×

Standard Chartered คาดราคา Bitcoin พุ่งแตะ 2.5 แสนดอลลาร์ ในปี 2025 หลังเหตุการณ์ Halving ที่จะเกิดขึ้น 15 เม.ย. นี้

20.03.2024
  • LOADING...

Bitcoin Halving ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญในตลาดคริปโต และเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลต่ออุปทานของสินทรัพย์ดิจิทัลหลักอย่าง Bitcoin (BTC) จากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา ราคาของ BTC ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทุกครั้งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเหตุการณ์ Bitcoin Halving ครั้งต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นวันที่ 15 เมษายน 2024 จะส่งผลอย่างไรต่อราคา BTC ในอนาคต

 

เหตุการณ์ Bitcoin Halving คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร?

 

ทุกๆ 4 ปี จำนวน Bitcoin ใหม่ที่ถูกขุดขึ้นมาได้ต่อบล็อกจะลดลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งเราเรียกว่าเหตุการณ์ Halving หลังจาก Bitcoin ถูกสร้างขึ้นในปี 2008 รางวัลจากการขุดแต่ละบล็อกจะอยู่ที่ 50 BTC และ 4 ปีต่อมาในเหตุการณ์ Halving ครั้งแรก ผลตอบแทนลดลงอยู่ที่ 25 BTC และลดลงเหลือ 12.5 BTC ในเหตุการณ์ Halving ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2016 และอยู่ที่ล่าสุด 6.25 BTC เมื่อปี 2020

 

เหตุการณ์ Halving ครั้งต่อไป ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 น่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 เมษายน 2024 จะเป็นการที่จำนวน BTC ที่สร้างขึ้นใหม่ในแต่ละบล็อกจะลดลงจาก 6.25 BTC เหลือครึ่งหนึ่งที่ 3.125 BTC สำหรับการตรวจสอบบล็อกของธุรกรรม รางวัลที่ได้จากการขุดแต่ละบล็อกจะลดลงครึ่งหนึ่งแบบนี้ทุกๆ 4 ปี และจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะมีการขุด Bitcoin ครบทั้งหมด 21 ล้าน BTC ด้วยเหตุนี้ การขุด Bitcoin จึงยากมากขึ้นเรื่อยๆ และมักจะส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นหลังจากเหตุการณ์นี้ แม้ว่าผลตอบแทนในอดีตจะไม่รับประกันผลลัพธ์ในอนาคตก็ตาม

 

Bitcoin Halving ส่งผลต่อราคา Bitcoin อย่างไร

 

จนถึงขณะนี้เหตุการณ์ที่เรียกว่า Bitcoin Halving เคยเกิดขึ้นเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าเป็นการยากที่จะสรุปว่า BTC มีแนวโน้มที่จะดำเนินการก่อนและหลังการลดลงครึ่งหนึ่งอย่างไร

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้จากเหตุการณ์ Halving แต่ละรอบที่ผ่านมาคือ ราคาของ BTC จะปรับตัวขึ้นได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

 

สำหรับรอบที่ผ่านมาเมื่อปี 2020 ช่วงเวลา 1 เดือนก่อนที่จะถึง Halving ราคา Bitcoin จะปรับตัวลดลง และปรับตัวสูงขึ้นจนทำจุดสูงสุดใหม่ (All Time High) หลังจากที่ผ่านเหตุการณ์ Halving ไปแล้ว เนื่องจากเหรียญที่ถูกขุดออกมาน้อยลง ทำให้นักลงทุนมองว่าเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้เกิด ‘ตลาดกระทิง’ ราคา BTC เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 35.8% ในเวลาเพียง 3 เดือนหลังจากเหตุการณ์ Halving

 

ทางด้าน CoinCodex คาดการณ์ว่าราคา Bitcoin จะซื้อขายที่ประมาณ 74,600 ดอลลาร์ ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2024 ซึ่งเป็นช่วง 1 เดือนหลังจาก Halving ครั้งต่อไป และ 3 เดือนถัดจากนั้นคาดว่า Bitcoin จะขยับขึ้นไปซื้อขายที่ประมาณ 83,150 ดอลลาร์

 

เหตุการณ์ Bitcoin Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นครั้งนี้มีตัวกระตุ้นสำคัญที่พร้อมจะเติมความต้องการของตลาดได้ เนื่องจากปัจจุบันกองทุน Spot Bitcoin ETF เข้าซื้อสกุลเงินดิจิทัลหลักประมาณ 2,450 BTC ในแต่ละวัน ขณะที่มีการขุดเพียง 900 BTC ต่อวันเท่านั้น และหลังจาก Halving ในช่วงเดือนเมษายน ตัวเลขการขุด Bitcoin ต่อวันจะลดลงเหลือเพียง 450 BTC

 

นักวิเคราะห์มองว่าอุปสงค์ที่สูงกว่าอุปทานมากถึง 5 เท่าอาจนำไปสู่วิกฤต Supply Shock ซึ่งหากอุปสงค์ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสิ่งนี้จะทำให้ราคา BTC พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

 

Standard Chartered คาดราคา Bitcoin แตะ 2.5 แสนดอลลาร์

 

Standard Chartered สถาบันการเงินชั้นนำของโลก ปรับเป้าหมายราคา Bitcoin ขึ้นใหม่ ประเมินว่ามีโอกาสพุ่งแตะ 1.5 แสนดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2024 จากที่ก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์ไว้ที่ 1.2 แสนดอลลาร์

 

ไม่เพียงเท่านั้น Standard Chartered ยังมองต่อไปอีกว่าภายในสิ้นปี 2025 ราคา Bitcoin มีโอกาสพุ่งแตะ 2.5 แสนดอลลาร์

 

ปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนให้ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงมาจากกองทุน Bitcoin Spot ETF ที่ทำให้มีเงินไหลเข้า Bitcoin ต่อเนื่อง และเหตุการณ์ Halving ที่ทำให้อุปทานลดลง ซึ่งมีโอกาสทำให้ราคาสินทรัพย์ดังกล่าวขึ้นอย่างรุนแรงได้

 

Geoffrey Kendrick หนึ่งในนักวิเคราะห์ของ Standard Chartered มองว่า Bitcoin มีความคล้ายคลึงกับทองคำ จึงได้นำเป้าหมายราคาของ Bitcoin มาเทียบกับเหตุการณ์ตอนเกิดขึ้นของกองทุน ETF ของทองคำในยุคก่อนหน้า ซึ่งมีส่วนช่วยให้ราคาทองคำปรับตัวมาถึงจุดปัจจุบัน

 

สำหรับพอร์ตการลงทุนใดๆ ของนักลงทุนที่ต้องการจะถือครอง 2 สินทรัพย์ คือ Bitcoin และทองคำ Geoffrey แนะให้แบ่งสัดส่วนการถือ 80% ไว้ที่ทองคำ ในขณะที่อีก 20% ไปถือ Bitcoin แต่การจะยึดตามสัดส่วนดังกล่าวไว้เช่นเดิมจำเป็นที่ราคา Bitcoin จะต้องเพิ่มขึ้นไปแตะ 190,000 ดอลลาร์

 

ด้าน Richard Teng ซีอีโอของ Binance กล่าวในเชิงบวกต่อราคา Bitcoin เช่นกันว่า ปัจจุบัน ‘ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของตลาดคริปโต’ พร้อมกับให้มุมมองส่วนตัวว่าเราอาจจะเห็นราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นไปสูงกว่า 80,000 ดอลลาร์

 

แต่ทั้งนี้ Richard ก็ได้ให้มุมมองไว้ว่า การปรับตัวขึ้นจะไม่ได้เป็นเส้นตรง แต่จะมีทั้งช่วงขาขึ้นและลง ซึ่งจะเป็นภาวะที่ดีต่อ Bitcoin อยู่เช่นกัน

 

Bitcoin กำลังถูกถล่มขายก่อน Halving

 

นับตั้งแต่ต้นปีมานี้ ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นมากว่า 56% จนแตะจุดสูงสุดถึง 73,798 ดอลลาร์ จนทำให้นักลงทุนหลายคนกังวลว่านี้อาจเป็นฟองสบู่หรือไม่ และมีการขายทำกำไรจนทำให้ Bitcoin เกิดความผันผวนและปรับตัวลงแรงได้

 

ล่าสุดราคา Bitcoin ร่วงลงมาแตะ 60,000 ดอลลาร์ ลดลงมาเกือบ 20% จากจุดสูงสุด

 

Peter Schiff นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ Bitcoin อยู่บ่อยครั้ง ได้เปิดเผยผ่านบัญชี X ส่วนตัวว่า “จำได้ไหมเมื่อปี 2021 บรรดาผู้ที่เรียกตัวเองว่า HODLer ต่างคาดหวังว่าราคา Bitcoin จะไปได้สูงกว่านั้น ในขณะที่ราคาซื้อขายกันอยู่ที่ 69,000 ดอลลาร์ แต่ในอีก 1 ปีถัดมา ราคาของมันดิ่งลงกว่า 80% มาซื้อขายต่ำกว่า 16,000 ดอลลาร์เท่านั้น ครั้งนี้ที่ผู้คนยิ่งมองบวกกว่าเดิม จะนำไปสู่การดิ่งลงอย่างรุนแรงมากกว่าครั้งก่อน”

 

นอกจากนี้ Peter ได้เปิดเผยอีกว่า ยิ่งมีกองทุน ETF เข้าไปถือ Bitcoin มากเท่าไร Bitcoin ยิ่งเปราะบางมากยิ่งขึ้นและมีความเสี่ยงที่จะล้มลง เพราะนักลงทุนที่เข้ามาซื้อ ETF นั้นมักจะเป็นนักเก็งกำไรมากกว่าผู้ที่เชื่อมั่นใน Bitcoin ซึ่งเมื่อราคา Bitcoin พุ่งขึ้น พวกเขาเหล่านั้นก็จะเกาะไปด้วย แต่ถ้าหากตลาดกลับเป็นขาลง พวกเขาก็จะเทขายทันที

 

อ้างอิง:

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising