วันนี้ (21 ธันวาคม) นิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ผู้ว่าฯ รฟท.) แถลงข่าวแนวทางการเดินรถเข้าสู่สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือสถานีหัวลำโพง ในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ หลังวานนี้ (20 ธันวาคม) ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ให้หัวลำโพงยังมีขบวนรถเข้าสถานีเป็นปกติไปก่อน หลังก่อนหน้านี้มีแนวทางการลดขบวนรถเข้าหัวลำโพงเหลือ 22 ขบวน เพื่อทำการเช็กลิสต์ 4 ด้าน และทำแผนแอ็กชันแพลนต่อไป
นิรุฒกล่าวว่า การเช็กลิสต์นี้ รฟท. จะดำเนินการร่วมกับหลายหน่วยงานทั้งกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางราง สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ( สนข.) และนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาต่างๆ โดยจะเช็กลิสต์ใน 4 ประเด็นคือ
- ประเด็นเรื่องการปรับเปลี่ยนรถไฟทางไกลไปใช้สถานีกลางบางซื่อ มีผลกระทบ แก่ผู้ใช้บริการ และจะแก้ปัญหาอย่างไร
- ประเด็นที่เกี่ยวกับรถเชิงพาณิชย์ที่ควรมาใช้สถานีกลางบางซื่อ เพราะในอนาคต จะเป็นจุดเชื่อมต่อไปโครงการสำคัญอื่น เช่น โครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน, ไฮสปีดไทย-จีน และรถไฟชานเมืองสายสีแดง
- ประเด็นรถเชิงสังคม 40 ขบวนควรเหลือกี่ขบวน ปรับเวลาเดินรถ มีระบบอื่นมาแทนอย่างไรหากหยุดเดินรถเหล่านี้ไป
- การเร่งประชาสัมพันธ์ให้เกิดความเข้าใจ เพราะขณะนี้วิธีประชาสัมพันธ์มีประเด็นที่ซับซ้อนมากขึ้น หลายมิติ จะต้องสร้างความรับรู้ให้ทั่วถึง
เบื้องต้นจะทำเช็กลิสต์ให้เสร็จใน 30 วัน หรือในเดือนมกราคม 2565 ก่อนจัดทำแอ็กชันแพลนให้มีความชัดเจน คำนึงประโยชน์และฟังเสียงประชาชน เปิดช่องทางรับฟังให้กว้างขึ้น
ส่วนการเดินรถไฟในวันที่ 23 ธันวาคม 2564 จะยังเป็นไปตามปกติ คือจะยังมีรถเชิงสังคม 40 ขบวน เชิงพาณิชย์ 40 ขบวน รวมวันละ 80 ขบวน และมีขบวนรถท่องเที่ยวเดินรถวันเสาร์-อาทิตย์อีก 6 ขบวน ซึ่งเป็นจำนวนขบวนรถที่เดินรถในช่วงสถานการณ์โควิด
นิรุฒยังกล่าวถึงประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า การที่มีการเร่งรัดขบวนรถเข้าหัวลำโพง เป็นการทำเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทุนหรือ ‘เจ้าสัว’ ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันว่าไม่มีมูลความจริง และการพูดในลักษณะดังกล่าวทำให้ รฟท. เสียหาย ส่วนจะมีการดำเนินคดีฟ้องร้องกับผู้ที่ยังไม่หยุดใส่ร้ายเรื่องดังกล่าวหรือไม่นั้น จะพิจารณาในข้อกฎหมายต่อไป
ส่วนแนวทางการพัฒนาพื้นที่หัวลำโพงในอนาคตนั้น นิรุฒระบุว่าทิศทางจะเป็นอย่างไรนั้น ในอนาคตจะมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นอีกครั้ง รวมทั้งจะรอให้การทำเช็กลิสต์เกี่ยวกับการเดินรถเสร็จสิ้นก่อน เพื่อนำข้อมูลมาประมวลรวมกันอีกครั้ง
อ้างอิง: