×

เลือกตั้ง 2566 : เศรษฐานำทีมเพื่อไทยแจงนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทต่อคน ปั๊มหัวใจเศรษฐกิจ ไม่ใช่หยอดข้าวต้ม-ยื่นความตาย

โดย THE STANDARD TEAM
07.04.2023
  • LOADING...
พรรคเพื่อไทย

วันนี้ (7 เมษายน) เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบาย พรรคเพื่อไทย และประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย, ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และกรรมการ เลขานุการ และโฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย แถลงถึงนโยบายแจกเงินประชาชนในดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท 

 

เศรษฐากล่าวว่า หลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้แถลงนโยบายเมื่อวันพุธที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา หนึ่งในนโยบายคือ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีเสียงตอบรับและมีคำถามมากมายในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยบอบช้ำเป็นอย่างมาก รวมทั้งภาคเศรษฐกิจ พี่น้องประชาชนมีรายได้ลดลง รายจ่ายเพิ่มขึ้นอยู่ในภาวะซึมลึก ซึมยาว ซึมนาน รัฐบาลปัจจุบันค่อยๆ หยอดน้ำข้าวต้มมาเรื่อยๆ ด้วยจำนวนเงินเล็กน้อย ซึ่งในทางเศรษฐศาสตร์ถือว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง ไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 

 

พรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำเป็น จึงมีนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท สำหรับประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปภายใน 6 เดือน เพราะต้องการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในท้องถิ่น ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างบล็อกเชน ซึ่งสามารถระบุวิธีการใช้เงินว่าจะนำไปใช้จ่ายอะไรได้บ้าง ไม่สามารถใช้ในพื้นที่นอกบัตรประชาชนได้ และจะจำกัดไม่ให้ใช้ในรูปแบบอื่นที่ไม่เหมาะสม เช่น ใช้ในการพนัน ใช้หนี้นอกระบบ  

 

นอกจากนี้อาจจะมีการพิจารณาข้อจำกัดอื่นเพิ่มเติม เช่น การขยายระยะทางในการใช้ดิจิทัลวอลเล็ตในพื้นที่ห่างไกล เช่น 6.5-7.5 กิโลเมตร การใช้หนี้สถาบันการเงิน โดยจะลงพื้นที่ไปพบปะพูดคุยกับประชาชนเพื่อสอบถามถึงความต้องการที่แท้จริงเพิ่มเติมด้วย 

 

ส่วนข้อสอบถามของนักเศรษฐศาสตร์ว่า ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นนโยบายประชานิยมสุดขั้วนั้น เศรษฐายืนยันว่าเศรษฐกิจดิจิทัลจะทำให้ประเทศไทยก้าวมาสู่แนวหน้าระดับโลกได้ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทเป็นการกระตุกเศรษฐกิจให้คนไข้ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาฟื้น ลุกขึ้นมายืนได้ และจะช่วยให้สามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น รวมกับการจัดสรรงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2567 ภาษี VAT ภาษีนิติบุคคล 20% จากกำไรของบริษัทต่างๆ ภาษีจากภาคธุรกิจ และการใช้งบประมาณสวัสดิการจากภาครัฐที่จะลดน้อยลงไป  

 

ส่วนข้อกังวลว่าการที่รัฐบาลให้เงิน เป็นการตอกย้ำความจน เป็นการมองว่าคนไทยเป็นยาจกหรือไม่ เศรษฐายืนยันว่า เป็นการช่วยเหลือประชาชน และไม่เคยมองประชาชนเป็นยาจก เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย ช่วยคนให้หลุดพ้นหลุมดำจากความยากจน ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการจุดสตาร์ทให้ประชาชนลุกขึ้นเดินมาทำมาหากินอีกครั้ง และหากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ได้จัดตั้งรัฐบาล คาดว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตจะดำเนินการทันทีในวันที่ 1 มกราคม 2567 

 

“คำถามของนักวิชาการว่าเป็นประชานิยมสุดโต่งนั้น  ผมไม่อยากใช้คำว่าประชานิยมสุดโต่ง แต่เป็นความจำเป็น เป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ นอกจากนี้นโยบายนี้แล้วยังมีนโยบายอื่นๆ อีกมากมาย เช่น พักหนี้เกษตรกร 3 ปี การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน รายได้เกษตรกรเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปี GDP จะโตเฉลี่ย 5%” เศรษฐากล่าว

 

ขณะที่ นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า เจตนารมณ์และจุดยืนของพรรคเพื่อไทย คือต้องการได้อำนาจรัฐเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ประกาศเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 มาตรการของพรรคเพื่อไทยที่ได้ทยอยประกาศออกมา ตั้งแต่เรื่องรายได้ขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินเดือนผู้ที่จบปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน ภาคการเกษตรซึ่งมีประชากร 40% ของประเทศจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปี ทั้งหมดนี้เป็นเป้าหมายที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น โดยพรรคเพื่อไทยยืนยันว่าจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% ด้านภาคธุรกิจและภาคบริการ พรรคเพื่อไทยจะกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยจะเปิดประตูรองรับการท่องเที่ยว เพื่อนำเม็ดเงินเข้าประเทศ เช่น โครงการ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ที่จะเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ตั้งเป้า 200,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี และอื่นๆ อีกมากมาย

 

“ที่ผ่านมา ประเทศไทยถูกทอดทิ้งจนถดถอยและล้าหลังในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลอ้างว่าเรื่องของโควิด แต่หลังสถานการณ์โควิดผ่านพ้นไปแล้ว เศรษฐกิจของประเทศไทยยังอยู่อันดับท้ายของอาเซียน ค่าใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้น แต่รายได้ไม่เพียงพอ เราไม่อยากหยอดน้ำข้าวต้มเพื่อยื่นความตาย เราจึงต้องปั๊มหัวใจให้ฟื้นมาอย่างรวดเร็วและแข็งแรง” นพ.พรหมินทร์กล่าว

 

นพ.พรหมินทร์กล่าวต่อไปว่า สำหรับมาตรการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นมาตรการระยะสั้น เพื่อรีบปลุกพละกำลังของคนไทยให้ฟื้นขึ้น มีนักเศรษฐศาสตร์บอกว่าเป็นการกระตุ้นการบริโภคซึ่งอาจจะไม่ถูกทาง ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในภาคการเกษตรถือว่ามีความหมายมาก เพราะสามารถทำมาหากินในแปลงเกษตรกรรมได้ และในระหว่าง 6 เดือน จะมีมาตรการรองรับมาตรการนี้เป็นมาตรการระยะสั้น เพื่อปลุกเร้าให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและแข่งขันกับต่างประเทศได้

 

ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทจะเป็นการสัญญาว่าจะให้หรือไม่นั้น ตนยืนยันว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต คนไทยทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปจะได้รับ ไม่ได้ให้เป็นการเฉพาะเจาะจง เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาประเทศไทยถอยหลังไปมาก มีค่าใช้จ่ายสูง คนไทยเกือบจมน้ำ ดิจิทัลวอลเล็ตคือห่วงชูชีพที่จะช่วยให้ประชาชนสามารถว่ายน้ำต่อไปได้ ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจบทที่ 1 เท่านั้น เมื่อรวมเข้ากับมาตรการอื่นๆ ของพรรคเพื่อไทย จะช่วยทำให้พี่น้องประชาชนสามารถยืนบนลำแข้งของตัวเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี

 

สำหรับข้อห่วงใยเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณในนโยบายดังกล่าวนั้น ยืนยันว่ามาจากการประเมินของหน่วยงานของรัฐ ที่คาดว่าจะมีการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 2.6 แสนล้านบาท และมาจากภาษีต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณแสนกว่าล้านบาท รวมทั้งงบประมาณจากโครงการต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว พรรคเพื่อไทยมีนักบริหารที่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศมาแล้ว การใช้งบประมาณทั้งหมดภายใต้กรอบที่เสนอไป จะมี ดร.เผ่าภูมิ ดูแลร่วมกับ รศ.ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ภายใต้งบประมาณที่มีเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงขึ้น ยืนยันว่าประชาชนจะได้งานและได้เงินที่ดีกว่า


“ตอนนี้เหมือนประเทศไทยเป็นรถเฟอร์รารี แต่ให้คนขับเกวียนมาขับ มันไปไม่ได้ ต่อไปนี้คนขับรถแข่งจะมาขับเอง” นพ.พรหมินทร์กล่าวในที่สุด 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising