รัฐบาลศรีลังกาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศในวันนี้ (6 มี.ค.) พร้อมส่งหน่วยคอมมานโดติดอาวุธหนักลงพื้นที่เมืองแคนดี้เพื่อฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย หลังเกิดเหตุจลาจลที่มีชนวนจากความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิม ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนและร้านค้าของชาวมุสลิมถูกเผาทำลายเป็นจำนวนมาก
ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลท้องถิ่นในเมืองแคนดี้ได้ประกาศภาวะเคอร์ฟิวเมื่อวานนี้ สืบเนื่องจากเหตุความไม่สงบในชุมชนศาสนา หลังชายชาวสิงหลคนหนึ่งเสียชีวิตกลางกลุ่มผู้ชุมนุมชาวมุสลิมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้ชาวพุทธไม่พอใจและลุกฮือขึ้นทำลายทรัพย์สินเพื่อแก้แค้น โดยมีการเผาบ้านเรือน ร้านค้า และมัสยิดของชาวมุสลิมหลายแห่งจนเสียหาย
ขณะที่ตำรวจศรีลังกาเปิดเผยว่า พบศพชาวมุสลิมคนหนึ่งในกองเถ้าถ่านภายในอาคารที่ถูกเผาวอดทั้งหลัง
ทั้งนี้ชาวสิงหลเป็นชนชาตินับถือศาสนาพุทธที่มีจำนวนมากถึง 75% ของประชากรทั้งประเทศ ขณะที่ชาวมุสลิมมีจำนวนเพียง 10%
ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยจู่โจมจากกองกำลังพิเศษหลายร้อยนาย เข้ายุติเหตุรุนแรงในเมืองแคนดี้แล้ว โดยมีการจับกุมผู้ก่อความไม่สงบหลายสิบคน
ความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธและชาวมุสลิมในศรีลังกาเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกมานาน โดยเหตุปะทะครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งมีผู้บาดเจ็บ 5 คน และมีการเผาทำลายร้านค้าและมัสยิดของชาวมุสลิมหลายแห่ง
ในเดือนมิถุนายน 2014 กลุ่มชาวพุทธชาตินิยมสุดโต่งได้ปลุกกระแสต่อต้านชาวมุสลิม สืบเนื่องจากเหตุจลาจลนองเลือดในอรุธกามา โดยพวกเขากล่าวหาชาวมุสลิมว่าพยายามโน้มน้าวชาวพุทธให้หันมานับถือศาสนาอิสลาม อีกทั้งบ่อนทำลายพุทธศาสนสถานอีกด้วย
ประธานาธิบดี ไมตรีพาลา สิริเสนา เคยให้คำมั่นหลังเข้ารับตำแหน่งในปี 2015 ว่า จะสอบสวนคดีอาชญากรรมที่เกิดจากกระแสจงเกลียดจงชังชาวมุสลิม เพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมาย แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าที่สำคัญ
อ้างอิง: