล่าเรื่อง และเรื่องราวของตัวละครที่ชวนติดตาม อีกทั้งยังเป็นผลงานที่พิสูจน์ว่าฝีมือการกำกับหนังสยองขวัญของฮิเดโอะ ‘เป็นของจริง’ 

 

Stigmatized Properties มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 8 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

รับชมตัวอย่างได้ที่นี่

 

 

 

ภาพ:

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising