Netflix ต่อยอดความสำเร็จ Squid Game ซีรีส์ยอดฮิตจากเกาหลีใต้ที่เคยสร้างมูลค่าถึง 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดันอุตสาหกรรม K-Entertainment สู่เวทีโลก และหลังเปิดตัวอย่างซีซัน 2 กลายเป็นวิดีโอที่มียอดชมสูงสุดอันดับ 1 บน YouTube
ใกล้เข้ามาแล้วกับการเปิดตัวซีรีส์ยอดฮิตจากเกาหลีใต้ที่เคยสร้างสถิติระดับโลกอย่าง Squid Game ซีซันแรก ทำลายสถิติซีรีส์ที่มียอดผู้ชมมากกว่า 132 ล้านคนทั่วโลก สร้างมูลค่าถึง 900 ล้านดอลลาร์ ล่าสุดเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 26 ธันวาคม 2024 หรือ Boxing Day ของ Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ระดับโลก
เรียกได้ว่าสร้างความตื่นเต้นให้กับฐานแฟนเป็นอย่างมาก แต่การกลับมาครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องราวในซีรีส์ที่น่าติดตามเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การเมืองในเกาหลีใต้ที่กำลังตึงเครียดกันอยู่ตอนนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Netflix ฝ่าวิกฤตสตรีมมิ่ง รายได้โตโดย ‘ไม่ขึ้นราคา’ แต่จะคุมได้อีกนานแค่ไหน?
- Netflix สุดปัง! ยอดผู้ใช้แพ็กเกจราคาถูกพร้อมโฆษณาพุ่งทะลุ 40 ล้านราย ทิ้งห่างคู่แข่ง แถมไม่ง้อ Microsoft! เปิดตัวแพลตฟอร์มโฆษณาเอง
- Netflix พลิกวิกฤต! งัดไม้ตาย ‘แบนแชร์รหัสผ่าน’ ดันสมาชิกใหม่ทั่วโลกเพิ่มถล่มทลายกว่า 9.33 ล้านราย
หลังจากชาวเกาหลีใต้จำนวนมากชุมนุมเรียกร้องให้ ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ลาออกจากตำแหน่ง แม้ยุนจะออกมาขอโทษและให้คำมั่นว่าเขาจะไม่ ประกาศกฎอัยการศึกเป็นครั้งที่ 2 โดยสมาชิกพรรคฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติถอดถอนยุน และรัฐสภาลงมติถอดถอนประธานาธิบดียุนซอกยอลออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา
แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้กระทบต่อแวดวงอุตสาหกรรมบันเทิงที่มีมูลค่าหลายล้าน ดอลลาร์สหรัฐได้ สิ่งที่น่าสนใจของ Squid Game ซีซันใหม่นี้ กำกับโดย ฮวังดงฮยอก ยังคงคอนเซปต์ระทึกขวัญแนวดิสโทเปียที่แฝงข้อคิดเกี่ยวกับสังคม ซึ่งเริ่มต้นจากการเปิดรับผู้สมัครคนที่ถูกครหาว่าเป็นขยะสังคมในเกาหลีใต้ เช่น นักต้มตุ๋น คนโกง คนล้มเหลวในชีวิต และหัวขโมย แล้วชวนมาเข้าร่วมเกม โดยผู้เล่นจะต้องเผชิญกับ 2 ทางเลือก คือ ชนะแล้วรับเงินรางวัลมหาศาล และหากแพ้ต้องแลกด้วยชีวิต
ทั้งนี้ ยังมี ซองกีฮุน กลับมารับบทบาทนักแสดงหลักในเกมสุดโหดและสวมชุดวอร์มสีเขียวของผู้เล่นหมายเลข 456 อีกครั้ง เพื่อเข้าร่วมเกมแห่งความตายนี้ใหม่ หลังจากตอนจบซีซันแรกที่ซองกีฮุนเป็นผู้รอดชีวิตคนเดียวจากเกมสุดโหด พร้อมคว้ารางวัลมูลค่า 4.56 หมื่นล้านวอน (ประมาณ 31.8 ล้านดอลลาร์)
นอกจากตัวละครหลักแล้ว Squid Game 2 ยังจะมีการกลับมาของหลายตัวละคร เช่น ฟรอนต์แมน รับบทโดย อีบยองฮอน ผู้นำของเจ้าหน้าที่สวมหน้ากากที่อยู่เบื้องหลังเกม ตามด้วย ฮวังจุนโฮ รับบทโดย วีฮาจุน นักสืบที่แอบเข้าไปในเกมเพื่อตามหาพี่ชาย และ รีครูทเตอร์ รับบทโดย กงยู ชายลึกลับที่เป็นผู้เชิญชวนกีฮุนให้เข้าร่วมเกมตั้งแต่ซีซันแรก
คาดว่ากระแสความนิยมจะดีขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากหลังเปิดตัวอย่างหลักของซีซัน 2 ก็กลายเป็นวิดีโอที่มียอดชมสูงสุดของ Netflix ในปี 2024 อย่างรวดเร็ว และกลายเป็นวิดีโอที่มีคนพูดถึงมากที่สุดอันดับ 1 บน YouTube ทั่วโลก และยังทำให้ยอดการรับชมซีซัน 1 เพิ่มขึ้นถึง 60%
ฮวังดงฮยอก ผู้กำกับ Squid Game กล่าวว่า Squid Game 2 สะท้อนให้เห็นหลายมุมมองของวิกฤตต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่เกาหลีใต้ โดยผู้ที่ประกาศกฎอัยการศึกต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อให้ประเทศกลับมามีศักยภาพอีกครั้ง
หากย้อนไปในช่วงที่ทำ Squid Game 1 เราใช้เวลากว่า 12 ปีในการสร้างและผลิต แต่หลังเปิดตัวบน Netflix ในปี 2021 ใช้เวลาเพียง 12 วันซีรีส์เรื่องนี้ก็กลายเป็นผลงานที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยมียอดรับชมมากถึง 330 ล้านวิว รวมเวลาชมกว่า 2.8 พันล้านชั่วโมง) ส่งผลให้วงการบันเทิงเกาหลี หรือ K-Entertainment ตอกย้ำความสำเร็จบนเวทีระดับโลกได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญยังกลายเป็นซีรีส์เกาหลีใต้เรื่องแรกที่ขึ้นอันดับ 1 ในตลาดอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงที่สุด และติดอันดับ Top 10 ของซีรีส์ที่มีผู้ชมมากที่สุดใน 94 ประเทศทั่วโลก ถือเป็นความสำเร็จสูงสุดของวงการบันเทิงเกาหลีใต้นับตั้งแต่เพลง GANGNAM STYLE ของ PSY ศิลปินเกาหลีใต้ที่ทำสถิติมิวสิกวิดีโอแรกของ YouTube ที่มีผู้ชมถึง 1 พันล้านวิวในปี 2012
ด้าน ดอน คัง รองประธานฝ่ายเนื้อหาของ Netflix เกาหลีใต้ กล่าวต่อไปว่า ความสำเร็จของ Squid Game แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาซีรีส์ให้สำเร็จได้นั้นไม่มีสูตรสำเร็จ แต่จากที่ Netflix เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2021 มีกระแสภาพยนตร์และซีรีส์เกาหลีใต้ติดอันดับในรายการของ Netflix และสมาชิกกว่า 80% ทั่วโลกชมซีรีส์จากเกาหลีใต้
นอกจาก Squid Game ซีรีส์เกาหลีใต้ที่ได้รับความนิยมสูงสุดอันดับ 2 บน Netflix คือ All of Us Are Dead (2022) ซึ่งเป็นซีรีส์แนวซอมบี้ในโรงเรียนมัธยม โดยมีผู้ชมถึง 55.5 ล้านวิว จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ Netflix ยังคงลงทุนผลิตซีรีส์จากเกาหลีอย่างต่อเนื่อง
ภาพ: David Esser / Shutterstock
อ้างอิง: