วันนี้ (3 กันยายน) โกตาบายา ราชปักษา อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา ได้เดินทางกลับประเทศแล้ว หลังจากที่ต้องลี้ภัยออกนอกศรีลังกานานถึง 7 สัปดาห์
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ราชปักษาได้เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติบันดารานายาเกในช่วงเช้าวันนี้ โดยมีสมาชิกพรรคศรีลังกา โพดูจานา เปรามูนา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลมาต้อนรับ ก่อนจะเดินทางออกจากสนามบินด้วยขบวนรถที่มีการคุ้มกันอย่างแน่นหนาจากทหารติดอาวุธ
ราชปักษาพร้อมด้วยภรรยาได้ลี้ภัยออกจากศรีลังกาตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังประชาชนลุกฮือประท้วงใหญ่ ท่ามกลางกระแสความโกรธแค้นรัฐบาลที่ล้มเหลวในการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรงของประเทศ โดยที่ผ่านมาราชปักษาได้ลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างมัลดีฟส์ ก่อนที่จะเดินทางมายังสิงคโปร์ และไทย
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีเปิดเผยว่า ราชปักษาจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านพักของทางการในกรุงโคลัมโบ โดยมีทีมรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา
ซันจีวา เอดิริมันนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และโฆษกพรรคศรีลังกา โพดูจานา เปรามูนา กล่าวว่า “เราไม่ได้ร้องขอให้พาราชปักษากลับมา เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะกลับมาอยู่แล้ว สิ่งที่เราหารือกันก่อนหน้านี้คือการให้ความคุ้มครองพิเศษแก่เขา ไม่ว่าตอนนี้เขาจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีหรือไม่ เขาก็มีสิทธิ์ได้รับการรักษาความปลอดภัยในฐานะอดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม”
อมิลา จีวันธา เพียริส บาทหลวงชาวศรีลังกาผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ราชปักษาลาออกจากตำแหน่ง กล่าวว่า การเดินทางกลับประเทศของอดีตผู้นำในครั้งนี้เป็นการกระทำที่น่าละอาย อย่างไรก็ตาม เขามองว่าประชาชนไม่น่าจะลุกฮือประท้วงใหญ่ แต่ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะสร้างความตึงเครียดมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน เพราะถึงแม้จะไม่มีตำแหน่งทางการเมืองแล้ว แต่ประชาชนยังคงมองว่าราชปักษาคือหนึ่งในบุคคลที่ต้องรับผิดชอบต่อวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศ ซึ่งยังคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าสถานการณ์ทางการเมืองในศรีลังกาต่อจากนี้จะเป็นไปในทิศทางใด
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของศรีลังกาเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 ซึ่งในขณะนั้นรัฐบาลกล่าวโทษว่าเป็นเพราะโควิดระบาดจนทำให้ขาดรายได้จากภาคการท่องเที่ยว แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่พาให้ศรีลังกามาอยู่จุดนี้ได้หลักๆ คือปัญหาจากการบริหารจัดการเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของรัฐบาล รวมถึงหนี้สินต่างประเทศ โดยเฉพาะการก่อหนี้กับจีน
แฟ้มภาพ: Ishara S. Kodikara / AFP
อ้างอิง: