ซีอีโอคนใหม่ ‘Starbucks’ ออกมาเคลื่อนไหวอยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ได้ประกาศวางแผนปรับทิศทางดำเนินธุรกิจใหม่ ทั้งการปรับปรุงหน้าร้านและนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมทัพการบริการ หลังจากผลประกอบการไตรมาส 1 ทุกประเทศทำรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 11%
ถึงกระนั้นยังไม่มีการพูดถึงการกอบกู้ภาพลักษณ์องค์กรที่กำลังฝ่าฟันปัญหาจากสหภาพแรงงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Starbucks แต่งตั้ง ลักซ์แมน นาราซิมฮาน นั่งแท่น CEO คนใหม่อย่างเป็นทางการ มอบโจทย์กู้ภาพลักษณ์องค์กรที่กำลังฝ่าฟันปัญหาสหภาพแรงงาน
- Starbucks ไม่ขอยอมแพ้ในดินแดนต้นกำเนิด ‘เอสเพรสโซ’ ประกาศเปิดตัว ‘กาแฟผสมน้ำมันมะกอก’ หวังเอาใจชาวอิตาลี
- ไม่เรียกล้มเหลวแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ? ล้วงลึกเหตุผลที่ ‘วัฒนธรรมกาแฟเวียดนาม’ ยังไม่ถูกกลืนกินจากยักษ์ใหญ่อย่าง ‘Starbucks’
สำนักข่าว CNN รายงานว่า ในระหว่างรายงานผลประกอบการครั้งแรกในฐานะซีอีโอคนใหม่ของ Starbucks ภายใต้การนำทัพของ ลักซ์แมน นาราซิมฮาน ได้กล่าวกับนักวิเคราะห์เกี่ยวกับผลประกอบการในไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 2 เมษายนว่า ยอดขายของ Starbucks ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 11% ทั่วโลก ขณะที่สาขาในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นกว่า 12%
หลักๆ มาจากกลยุทธ์การบริการและเมนูเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเมนูกาแฟผสมน้ำมันมะกอกที่เกิดจากแนวคิดของ โฮเวิร์ด ชูลท์ซ ซีอีโอคนเก่า ซึ่งจากเดิมมีจำหน่ายแค่ในอิตาลี แต่ตอนนี้ได้ขยายไปในร้านค้า 650 แห่งในญี่ปุ่นและอเมริกา และจากนี้มีแผนที่จะนำเมนูดังกล่าวขยายไปในประเทศอื่นๆ มากขึ้น
เรียกว่าได้รับการตอบรับอย่างมากจนทำให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทคาดการณ์เอาไว้
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจต่อจากนี้จะมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาสาขา ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยเสริมกระบวนการทำงานหน้าร้าน พร้อมกับบริการจัดการสต็อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
“เรารู้ดีว่าการพัฒนาและปรับปรุงแบรนด์มีความจำเป็นอย่างมากในการทำธุรกิจ เพื่อรองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว” ลักซ์แมน นาราซิมฮาน กล่าว
แม้ทิศทางขององค์กรจะเริ่มมีสัญญาณที่ดี แต่ ราเชล รุกเจรี ซีเอฟโอของ Starbucks ออกมาเตือนว่า การเติบโตของกำไรต่อหุ้นในไตรมาสปัจจุบันจะต่ำกว่าช่วงการเปิดปีงบประมาณอยู่ที่ 15-20% อย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่หลายคนต่างจับตาดูว่า ทำไม ลักซ์แมน นาราซิมฮาน ไม่กล่าวถึงปัญหาสหภาพแรงงานที่กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ขององค์กร
หากย้อนไปในเดือนธันวาคม 2021 Starbucks ประมาณ 300 สาขา ได้ลงคะแนนเสียงให้จัดตั้งสหภาพแรงงาน แต่ก็ยังไม่เป็นผล เพราะยังเป็นจำนวนที่ค่อนข้างน้อยถ้าเทียบกับสาขาทั้งหมดในอเมริกาที่มีประมาณ 9,300 แห่ง
ไมเคิล โรซัส ผู้พิพากษากฎหมายบริหารของ NLRB กล่าวว่า Starbucks ประพฤติผิดอย่างร้ายแรงในการเจรจากับพนักงานที่เกี่ยวกับการรวมสหภาพ แต่ Starbucks ก็ออกมาตอบโต้ทันทีว่ากำลังอยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อรับการตรวจสอบทางกฎหมายเพิ่มเติม
ขณะที่ฝั่งนักลงทุนของ Starbucks ได้ลงมติสนับสนุนให้มีการทบทวนการต่อต้านสหภาพแรงงานของบริษัท ทำให้ทุกคนเริ่มคาดหวังให้ซีอีโอคนใหม่เปิดโอกาสเพื่อทำการเจรจามากขึ้น แต่ในแถลงการณ์ผลประกอบการกลับไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน ถึงแม้จะมีการพูดถึงความสำคัญของพนักงานก็ตาม
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ยังถามเกี่ยวกับการจัดหาพนักงาน ‘ลักซ์แมน นาราซิมฮาน’ ระบุว่า Starbucks ยังคงเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกระดับ
อ้างอิง: