ภาพของนักเทนนิสหนุ่มวัย 20 ปีทิ้งตัวลงนอนในสนามเทนนิส ศึกออสเตรเลียน โอเพ่น รอบ 8 คนสุดท้าย กลายเป็นภาพที่โด่งดังไปทั่วโลก หลังจากที่เขากลายเป็นนักเทนนิสคนแรกจากประเทศกรีซ ที่สามารถผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเทนนิสรายการนี้ได้สำเร็จ
ภาพ: Australian Open
“มันเป็นเหมือนเทพนิยายเลยครับ” ชายหนุ่มผมยาวกล่าวตอบโฆษกสนามหลังสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศได้สำเร็จ
ชายหนุ่มวัย 20 ปีคนนี้มีชื่อว่า สเตฟานอส ซิตซิปาส นักเทนนิสดาวรุ่งชาวกรีกวัย 20 ปี ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น 2019 แกรนด์สแลมแรกของปีนี้
โดยในรอบ 16 คนสุดท้าย เขาสามารถเอาชนะโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ แชมป์แกรนด์สแลม 20 สมัยไป 3-1 เซต 6-7 (11-13), 7-6 (7-3), 7-5 และ 7-6 (7-5) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา
ต่อด้วยการเอาชนะ โรแบร์โต้ เบาติสต้า อากุต จากสเปนไป 3-1 เซต 7-5, 4-6, 6-4 และ 7-6 (7-2) ส่งให้เขากลายเป็นนักเทนนิสชายที่อายุน้อยที่สุดที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศออสเตรเลียน โอเพ่น ต่อจาก แอนดี ร็อดดิก นักเทนนิสชาวสหรัฐฯ ในวัย 20 ปีเมื่อปี 2003
แต่สิ่งที่ทำให้สเตฟานอส ซิตซิปาส กลายเป็นไฮไลต์ของการแข่งขันปีนี้ คือความคล้ายคลึงหลายอย่างระหว่างเขากับโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่ฝ่ายหลังออกมายอมรับว่าอย่างน้อยเขาทั้งคู่ก็มีทรงผมคล้ายกัน
เทพนิยายกรีกแห่งออสเตรเลียน โอเพ่น 2019 ผู้ฟิชิตเฟเดอเรอร์จากการดูคลิปยูทูบ
ภาพ: Australian Open
หลังการแข่งขันกับเฟเดอเรอร์จบลง สเตฟานอสได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังเกม โดยยอมรับว่าตามศึกษาและเรียนรู้จากไอดอลของเขาผ่านไฮไลต์การแข่งขันในยูทูบมาโดยตลอด
“ผมชื่นชอบเฟเดอเรอร์มาตลอด ทั้งการเล่นเทนนิสของเขา บุคลิกของเขาในคอร์ดเทนนิส เหมือนกับว่าเฟเดอเรอร์ทำทุกอย่างถูกมาตลอด ผมอยากจะเป็นเหมือนเขาเลย” สเตฟานอสให้สัมภาษณ์กับ Esquire ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้า ไม่มีนักเทนนิสชาวกรีกคนใด (ยกเว้น พีท แซมพราส ที่เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-กรีซ) สามารถก้าวขึ้นมาติดอันดับหนึ่งในร้อยอันดับแรกของโลก จนกระทั่งสเตฟานอสทำได้เมื่อเดือนตุลาคม 2017 (ปัจจุบันเขาอยู่ในอันดับ 15 ของโลก)
สเตฟานอสคว้าแชมป์เอทีพีรายการแรกที่สตอกโฮล์ม โอเพ่น เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ก่อนจะเป็นที่สนใจของโลกเทนนิส เมื่อเขาคว้าแชมป์ Next Gen ATP Finals เมื่อเดือนธันวาคม 2018
ซึ่งเกมที่เอาชนะเฟเดอเรอร์ นับว่าเป็นการแสดงศักยภาพของเขา ด้วยการวิ่งไล่ทันทุกช็อต และการตีแบ็กแฮนด์มือเดียวเหมือนเฟเดอเรอร์ จนทำให้เฟเดอเรอร์เสียถึง 12 เบรกพอยต์
โดยชัยชนะครั้งนี้คล้ายกับการแจ้งเกิดในเวทีเทนนิสระดับโลกของเฟเดอเรอร์ ที่ย้อนกลับไปในวิมเบิลดันปี 2001 เมื่อโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ เด็กหนุ่มวัย 19 ปี และนักเทนนิสชายอันดับที่ 15 ของโลกพลิกเอาชนะ พีท แซมพราส ยอดนักเทนนิสอันดับ 6 ของโลกจากสหรัฐฯ ที่เพิ่งเก็บชัยชนะ 31 แมตช์ติดต่อกันในรอบ 16 คนสุดท้ายเช่นเดียวกัน
Vicky Georgatou ผู้สื่อข่าวชาวกรีก หนึ่งในทีมงานของเว็บไซต์กีฬากรีก SDNA กล่าวถึงการได้เจอกับสเตฟานอสครั้งแรกไว้ว่า เขาคือคนที่จะก้าวขึ้นเป็นนักเทนนิสระดับโลก
“ครั้งแรกที่เจอเขา เรารู้ทันทีว่าเขาจะก้าวขึ้นไปทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เยาวชนส่วนใหญ่ใช้สองมือในการตีแบ็กแฮนด์ แต่ฉันรู้สึกชอบมากที่เขาตีด้วยมือเดียว
“เขาเล่นเทนนิสแบบโอลด์สคูล ตีโฟร์แฮนด์ได้ดีมาก ซึ่งเป็นจุดแข็งของเขา แต่เขายังสามารถเสิร์ฟได้ดี นอกจากนี้ยังมีแบ็กแฮนด์ที่สวยงามและทรงพลังอีกด้วย
“ในบางครั้งสไตล์ของเขาทำให้เรานึกถึงเฟเดอเรอร์ ซึ่งเป็นไอดอลของเขา สเตฟานอสดูเฟเดอเรอร์เล่นเยอะมาก และเห็นได้ชัดว่ามันมีอิทธิพลต่อเขาขนาดไหน”
ความหวังของประเทศกรีกและความมุ่งมั่นที่จะเป็นแรงบันดาลใจ
Photo: @StefTsitsipas
จากผลงานใน 3 รอบแรกจนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดกับโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ช่วยดึงดูดชาวกรีกที่อยู่ในออสเตรเลียเข้ามาโบกธงชาติร่วมเชียร์ดาวรุ่งผู้นี้ให้สร้างประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่อง
สเตฟานอสเติบโตขึ้นในครอบครัวที่ชื่นชอบเทนนิส จูเลีย ซัลนิโควา (Julia Salnikova) แม่ของเขาเคยลงแข่งขันรายการ Fed Cup ให้กับรัสเซีย ขณะที่ พ่อ อพอสโตลอส (Apostolos) เป็นโค้ชให้กับเขาตั้งแต่เขาหยิบไม้เทนนิสครั้งแรกเมื่อวัย 3 ขวบ
วิกกี้ เกรกาตู ยังได้กล่าวถึงประสบการณ์ที่ได้พบเจอกับสเตฟานอสในวัยเด็กว่า “ตั้งแต่สเตฟานอสเป็นเด็ก เขาต้องการที่จะเป็นนักเทนนิสท็อปเท็นของโลกมาตลอด และต้องการเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนกรีกหันมาเล่นเทนนิสมากขึ้น
“กรีซ คือประเทศที่ทุกคนชื่นชอบฟุตบอลและบาสเกตบอลอย่างบ้าคลั่ง สิ่งนั้นคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แต่เราเชื่อว่าสเตฟานอสซึ่งกำลังทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึง มาเรีย ซัคคารี (Maria Sakkari) นักเทนนิสหญิงมือหนึ่งของกรีก จะช่วยผลักดันให้เทนนิสกลายเป็นกีฬาอันดับ 3 ของประเทศได้”
ช่างภาพสมัครเล่น และนัก Vlog อีกหนึ่งชีวิตนอกสนามที่สเตฟานอสชื่นชอบ
นอกเหนือจากการแข่งขันในสนามเทนนิสแล้ว สเตฟานอสยังเป็นช่างภาพสมัครเล่น โดยใช้อินสตาแกรมที่มีช่ือว่า @stevethehawk ที่เขามักจะแชร์ภาพพร้อมกับแคปชันที่ชวนให้ฉุกคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ เช่น
“เมืองนี้ไม่ได้ถูกวัดด้วยความยาวหรือความกว้าง แต่ถูกกำหนดโดยชายแดนของวิสัยทัศน์ และขีดจำกัดของความฝัน” เป็นแคปชันประกอบภาพถ่ายเมืองนิวยอร์ก
นอกเหนือจากการใช้ยูทูบเป็นพื้นที่สำหรับการศึกษาไอดอลในวงการเทนนิสแล้ว สเตฟานอสยังมีช่องยูทูบของตัวเองไว้โพสต์คลิป Vlog แนวท่องเที่ยวจากสถานที่ต่างๆ ที่เขาได้เดินทางไปในเส้นทางการใช้ชีวิตของนักเทนนิสอาชีพทั่วโลก ซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กับไฮไลต์การแข่งขันของเขาเลยทีเดียว
แน่นอนว่าวงการเทนนิสกำลังเข้าสู่ยุคสมัยของความเปลี่ยนแปลง เมื่อนักเทนนิสชั้นนำของโลก ทั้ง โนวัค ยอโควิช, ราฟาเอล นาดาล และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ต่างก็ก้าวข้ามวัยเลข 3 กันไปครบทุกคน รวมถึงแอนดี เมอร์เรย์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเทนนิสชายประเภทเดี่ยว 2 สมัย ที่ประกาศเตรียมอำลาสนามในปีนี้อย่างน่าเสียดายในวัย 31 ปี
ทำให้แฟนๆ กีฬาเทนนิสต่างเฝ้าคอยที่จะมีดาวดวงใหม่ขึ้นประดับวงการ และวันนี้ก็มาถึงช่วงเวลาของรอยต่อแห่งยุคสมัย เมื่อสเตฟานอสกล่าวถึงเฟเดอเรอร์ด้วยความเคารพไว้ว่า “ผมมองเขาเป็นไอดอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบ” และ “วันนี้ฮีโร่ของผมกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญ”
เส้นทางต่อจากนี้สำหรับนักเทนนิสหนุ่มวัย 20 ปี และความท้าทายในเกมต่อไป เขาจะต้องพบกับ ราฟาเอล นาดาล ในรอบรองชนะเลิศ
และหากเขาสามารถผ่านนาดาลไปได้ เขาก็มีโอกาสจะเข้าไปเจอ โนวัค ยอโควิช อีกหนึ่งนักเทนนิสแห่งยุคสมัย ที่เตรียมลงสนามรอบ 8 คนสุดท้ายกับ เคอิ นิชิโคริ จากญี่ปุ่น ซึ่งหากเขาผ่านจุดนั้นไปได้ เราจะได้เห็นตอนจบที่สมบูรณ์แบบสำหรับเทพนิยายกรีกเรื่องนี้ แม้ว่าจะเป็นเพียงปฐมบทก็ตาม
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: